เคยไหมครับ... ที่ตามข่าวคดีสะเทือนขวัญ แล้วได้ยินประโยคที่เหมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ว่า "ตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้ว" หรือ "หลักฐานมัดตัวแน่น"
แต่ความหวังนั้นกลับถูกกระชากดับวูบลงด้วยประโยคต่อมาที่ว่า... "แต่คดีหมดอายุความแล้ว"
วินาทีนั้น มันไม่ใช่แค่ความเสียใจ แต่มันคือความรู้สึกเหมือน "ถูกกฎหมายหักหลัง"
ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะรู้สึกเจ็บปวดกับตรรกะของกฎหมายไทยในคดีฆาตกรรมและอาชญากรรมร้ายแรง ที่ดูเหมือนจะให้ค่ากับ "เวลา" มากกว่า "ชีวิตคน"
1. เหยื่อถูกฆ่าสองครั้ง... ครั้งที่สองโดยกฎหมาย
ครั้งแรก เหยื่อถูกพรากชีวิตโดยฆาตกร
ครั้งที่สอง เหยื่อและครอบครัวถูกซ้ำเติมโดยกฎหมาย ที่บอกว่า "เสียใจด้วยนะ เวลาผ่านไปนานเกินไปแล้ว เราเอาผิดเขาไม่ได้แล้ว"
มันยุติธรรมแล้วหรือครับ? ที่ความเจ็บปวดของเหยื่อไม่มีวันหมดอายุ แต่ความผิดของคนร้ายกลับมีวันหมดอายุ?
2. "20 ปี" ตัวเลขศักดิ์สิทธิ์ หรือช่องโหว่ให้คนชั่วลอยนวล?
ในประเทศไทย คดีฆาตกรรมมีอายุความ 20 ปี
ปัญหาคือ ถ้าคนร้ายหนีเก่ง หนีไปต่างประเทศ หรือกบดานเงียบๆ จนครบ 20 ปี กับอีก 1 วัน เขาสามารถเดินออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กฎหมายแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับการมอบ "รางวัล" ให้กับคนที่หนีเก่ง กลายเป็นว่า "คนทำผิดชนะ คนถูกกระทำพ่ายแพ้"
3. ทำไมคดีโกงหยุดเวลาได้ แต่คดีฆ่าคนหยุดไม่ได้?
รู้ไหมครับว่า คดีทุจริตคอรัปชันของนักการเมือง/เจ้าหน้าที่รัฐ มีการแก้กฎหมายแล้วว่า "ถ้าจำเลยหลบหนี อายุความจะหยุดเดิน" (หนีไปกี่ปีก็ไม่นับ)
แต่กับคดีฆ่าคนตาย... ถ้าหนี เวลาของอายุความยังเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ
มันเกิดคำถามใหญ่มากๆ ในใจผมว่า "ตกลงแล้ว ชีวิตของประชาชนตาดำๆ มีค่าน้อยกว่าเงินหลวงหรือ?"
4. โลกเขาเปลี่ยนไปแล้ว แต่เรายังอยู่ที่เดิม
เหตุผลดั้งเดิมของการมีอายุความ คือกลัวพยานลืม หรือหลักฐานเสื่อมสภาพ
แต่ในยุคที่มี DNA มีนิติวิทยาศาสตร์ที่ระบุตัวตนได้แม่นยำแม้เวลาผ่านไปเป็นสิบๆ ปี ข้ออ้างนี้ยังฟังขึ้นอยู่ไหม?
ประเทศอย่าง ญี่ปุ่น, เยอรมนี หรือหลายรัฐในอเมริกา เขา "ยกเลิกอายุความในคดีฆาตกรรม" กันไปแล้ว เพราะเขาถือว่าความยุติธรรมต้องไม่มีวันหมดอายุ
ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายนี้
อย่างน้อยที่สุด ถ้ายังยกเลิกไม่ได้ ก็ควรใช้หลักการ "สะดุดหยุดลงของอายุความ" คือถ้าหนีเมื่อไหร่ ให้หยุดนับเวลาเมื่อนั้น
อย่าให้คำว่า "คดีหมดอายุความ" เป็นใบอนุญาตให้ฆาตกรลอยนวลอีกต่อไปเลยครับ
เพราะสำหรับผม... ไม่มีกฎหมายข้อไหน ควรจะมีค่ามากกว่าลมหายใจของมนุษย์ครับ
สำหรับผม "กฎหมายต้องไม่ใช่แค่ปกป้องผู้บริสุทธิ์ได้ แต่กฎหมายต้องแก้แค้นให้ผู้บริสุทธิ์ได้"
เพราะกฎหมายที่ "ไร้น้ำยา" คืออันตรายของสังคม
"ชีวิตคนมีค่าน้อยกว่าอายุความ"... ถึงเวลาหรือยังที่เราจะ "ยกเลิกอายุความ" ในคดีฆาตกรรม?
แต่ความหวังนั้นกลับถูกกระชากดับวูบลงด้วยประโยคต่อมาที่ว่า... "แต่คดีหมดอายุความแล้ว"
วินาทีนั้น มันไม่ใช่แค่ความเสียใจ แต่มันคือความรู้สึกเหมือน "ถูกกฎหมายหักหลัง"
ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะรู้สึกเจ็บปวดกับตรรกะของกฎหมายไทยในคดีฆาตกรรมและอาชญากรรมร้ายแรง ที่ดูเหมือนจะให้ค่ากับ "เวลา" มากกว่า "ชีวิตคน"
1. เหยื่อถูกฆ่าสองครั้ง... ครั้งที่สองโดยกฎหมาย
ครั้งแรก เหยื่อถูกพรากชีวิตโดยฆาตกร
ครั้งที่สอง เหยื่อและครอบครัวถูกซ้ำเติมโดยกฎหมาย ที่บอกว่า "เสียใจด้วยนะ เวลาผ่านไปนานเกินไปแล้ว เราเอาผิดเขาไม่ได้แล้ว"
มันยุติธรรมแล้วหรือครับ? ที่ความเจ็บปวดของเหยื่อไม่มีวันหมดอายุ แต่ความผิดของคนร้ายกลับมีวันหมดอายุ?
2. "20 ปี" ตัวเลขศักดิ์สิทธิ์ หรือช่องโหว่ให้คนชั่วลอยนวล?
ในประเทศไทย คดีฆาตกรรมมีอายุความ 20 ปี
ปัญหาคือ ถ้าคนร้ายหนีเก่ง หนีไปต่างประเทศ หรือกบดานเงียบๆ จนครบ 20 ปี กับอีก 1 วัน เขาสามารถเดินออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กฎหมายแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับการมอบ "รางวัล" ให้กับคนที่หนีเก่ง กลายเป็นว่า "คนทำผิดชนะ คนถูกกระทำพ่ายแพ้"
3. ทำไมคดีโกงหยุดเวลาได้ แต่คดีฆ่าคนหยุดไม่ได้?
รู้ไหมครับว่า คดีทุจริตคอรัปชันของนักการเมือง/เจ้าหน้าที่รัฐ มีการแก้กฎหมายแล้วว่า "ถ้าจำเลยหลบหนี อายุความจะหยุดเดิน" (หนีไปกี่ปีก็ไม่นับ)
แต่กับคดีฆ่าคนตาย... ถ้าหนี เวลาของอายุความยังเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ
มันเกิดคำถามใหญ่มากๆ ในใจผมว่า "ตกลงแล้ว ชีวิตของประชาชนตาดำๆ มีค่าน้อยกว่าเงินหลวงหรือ?"
4. โลกเขาเปลี่ยนไปแล้ว แต่เรายังอยู่ที่เดิม
เหตุผลดั้งเดิมของการมีอายุความ คือกลัวพยานลืม หรือหลักฐานเสื่อมสภาพ
แต่ในยุคที่มี DNA มีนิติวิทยาศาสตร์ที่ระบุตัวตนได้แม่นยำแม้เวลาผ่านไปเป็นสิบๆ ปี ข้ออ้างนี้ยังฟังขึ้นอยู่ไหม?
ประเทศอย่าง ญี่ปุ่น, เยอรมนี หรือหลายรัฐในอเมริกา เขา "ยกเลิกอายุความในคดีฆาตกรรม" กันไปแล้ว เพราะเขาถือว่าความยุติธรรมต้องไม่มีวันหมดอายุ
ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายนี้
อย่างน้อยที่สุด ถ้ายังยกเลิกไม่ได้ ก็ควรใช้หลักการ "สะดุดหยุดลงของอายุความ" คือถ้าหนีเมื่อไหร่ ให้หยุดนับเวลาเมื่อนั้น
อย่าให้คำว่า "คดีหมดอายุความ" เป็นใบอนุญาตให้ฆาตกรลอยนวลอีกต่อไปเลยครับ
เพราะสำหรับผม... ไม่มีกฎหมายข้อไหน ควรจะมีค่ามากกว่าลมหายใจของมนุษย์ครับ
สำหรับผม "กฎหมายต้องไม่ใช่แค่ปกป้องผู้บริสุทธิ์ได้ แต่กฎหมายต้องแก้แค้นให้ผู้บริสุทธิ์ได้"
เพราะกฎหมายที่ "ไร้น้ำยา" คืออันตรายของสังคม