โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่คนไทยพบมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป น้ำหนักเกิน ทานหวานบ่อย หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน การตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะแรกช่วยป้องกันความเสี่ยงหัวใจ ไตเสื่อม และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้อย่างมาก
บทความนี้รวมทุกอย่างที่จำเป็นก่อนตรวจจริง
- วิธีคัดกรองเบาหวาน
- การเตรียมตัวก่อนตรวจ
- ราคาโดยประมาณของการตรวจ (แตกต่างตามแต่ละโรงพยาบาล)
อ่านจบเลือกตรวจได้ทันที
วิธีตรวจเบาหวานมีกี่แบบ? แบบไหนแม่นที่สุด
เหมาะกับ:
คนที่ต้องการตรวจครั้งแรก
2) ตรวจ HbA1c — ค่าเฉลี่ยน้ำตาล 3 เดือน ไม่ต้องงดอาหาร
และเป็นค่าที่ แม่นที่สุด สำหรับคัดกรองเบาหวานและติดตามผล
เกณฑ์ตีความ:
< 5.7 = ปกติ
5.7–6.4 = เสี่ยงเบาหวาน
≥ 6.5 = เข้าข่ายเบาหวาน
3) ตรวจ OGTT (ดื่มน้ำตาล) วัดการตอบสนองของร่างกายหลังดื่มน้ำตาล 75 กรัมเหมาะสำหรับคนที่ค่า FBS หรือ HbA1c ยังไม่ชัดเจน หรือหญิงตั้งครรภ์
4) ตรวจน้ำตาลปลายนิ้ว (Fingerstick)สะดวก แต่ไม่ใช่ค่ามาตรฐานวินิจฉัยเหมาะสำหรับติดตามผลรายวันของผู้ป่วย
ทำไมต้องตรวจหลายอย่างร่วมกัน?
แม้ชื่อจะคือ “ตรวจเบาหวาน” แต่โรคนี้เกี่ยวข้องกับหลายอวัยวะ
ดังนั้นการตรวจเพียงน้ำตาลอย่างเดียว ไม่เพียงพอ
โรงพยาบาลส่วนใหญ่ รวมถึง รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม จึงใช้วิธีตรวจ “แบบรวม” เพื่อประเมินความเสี่ยงรอบด้าน เช่น:
- ตรวจไต (Creatinine + Microalbumin) เบาหวานเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของโรคไตเรื้อรัง
Microalbumin ตรวจพบไตเสื่อม “ระยะแรกสุด” แม้ผลอื่นยังปกติ
- ตรวจตับ (SGPT) ประเมินภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งพบมากในคนมีน้ำตาลสูง
ตรวจปัสสาวะ UA
เช็กการติดเชื้อและโปรตีนรั่ว
ตรวจ EKG + X-ray
ผู้เป็นเบาหวานมีความเสี่ยงโรคหัวใจมากกว่าคนทั่วไป 2–3 เท่า
ราคาโดยประมาณของการตรวจเบาหวาน (ขึ้นกับแต่ละโรงพยาบาล)
ราคาแตกต่างกันในแต่ละโรงพยาบาล รวมถึงการตรวจแบบแยกรายการหรือ “ตรวจแบบรวม”โดยทั่วไป การตรวจหลายอย่างพร้อมกันจะคุ้มกว่าการแยกตรวจทีละรายการ
สัญญาณเตือนที่ควรตรวจเบาหวานทันที
- กระหายน้ำมาก
- ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ
- เหนื่อยง่าย
- น้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจ
- ชาปลายมือปลายเท้า
- แผลหายช้า
- รอบเอวเกินเกณฑ์
- มีประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน
- อายุ 35 ปีขึ้นไป
หากมี ≥ 2 ข้อ แนะนำตรวจทันที
ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนตรวจ?
- FBS → ต้องงดอาหาร 8–12 ชั่วโมงก่อนตรวจ
- HbA1c → ไม่ต้องงดอาหาร ตรวจเวลาไหนก็ได้
- OGTT → ต้องอดอาหาร และใช้เวลาอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 2 ชั่วโมง
เตรียมตัวทั่วไป
- นอนหลับให้พอ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักก่อนตรวจ
- นำยาที่ทานประจำไปให้แพทย์ดู
ตรวจบ่อยแค่ไหนถึงจะพอ?
- คนทั่วไป: ปีละ 1 ครั้ง
- กลุ่มเสี่ยงสูง: ทุก 6–12 เดือน
- ค่า HbA1c ≥ 5.7: ทุก 3–6 เดือน
- ผู้ป่วยเบาหวาน: ทุก 3 เดือนตามคำแนะนำแพทย์
FAQ – ตอบแบบเข้าใจง่าย
1) ตรวจเบาหวานต้องตรวจอะไรบ้าง?
ควรตรวจทั้ง FBS, HbA1c และค่าที่เกี่ยวกับหัวใจ ไต ไขมัน และปัสสาวะเพื่อประเมินความเสี่ยงทั้งร่างกาย
2) ตรวจ HbA1c ต้องงดอาหารไหม?
ไม่ต้องงดอาหาร
3) ตรวจใช้เวลานานไหม?
ประมาณ 60–90 นาที ขึ้นกับจำนวนรายการ
4) ไม่มีอาการควรตรวจไหม?
ควร โดยเฉพาะผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไปหรือมีประวัติครอบครัว
5) ราคาเท่าไหร่?
แตกต่างตามแต่ละโรงพยาบาล
รวมวิธีคัดกรองเบาหวาน ราคาโดยประมาณ และการเตรียมตัวก่อนตรวจ
โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่คนไทยพบมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป น้ำหนักเกิน ทานหวานบ่อย หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน การตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะแรกช่วยป้องกันความเสี่ยงหัวใจ ไตเสื่อม และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้อย่างมาก
ใช้วินิจฉัยเบื้องต้นว่ามีภาวะน้ำตาลสูงเกินปกติหรือไม่
คนที่ต้องการตรวจครั้งแรก
และเป็นค่าที่ แม่นที่สุด สำหรับคัดกรองเบาหวานและติดตามผล
ดังนั้นการตรวจเพียงน้ำตาลอย่างเดียว ไม่เพียงพอ
Microalbumin ตรวจพบไตเสื่อม “ระยะแรกสุด” แม้ผลอื่นยังปกติ
ควรตรวจทั้ง FBS, HbA1c และค่าที่เกี่ยวกับหัวใจ ไต ไขมัน และปัสสาวะเพื่อประเมินความเสี่ยงทั้งร่างกาย
ไม่ต้องงดอาหาร
ประมาณ 60–90 นาที ขึ้นกับจำนวนรายการ
ควร โดยเฉพาะผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไปหรือมีประวัติครอบครัว
แตกต่างตามแต่ละโรงพยาบาล