พูดถึงการเติม prefix กลุ่ม un- dis-, mis-, anti-, in- ให้คำศัพท์เพื่อ “reverse” (สลับขั้ว) ความหมายของมัน
ตัวอย่างคำศัพท์เช่น...
“Un-” + Happy -> Unhappy ( = not happy)
“Dis-” + Agree -> Disagree ( = not agree)
“Mis-” + Understand -> Misunderstand ( = understand wrongly)
“Anti-” + Biotic -> Antibiotic ( = against bacteria)
✅ จะเห็นว่าความหมายมันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ not เท่านั้น (เช่น สุข / ไม่สุข) แต่ยังรวมไปถึง “wrongly” (แบบผิด ๆ) และ “against” (ต่อต้าน) ด้วย
ส่วนกลุ่ม “In-“ นี่น่าสนใจหน่อย เพราะเสียง N ใน prefix นี้อาจเปลี่ยนเป็นเสียงอื่นเพื่อให้อ่านได้ง่ายขึ้น...
โดยปกติก็ “In-“ + Complete -> “Incomplete” ( = not complete)
👉🏻 แต่ “In-“ + possible -> “Impossible” (“in-“ กลายเป็น “im-“ เมื่ออยู่หน้า “p-”)
👉🏻 และ “In-“ + legal -> “Illegal” (“in-“ กลายเป็น “il-“ เมื่ออยู่หน้า “l-”)
👉🏻 รวมไปถึง “In-“ + regular -> “Irregular” (“in-“ กลายเป็น “ir-“ เมื่ออยู่หน้า “r-”)
เราเรียกกระบวนการนี้ว่า "assimilation" (การกลมกลืนเสียง) ที่เคยพูดถึงแบบละเอียดไปในกระทู้ก่อนหน้านี้
มีคำอธิบายว่า... “Assimilation occurs when a prefix undergoes a phonological change to better harmonise with the initial consonant sound of the base word.”
(การกลมกลืนเสียงเกิดขึ้นเมื่อ prefix ถูกปรับเปลี่ยนคุณสมบัติทางเสียงเพื่อให้เข้ากับเสียงพยัญชนะต้นของคำหลัก (ที่มันไปขยาย) มากขึ้น)
ตัวอย่างเช่น in + possible ที่มันกลายเป็น “impossible” ไป นั่นก็เพราะว่าตัว m มันเข้ากับเสียง p (หรือ b) มากกว่าตัว n ครับ เนื่องจาก “M” และ “P” เป็นพยัญชนะที่ใช้ริมฝีปากในการออกเสียงทั้งคู่ (bilabial consonant)
ลองพูดคำว่า “พี” กับ “มี” ดูครับ จะพบว่าปากเราขยับคล้ายกันเลย
_____
อีกเรื่องที่น่าสนใจอยู่ในประเด็นของ prefix “in-“ เหมือนกัน ง่าย ๆ เลยคือ คำศัพท์บางคำพอเติม prefix “in-” เข้ามาแล้วอาจไม่ได้เป็นการสลับขั้วให้ความหมาย แต่เพิ่มความหมายอื่น ๆ เข้ามา
คำที่เจอนักเรียนสับสนบ่อยที่สุดเลยคือ “Famous” ที่แปลว่า "มีชื่อเสียง" ซึ่งพอเติม prefix “in-” เข้ามาเป็น “Infamous” มันก็ควรจะแปลว่า “ไม่มีชื่อเสียง” ใช่ไหม? แต่ไม่ใช่ครับ Infamous มันแปลว่า “มีชื่อเสียงในด้านแย่” ต่างหาก
คำเหล่านี้แหละที่ควรระวัง
Famous = มีชื่อเสียง (positive)
Infamous = มีชื่อเสียงในด้านแย่ (negative but not reversed)
Valuable = มีค่า (positive)
Invaluable = มีค่าหรือมีประโยชน์อย่างมาก (very positive)
Flammable = ติดไฟได้ง่าย (neutral)
Inflammable = ติดไฟได้ง่าย (neutral)
สำหรับ “Flammable” และ “Inflammable” นี้หลายที native speaker ยังสับสนเลยครับ (และชอบเอามาทำเป็นมีมอยู่บ่อย ๆ) เอาจริงความหมายมันก็เหมือนกันเลย แต่ในคำเตือนอย่าง “ระวังวัตถุไวไฟ” เราจะใช้คำว่า flammable เป็นหลักครับ
เช่น WARNING: FLAMMABLE GAS (ระวังก๊าซไวไฟ)
หรือ WARNING: HIGHLY FLAMMABLE LIQUID (ระวังสารไวไฟ)
_____
จากนี้ถ้าเจอก็ลองสังเกตดูนะครับว่าสามคำนี้ (famous, valuable, flammable) พอเติม in- เข้าไปแล้วความหมายมันเป็นอย่างไรบ้าง
ฝากไว้เรื่องสุดท้ายคือการออกเสียง “Valuable” ที่ไม่ได้อ่านว่า แว-ลู-เอ-เบิล นะครับ แต่ให้เราออกเสียงเป็น “แฝล-เหยอะ-เบิล” /ˈvæljəbəl/ แล้วจะพูดง่ายขึ้น (แต่ในตอนแรกจะยากหน่อยนะ!)
“รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน”
JGC.
การเติม prefix กลุ่ม un- dis-, mis-, anti-, in- ให้คำศัพท์เพื่อ “reverse” ความหมาย
ตัวอย่างคำศัพท์เช่น...
“Un-” + Happy -> Unhappy ( = not happy)
“Dis-” + Agree -> Disagree ( = not agree)
“Mis-” + Understand -> Misunderstand ( = understand wrongly)
“Anti-” + Biotic -> Antibiotic ( = against bacteria)
✅ จะเห็นว่าความหมายมันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ not เท่านั้น (เช่น สุข / ไม่สุข) แต่ยังรวมไปถึง “wrongly” (แบบผิด ๆ) และ “against” (ต่อต้าน) ด้วย
ส่วนกลุ่ม “In-“ นี่น่าสนใจหน่อย เพราะเสียง N ใน prefix นี้อาจเปลี่ยนเป็นเสียงอื่นเพื่อให้อ่านได้ง่ายขึ้น...
โดยปกติก็ “In-“ + Complete -> “Incomplete” ( = not complete)
👉🏻 แต่ “In-“ + possible -> “Impossible” (“in-“ กลายเป็น “im-“ เมื่ออยู่หน้า “p-”)
👉🏻 และ “In-“ + legal -> “Illegal” (“in-“ กลายเป็น “il-“ เมื่ออยู่หน้า “l-”)
👉🏻 รวมไปถึง “In-“ + regular -> “Irregular” (“in-“ กลายเป็น “ir-“ เมื่ออยู่หน้า “r-”)
เราเรียกกระบวนการนี้ว่า "assimilation" (การกลมกลืนเสียง) ที่เคยพูดถึงแบบละเอียดไปในกระทู้ก่อนหน้านี้
มีคำอธิบายว่า... “Assimilation occurs when a prefix undergoes a phonological change to better harmonise with the initial consonant sound of the base word.”
(การกลมกลืนเสียงเกิดขึ้นเมื่อ prefix ถูกปรับเปลี่ยนคุณสมบัติทางเสียงเพื่อให้เข้ากับเสียงพยัญชนะต้นของคำหลัก (ที่มันไปขยาย) มากขึ้น)
ตัวอย่างเช่น in + possible ที่มันกลายเป็น “impossible” ไป นั่นก็เพราะว่าตัว m มันเข้ากับเสียง p (หรือ b) มากกว่าตัว n ครับ เนื่องจาก “M” และ “P” เป็นพยัญชนะที่ใช้ริมฝีปากในการออกเสียงทั้งคู่ (bilabial consonant)
ลองพูดคำว่า “พี” กับ “มี” ดูครับ จะพบว่าปากเราขยับคล้ายกันเลย
_____
อีกเรื่องที่น่าสนใจอยู่ในประเด็นของ prefix “in-“ เหมือนกัน ง่าย ๆ เลยคือ คำศัพท์บางคำพอเติม prefix “in-” เข้ามาแล้วอาจไม่ได้เป็นการสลับขั้วให้ความหมาย แต่เพิ่มความหมายอื่น ๆ เข้ามา
คำที่เจอนักเรียนสับสนบ่อยที่สุดเลยคือ “Famous” ที่แปลว่า "มีชื่อเสียง" ซึ่งพอเติม prefix “in-” เข้ามาเป็น “Infamous” มันก็ควรจะแปลว่า “ไม่มีชื่อเสียง” ใช่ไหม? แต่ไม่ใช่ครับ Infamous มันแปลว่า “มีชื่อเสียงในด้านแย่” ต่างหาก
คำเหล่านี้แหละที่ควรระวัง
Famous = มีชื่อเสียง (positive)
Infamous = มีชื่อเสียงในด้านแย่ (negative but not reversed)
Valuable = มีค่า (positive)
Invaluable = มีค่าหรือมีประโยชน์อย่างมาก (very positive)
Flammable = ติดไฟได้ง่าย (neutral)
Inflammable = ติดไฟได้ง่าย (neutral)
สำหรับ “Flammable” และ “Inflammable” นี้หลายที native speaker ยังสับสนเลยครับ (และชอบเอามาทำเป็นมีมอยู่บ่อย ๆ) เอาจริงความหมายมันก็เหมือนกันเลย แต่ในคำเตือนอย่าง “ระวังวัตถุไวไฟ” เราจะใช้คำว่า flammable เป็นหลักครับ
เช่น WARNING: FLAMMABLE GAS (ระวังก๊าซไวไฟ)
หรือ WARNING: HIGHLY FLAMMABLE LIQUID (ระวังสารไวไฟ)
_____
จากนี้ถ้าเจอก็ลองสังเกตดูนะครับว่าสามคำนี้ (famous, valuable, flammable) พอเติม in- เข้าไปแล้วความหมายมันเป็นอย่างไรบ้าง
ฝากไว้เรื่องสุดท้ายคือการออกเสียง “Valuable” ที่ไม่ได้อ่านว่า แว-ลู-เอ-เบิล นะครับ แต่ให้เราออกเสียงเป็น “แฝล-เหยอะ-เบิล” /ˈvæljəbəl/ แล้วจะพูดง่ายขึ้น (แต่ในตอนแรกจะยากหน่อยนะ!)
“รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน”
JGC.