"1 นาที" นานแค่ไหน? ...ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ฝั่งไหนของประตูห้องน้ำ

สวัสดีครับเพื่อนๆ สมาชิกชาวพันทิป
เคยได้ยินประโยคคลาสสิกที่ว่า "เวลาเป็นสิ่งสัมพัทธ์" ไหมครับ? จริงๆ แล้วเราอาจจะไม่ต้องไปเปิดตำราฟิสิกส์ หรือทำความเข้าใจทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ให้ปวดหัวหรอกครับ เพียงแค่เราลองจินตนาการภาพของ "ประตูห้องน้ำ" บานหนึ่ง... เราก็จะเข้าใจสัจธรรมข้อนี้ได้ทันที
เพราะ 1 นาทีของคุณ กับ 1 นาทีของผม... อาจยาวนานไม่เท่ากัน มันขึ้นอยู่กับว่า เรากำลังยืนอยู่ "ฝั่งไหน" ของประตูบานนั้น
....................
เรื่องตลกแสนคมคายที่มักเริ่มต้นหน้าห้องน้ำ จริงๆ แล้วมันสะท้อนความเป็นจริงที่น่าขนลุกในชีวิตประจำวันนะครับ เพราะ "ความรู้สึก" นี่แหละครับ คือตัวกำหนดความเร็วของเข็มนาฬิกา
ผมลองนั่งทบทวนดูเล่นๆ แล้วพบว่า ในชีวิตจริงเราเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยมาก ลองมองไปรอบๆ ตัวเราดูสิครับ...
1. ในโลกของการสื่อสาร 1 นาทีของการรอให้ใครสักคนตอบแชท หลังจากขึ้นสถานะว่า "Read" แล้ว... สำหรับคนรอ มันช่างยาวนานเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์ ความกังวลใจ ความน้อยใจ ประดังเข้ามาไม่หยุดหย่อน แต่สำหรับฝ่ายที่ไม่ตอบ เขากลับรู้สึกว่า "แป๊บเดียวเอง เดี๋ยวค่อยตอบก็ได้" ไม่ได้สลักสำคัญอะไร
2. ในโลกของคนทำงานและฟรีแลนซ์ ช่วงเวลาที่รอ "สลิปโอนเงิน" จากผู้ว่าจ้าง... สำหรับคนจ่าย มันคือความล่าช้าเล็กน้อยที่รอได้ "เดี๋ยวจัดการให้นะ ยุ่งอยู่" แต่สำหรับคนทำงานที่รอค่าตอบแทนจากหยาดเหงื่อ 1 นาทีนั้นคือความกระวนกระวาย คือความไม่มั่นคงทางใจ ว่าเงินจะเข้าทันค่าใช้จ่ายรายวันไหม?
3. ในโลกของความยุติธรรมและสังคม ยิ่งขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น เรายิ่งเห็น "บานประตู" ที่กั้นความรู้สึกชัดเจนขึ้นครับ 1 วันในห้องขังของผู้ที่รอคอยความยุติธรรม ช่างทรมานต่างจาก 1 วันของผู้มีอำนาจที่นั่งจิบกาแฟอยู่ข้างนอก หรือแม้แต่นักสิ่งแวดล้อมที่เห็นโลกกำลังป่วยไข้ ย่อมรู้สึกว่าทุกวินาทีมีค่าในการแก้ไข ต่างจากคนที่ยังสุขสบายและมองว่า "เรื่องไกลตัว รอได้น่า"
....................
เราทุกคนล้วนมี "ประตูห้องน้ำ" เป็นของตัวเองครับ
ประเด็นสำคัญที่ผมอยากชวนคุย ไม่ได้อยู่ที่ว่าเวลามันเดินช้าหรือเร็ว แต่อยู่ที่ "ความตระหนักรู้" (Self-Awareness) ของเราต่างหาก
ในขณะที่เราใช้ชีวิตอย่างเพลิดเพลิน เราอาจกำลังเป็นคนคนนั้น... คนที่นั่งเล่นมือถือสบายใจเฉิบอยู่ในห้องน้ำ โดยหลงลืมไปว่ามีใครบางคนกำลังเต้นเร่าๆ ด้วยความทรมานอยู่หลังประตูบานนั้นหรือเปล่า?
เราอาจจะเป็นคนจ่ายเงินช้าคนนั้น... เราอาจจะเป็นคนดองแชทคนนั้น... หรือเราอาจจะเป็นผู้หยิบยื่นโอกาสที่มัวแต่ลีลา ทั้งที่มีคนเฝ้ารอโอกาสนั้นอย่างใจจดใจจ่อ...
....................
บทสรุป: อย่าขังใครไว้ด้วยความเมินเฉย
โลกใบนี้เต็มไปด้วยบานประตูที่มองไม่เห็นกั้นขวางเราอยู่เต็มไปหมด สิ่งเดียวที่จะทลายกำแพงแห่งความเหลื่อมล้ำของเวลานี้ได้คือ "ความเห็นอกเห็นใจ" (Empathy) ครับ
อยากลองชวนให้ถามตัวเองบ่อยๆ ในแต่ละสถานการณ์ว่า "ตอนนี้เราอยู่ฝั่งไหนของประตู?"
หากรู้ตัวว่าเรากำลังอยู่ข้างใน (ฝั่งที่สบายกว่า) จงรีบทำธุระให้เสร็จ อย่าปล่อยให้ความสุขส่วนตัว กลายเป็นความทรมานแสนสาหัสของคนที่รอคอย เพราะสำหรับพวกเขา... 1 นาทีนั้นอาจหมายถึงทั้งชีวิตครับ
แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ... วันนี้เผลอขังใครไว้หน้าประตูบ้างหรือเปล่า?

พอดีไปเจอเนื้อหานี้ ในหนังสือของ คุณ เอ๋ นิ้วกลม
ช่วงนี้ พยายามอ่านหนังสือ ให้เยอะขึ้น เจอเรื่องไหนที่ถูกใจ จะพยายาม มาแชร์ให้เพื่อนได้อ่านกันนะครับ
ต้นโพสมาจาก FB ส่วนตัวของผมเอง https://www.facebook.com/share/p/1DMDNmsKv3/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่