เห็นกระทู้ถามว่า "ทำไมไม่ค่อยมีคนเล่าถึงชีวิต Extrovert" งั้นผมขอประเดิมบทความ "ชีวิต Extrovert ของฉัน" ละกัน

วันนี้นั่งอ่านกระทู้ตามปกติ แล้วบังเอิญไปเจอกระทู้นี้ "ทำไมมีแต่คน Introvert ที่พยายามพรีเซ็นต์ความเป็น Introvert ของตัวเองออกสื่อ แม้แต่ดารา"

แล้วเขาสอบถามว่า

ทั้งบทความ , Vlog , Blog และอื่นๆ
ไม่เคยเห็นบทความชื่อ "ชีวิต Extrovert ของฉัน"
หรือ Vlog "หนึ่งวันของคน Extrovert เลย"

https://pantip.com/topic/43862776/

ผมเองเข้าไปตอบกระทู้นั้น และก็นึกขึ้นได้ว่า เอ๊ะ ถ้ามันไม่มี งั้นเราเขียนเองเลยดีกว่า เพราะผมเองรู้สึกมาตลอดว่า เพราะผมเองก็ Identify ตัวเองว่าคือคน Extrovert แบบสุดขอบโลกคนนึงเลย

ปัจจุบัน MBTI ผมคือ ENFP Extraverted (ชอบเข้าสังคม), Ntuitive (เน้นความคิดสร้างสรรค์), Feeling (ใช้ความรู้สึก), และ Perceiving (ยืดหยุ่น) ซึ่งคาแร็คเตอร์ทั้ง 4 ตัวชัดหมด

จุดเริ่มต้นความเป็น Extrovert

1. ผมนึกไม่ออกนะครับว่า ทำไมผมเป็นคน Extrovert แต่เท่าที่จำได้คือ ผมเองโตมา จะชอบตั้งคำถามตั้งแต่อนุบาล ทำไมเด็กที่โตมารอบตัวเราขี้อายจัง ให้ขึ้นไปพูดหน้าชั้นก็อาย ก็ร้องไห้ เกี่ยงกันจัง ผมก็เลยแบบ มาเดี๋ยวเราทำให้ดู และสิ่งที่ได้ก็คือ คุณครูดูจะชอบ ให้รางวัลเรา ดูจะว้าวที่เรากล้า เลยยิ่งทำให้เราอยากแสดงออกเข้าไปอีก พอโตขึ้นมา ผมไปเรียนดนตรีสยามกลการ เพราะดูละคร เบญจา คีตา ความรัก ก็ถูกชมเรื่องร้องเพลง ก็ยิ่งดีดไปใหญ่ มีงานโชว์ก็รับตลอด เคยงอนโรงเรียนอยู่ปีนึงด้วย เพราะไม่ยอมให้ผมโชว์เดี่ยวในงานเลี้ยงปีใหม่โรงเรียน

2. เท่าที่จำได้ ผมเป็นคนที่ชอบออกไปนอกบ้าน แม่ผมสมัยก่อนทำงานธนาคาร วันเสาร์เลิกครึ่งวัน และครึ่งวันที่เหลือแม่จะชอบพาไปเดินห้าง ผมจะแฮปปี้และมีความสุขมาก ถ้าวีคไหนไม่ได้ไป จะหงุดหงิด และถึงกับร้องไห้เลย และสมัยเด็กๆ ถ้าวีคไหนไม่มีกิจกรรม ออกไปนอกบ้าน ผมจะงอแงทันที แต่โตมาก็สัมผัสได้เลยว่า แม่ผมคือ Introvert มากๆ การออกไปข้างนอกคงเป็นสิ่งที่ท่านไม่ชอบ แต่ท่านก็พยายามทำให้เรามีความสุข ก็รู้สึกเสียใจที่เรางอแงแบบนั้นตอนเด็ก  

3. พอเข้าสู่วัยประถม ดูหนังเมกาเห็นคนที่นั่นมีรถบ้าน ก็เป็นความฝันวัยเด็กเลย จริงๆ ก็แอบรู้สึกว่า การที่ผมโตมากับ Cartoon Network และ UBC ได้ดูรายการสารคดี การ์ตูน ศิลปะฝั่งตะวันตกมาตั้งแต่เด็ก มันก็กระตุ้นการอยากออกไปผจญภัยเจอคนประมาณเลย

4. รู้สึกว่าผมเป็นคนมั่นใจมากๆ เพราะคนรอบตัว สื่อที่เสพมักสอนว่า ถ้าเราไม่เบียดเบียนใครแล้วแฮปปี้ ก็ทำไปเถอะ เอาจริงๆ เกิดมา ผมไม่เคยเจอผู้ใหญ่ที่พูดกับผมว่า "อย่าทำตัวเด่นจะเป็นภัย" แต่คนรอบตัวเจอบ่อย

วีรกรรมความเป็น Extrovert เมื่อเป็นผู้ใหญ่

จากวัยเด็กที่ผ่านมา ตอนนี้ผมก็ใช้ชีวิตมา 30 ปีบนโลก และเป็นที่รู้จักในฐานะคนที่ Extrovert ก็จะมีวีรกรรมความ Extrovert ของตัวเองประมาณนึงเลย อันนี้คือที่นึกออกนะครับ

1. ผมชอบการออกนอกบ้านมาก ทุกวันต้องออก มีความสุขทุกครั้งที่ได้คุยงาน หรือมีคนไลน์หาจะรู้สึกฟิน บางทีไม่มีคนคุยด้วย 1 ชมก็เริ่มหงุดหงิด
  
2. มีความสุขเวลาได้ไปคอนเสิร์ตและงาน Networking มากๆ แทบไม่เคยรีเจกต์ ยกเว้นงานมันชนกันจริงๆ

3. เวลาไปสถานที่ไหนที่คนเยอะๆ เป็นครั้งแรก ช่วงแรกๆ จะไม่ชอบ (ไม่ใช่เพราะอึดอัด แต่เพราะเกลียดความรู้สึกที่คนไม่รู้จักเรา อยากให้คนในสถานที่นั้นรู้จักเรา ก็จะเริ่มหาเรื่องคุยกับคนที่อยู่ตรงนั้นทันที)

4. ผมชอบแต่งตัวสีสันจัดจ้าน ชอบแต่งตัวแบบที่เป็นตัวเอง และแฮปปี้เวลาได้เล่าถึงที่มาชุด และการแต่งตัวของเรา ในสปอยล์จะเป็นการแต่งตัวของผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ของข้อ 4 ผมเคยไปอินเดีย และใส่ชุดกางเกงตุ๊กตา Handmade ที่แฟนเย็บให้ ไปเที่ยวทัชมาฮาล ตอนนั้นคนก็ขอถ่ายรูปเยอะมาก แล้วเราก็เอนจอยความรู้สึกวันนั้นมากๆ https://pantip.com/profile/1012853/topics

5. ขึ้นรถสาธารณะ คุยกับคนขับ Grab และ Taxi ตลอด ถ้าขึ้นรถแล้วเขาดูชิลล์ๆ ก็คุยทันที บางทีก็ชอบนั่งรถเมล์เรื่อยๆ ถ้าสมมุติเสร็จงานเร็วแล้วขี้เกียจกลับบ้าน เพราะชอบการเฝ้ามองผู้คน อยู่กับคน และสิ่งหนึ่งที่ชอบทำบ่อยมากคือ เข้าร้านนวดไทย บางทีไม่เมื่อย แต่ก็เข้า อยากไปนอนเม้าขณะป้าร้านนวดนวดเรา   

6. ผมเป็นที่เอะอะเป็นเปิดโซเชียล เวลาอยู่คนเดียว เช็คมือถือถี่ประมาณนึง บางทีอยู่กับคนก็เป็น จนบางทีคนรอบตัวก็เตือนว่า ให้โฟกัสกับสิ่งที่ทำอยู่

7. ผมเรียนร้องเพลง และชอบการ Public Speaking มาก จำได้เลยว่าตอนเรียนคลาส Public Speaking ผมจะขอออกไปพูดคนแรกตลอด ถ้ามีปาร์ตี้จะเป็นคนแรกที่ออกไปเต้น ถ้ามีให้ร้องเพลง หรือโชว์ผมจะเป็น Choice แรกของทีมเสมอ และเต็มใจรับสุดๆ

8. เคยเป็นหัวหน้าห้อง หัวหน้าหมู่ลูกเสือมา เป็น Project Leader มาหมด ไม่เคยมี Reject การนำคน วันนี้ก็เปิด Pr Agency เอง ขอรับหน้าทุกโปรเจกต์เองหมด ไม่รู้สึกอยากหลบหลังใคร  เคยลองเข้าไปทำ Direct Sale เจ้านึงอยู่เป็นปีด้วย เพราะเราไม่มายด์การเจอคน

9. เคยไปทัวร์ต่างประเทศ แบบซื้อทัวร์คนเดียว พักเดี่ยวบ่อยมากๆ แต่ไม่เคยเหงา แต่ตอนนี้มีแฟนแล้ว ก็ไปกับแฟนครับ

10. ความติดโซเชียลของผม มันลามมาถึงความชอบต่างๆ ด้วย หลายๆ สิ่งที่เราชอบเราอิน เราสามารถพูดคุยได้เป็นวันๆ และบางทีก็ไปสุดกับความชอบ จนกลายเป็นผู้นำในกลุ่มนั้นเลย อย่าง ชมรมคนรักโคนัน และ F1 Thailand ผมเข้าไปในกรุ๊ป เดือนกว่าๆ ก็ขึ้น All star Contributor เลย เพราะตั้งโพสต์และคอมเมนต์แทบทุกวัน ตอบจริงจังหมด หรืออย่างซีรีส์ผมก็ชอบมาก และโพสต์ในเพจบ่อย จนอยู่ดีๆ ถูกทักมาเลยว่า ขอแอดเป็นแอดมิน Glee Thailand อีกคน และตอนนั้นจำได้เลยว่าตอนอายุ 19 พยายามฟอร์มวงกับคนแปลกหน้า เพราะอยากทำวงแบบใน Glee จนซ้อมจริงจัง แต่โปรเจกต์ล่มก่อน   

11. อาชีพผมเป็นนักข่าวบันเทิง ตอนนี้มาเปิด Pr Agency ผมจะเอนจอยการเจอศิลปินมาก ถ่ายรูปกับทุกคน มี Hall of Fame ที่เล่าความรู้สึกวันนั้นตลอด

12. ผมไม่เคยมีแอคหลุม เปิดเผยตัวตนหมดทั้ง Pantip, X, IG, FB ถ้า IG นี่แล้วใหญ่เลยคือ ผมตั้งกฎเล็กๆ ว่า ทุกรูปที่ลงในฟีด ต้องเป็นรูปผม

12. อันนี้อาจจะฟังดูแปลก แต่บางทีผมชอบทะเลาะกับคน ชอบถกเถียงประชันความคิดเห็นที่ต่างกัน แล้วรู้สึกอะดรีนาลีนมันหลั่งดี

เคยลองเล่น Template นี้ แล้วพบว่าตัวเอง เป็นครบทุกข้อ ยกเว้นข้อติดเพื่อน เพราะปกติจะเข้าหาแฟนก่อน เพราะแฟนผมเข้าใจความเป็นผม และส่วนใหญ่ผมชอบคุยกับคนแปลกหน้า ไม่ได้แบบสนิทกับใครมากๆ ขนาดนั้น ตั้งแต่มีแฟนมา



ข้อเสียของการเป็นคน Extrovert

สำหรับผม ผมมองว่าการเป็นคน Extrovert มันก็มีข้อเสียบ้างเหมือนกัน ที่ผมเองต้องเรียนรู้ที่อยู่กับมัน อันนี้จะเป็นเรื่องที่ผมเจอ

1. คนไม่เข้าใจ
อันนี้แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเจอ เพราะคนรอบตัวคือ Introvert หรือ ถ้า Extrovert ก็ไม่ใช่แบบสุดทางแบบเรา บางคนมองว่าเรารั่ว เราบ้า เราประจบประแจง เราเลียก้นคน ทั้งๆ ที่เออ เราก็มีสติ เราแค่ชอบมีความสุข และชอบเห็นคนแฮปปี้ ผมโดนตั้งกลุ่มนินทาเป็นประจำจนชินละ

แต่ในความที่โดนนินทา ผมเองก็ไม่ค่อยแคร์หรอก เพราะเรามั่นใจและพ่อแม่กับคนรอบตัวชอบสอนว่า  ถ้าเราไม่เบียดเบียนใคร แล้วเราแฮปปี้ที่จะทำมัน ก็ทำไปเถอะ ก็ต้องขอบคุณคนรอบตัวที่เป็นวัคซีนที่ดีให้กับเรา และขอบคุณตัวเองที่ไม่ปล่อยให้คนพลังลบๆ มาทำร้าย

กับอีกบทเรียนที่ผมเรียนรู้จากศิลปินที่เคยสัมภาษณ์ เขาบอกผมว่า เวลาเราแตกต่าง นำเสนออะไรใหม่ๆ อะ มันมีแรงต้านเสมอ เพราะเขาไม่รู้จัก เขาไม่เข้าใจ อย่างเพลงค่ายกามิกาเซ่ ที่วันนึงโดนแอนตี้มากๆ แต่วันนี้คือใครๆ ก็ทำเพลงและร้องแบบนั้น หรืออย่างเหรียญคริปโตที่ตอนแรกคนด่าเยอะมาก แต่วันนี้คนเล่นกันเยอะ เป็นสินทรัพย์ที่คนสนใจ  ผมเลยไม่แคร์ถ้าใครจะไม่เข้าใจ

คือทุกวันนี้ผมดีลกับความรู้สึกคนไม่เข้าใจได้ และก็อยากเป็นกำลังใจให้กับคน Extrovert ที่ถูกไม่เข้าใจเช่นกัน เพราะหลายคนอาจจะไม่ได้มีภูมิคุ้มกันแบบเรา

2. Sensitive ง่ายมาก

ผมจะ Sensitive กับสื่อ หรือคอนเทนต์แนวเศร้าประมาณนึง หรือบางทีเห็นคนถูกเอาเปรียบ หรือกลั่นแกล้งบางทีก็ขึ้นง่ายมาก ผมก็ไม่แน่ใจว่าเพราะความ Extrovert ไหม แต่ผมเป็นหนักประมาณนึง ถึงจุดที่ ถ้าเจอละคร ซีรีส์ หนัง ที่มีรีวิวว่าเศร้าหรือดิ่ง จะเข้าไปดูข้ามๆ หรืออ่านสปอยล์ หรือดูแค่ Highlight พอ (เพราะด้วยอาชีพสายบันเทิง เราเองก็ต้องตามเทรนด์อะไรพวกนี้ตลอด แต่เราก็ไม่อยากดาวน์)  

และผมจะชอบดูหนัง ละคร การ์ตูน เก่าๆ ที่รู้ตอนจบ เวลาว่าง เพราะรู้ว่าตอนจบ มันจะไม่ทำให้เราเศร้า และนอกจากหนังเก่า การ์ตูนเก่า ความบันเทิงจะเป็นแนวดู F1 หรือดูคอนเสิร์ตฟังเพลง ที่ไม่ได้ชวนดิ่งมาก

3. ช่วงโควิด = นรกมาก

ออฟฟิศผม เป็นออฟฟิศที่ WFH เกือบ 2 ปี แล้วผมรู้สึกเลยว่า สองปีนั้น เราทำงานแค่ 70% ของสิ่งที่ทำได้ เพราะเราดาวน์กับการอยู่บ้านมาก คือรู้สึกเลยว่า เพื่อนเรารับมือได้ดีกว่าเรา และความตลกร้ายคือ พอโควิดจบ ความ Extrovert เรากราฟพุ่งไปอีกระดับเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าช่วงโควิด เราอิจฉาการฮีลตัวเองของคน Introvert นะ

4. แอบรู้สึกว่าความสุขของคน Extrovert ส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมชวนเสียเงิน 55

อันนี้สังเกตจากแฟนที่เป็น Introvert และคุณแม่ ทั้งสองคนเป็นผญที่จะฮีลตัวเองด้วยการนอนในห้องแอร์เงียบๆ ได้เป็นวัน แบบแทบไม่ออกไปไหน แต่กับผมนั้น ต้องหากิจกรรมทำ ต้องออกไปข้างนอก หรืออยู่ในบ้านก็ต้องหาอะไรทำ อะไรลงเล่น ซึ่งล้วนเป็นอะไรที่ต้องเสียเงินประมาณนึงเลย ก็ยังบอกกับแฟนๆ บ่อยๆ เลยว่า ดีจังที่อยู่นิ่งๆ ก็ฮีลตัวเองได้

บททิ้งท้าย แล้ว คน Extrovert มีความเบื่อคนไหม

สำหรับผม ผมก็มีนะ บางทีเดินสายพาศิลปินสัมภาษณ์ หรือรับแขกเยอะๆ ก็ล้าได้เหมือนกัน แต่กว่าจะล้า ก็จะใช้เวลาประมาณนึง ก็รู้สึกล้าและแบบ เออ วันนี้ขอไม่ไปไหนนะ อย่างตอนเป็นนักข่าวบันเทิง ก็จะมีช่วงที่ขอไม่รับคิวงานบ้าง

ที่อยากพูดเรื่องนี้ก็เพราะว่า เห็นหลายคนเจอคน Introvert ที่เจอคน คุยกับคนได้ แล้วไปบอกว่าคนนั้นเป็น Introvert ปลอม แต่ผมกลับมองว่า อะไรแบบนี้มันเป็น Spectrum เป็นเฉดสีมากกว่า คือคน Introvert บางทีก็เจอคน และอยากเจอคนได้ คน Extrovert บางทีก็เหนื่อยเป็นนะ

อันนี้คือ บทความ ชีวิต Extrovert แบบผม ถ้าสมมุติมีสตอรี่ใหม่ๆ เดี๋ยวจะมาอัปเดตครับ