เดินหน้าขยายเกษียณอายุเป็น 65 ปี แก้ข้าราชการขาดแคลน


“อ.บวรศักดิ์” ยัน รัฐบาลเดินหน้าขยายอายุเกษียณราชการเป็น 65 ปี แก้ปัญหาขาดแคลนข้าราชการ เหตุไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จี้การเมืองท้องถิ่นอย่ามัวรอฟังรัฐบาลส่วนกลางสั่ง ต้องคิดหารายได้ด้วย

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “อนาคตท้องถิ่นไทย กับการเลือกตั้ง อบต.” ในงานเสวนาของสถาบันพระปกเกล้า “ปักหมุดเลือกตั้ง อบต. 69 กับความคาดหวังของสังคมไทย” ที่โรงแรมเซ็นทาราไลฟ์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ตอนหนึ่ง ว่า ปัจจุบันการปกครองท้องถิ่นของไทยมีพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงอย่างมาก เวลากว่า 20 ปี การปกครองส่วนท้องถิ่นทำความเจริญให้กับท้องถิ่นหลายพื้นที่อย่างเห็นชัด จากการสำรวจความเชื่อมั่นระดับท้องถิ่นของสถาบันพระปกเกล้า พบว่าความเชื่อมั่นท้องถิ่นสูงกว่าส่วนกลาง ในปี 2565 คนเชื่อมั่นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากเดิม 82.5 % เพิ่มเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเป็น 93.8% เมื่อเทียบกับส่วนราชการส่วนกลางจะพบว่าท้องถิ่นได้รับความเชื่อมั่นสูงกว่า สะท้อนว่า ชาวบ้านเห็นว่าได้รับประโยชน์จากท้องถิ่นมากกว่าส่วนกลาง 
นายบวรศักดิ์ กล่าวต่อไป อย่างไรก็ตามมีสิ่งที่องค์กรปกครองท้องถิ่นจะต้องเผชิญในอนาคต คือ สังคมไทยต้องเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ คนเกิดน้อยกว่าคนตายเข้าสู่ปีที่ 5 จะทำให้คนสูงอายุมากกว่าคนวัยทำงาน ตัวเลขคนทำงาน 2 คน ต้องดูแลผู้สูงอายุ 1 คน และในอีก 10 ปีข้างหน้าตัวเลขน่ากลัว โดยตัวเลขคนทำงาน 1 คน จะดูแลผู้สูงอายุเกิน 60 ปี 1 ต่อ 1
ทั้งนี้ จึงเป็นเหตุให้รัฐบาล ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ศึกษาว่าจะขยายอายุราชการขึ้นเป็น 65 ปี เพราะคนจะเข้าสู่ระบบราชการน้อยลง อีกทั้งคนเปลี่ยนนิสัย Gen Z ถึง Gen Alpha จะเน้นความสมดุลระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิต เข้ามาทำงาน 3 เดือน 6 เดือนก็ลาออก ซึ่งระบบราชการไม่สามารถใช้คนเช่นนี้ได้ รัฐบาลจึงต้องคิดขยายเกษียณอายุราชการ เมื่อมีผู้สูงอายุ การดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดจะต้องมีระบบสาธารณูปการ เช่น ห้องพักคนชรา มีอาสาสมัครลงไปเยี่ยมเยียนคนชราที่บ้าน 
...
ขณะเดียวกัน นายบวรศักดิ์ ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 มกราคม 2569 ว่า ตนอยากให้ท้องถิ่นต้องเปลี่ยนบทบาทจากรอฟังจากมหาดไทย รอฟังรัฐบาล เป็นผู้ออกแบบบริการด้วยตนเอง ทำให้ท้องถิ่นสามารถสนองความต้องการในพื้นที่โดยตรง และต้องคิดเรื่องหารายได้ แทนที่จะพึ่งพางบประมาณจากรัฐบาลกลาง ซึ่งวันนี้มีการแก้กฎหมายโดยสำนักงบประมาณจัดสรรตรงให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ ถ้าเราไม่รู้จักหารายได้เองจะเกิดปัญหาในอนาคต อาจจะคิดในรูปแบบสหการโดยหลายท้องถิ่นมาร่วมมือกัน เช่น โรงไฟฟ้าขยะ โดยจะต้องไม่เกรงใจนักเลือกตั้งที่ไม่อยากเสียคะแนนเสียงในการเก็บภาษีเพิ่ม รวมถึงจะต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชน และสุดท้ายขอให้ท้องถิ่นทุกรูปแบบจะต้องบูรณาการร่วมกัน งบบูรณาการ อย่าเอาอย่างส่วนราชการส่วนกลางที่ต่างคนต่างทำ.




ใจคอไม่คิดจะให้โอกาสเด็กๆเลย kpi ราชการมันไม่เข้มพอทำงานไม่ได้ก็ลากกันไป

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่