***ว่าด้วยเรื่องพระพุทธเจ้าทรงสอนท่านพาหิยะให้บรรลุธรรมแปลบาลีเป็นไทย***

แปลบาลีเป็นไทยจากdeep seek

      ขอแปลส่วนนี้ซึ่งเป็นพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนท่านพาหิยะให้ครับ

ข้อความภาษาบาลีต้นฉบับ:
ทุติยมฺปิ โข ภควา พาหิยํ ทารุจีริยํ เอตทโวจ อกาโล โข ตาว พาหิย อนฺตรฆรํ ปวิฏฺฐมฺหา ปิณฺฑายาติ ฯ
ตติยมฺปิ โข พาหิโย ทารุจีริโย ภควนฺตํ เอตทโวจ ทุชฺชานํ โข ปเนตํ ภนฺเต ภควโต วา ชีวิตนฺตรายานํ มยฺหํ วา ชีวิตนฺตรายานํ
เทเสตุ เม ภนฺเต ภควา ธมฺมํ เทเสตุ สุคโต ธมฺมํ ยํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายาติ ฯ
ตสฺมา ติห เต พาหิย เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ทิฏฺเฐ ทิฏฺฐมตฺตํ ภวิสฺสติ สุเต สุตมตฺตํ ภวิสฺสติ มุเต มุตมตฺตํ ภวิสฺสติ วิญฺญาเต วิญฺญาตมตฺตํ ภวิสฺสตีติ เอวญฺหิ เต พาหิย สิกฺขิตพฺพํ ฯ
ยโต โข เต พาหิย ทิฏฺเฐ ทิฏฺฐมตฺตํ ภวิสฺสติ สุเต สุตมตฺตํ ภวิสฺสติ

คำแปล:
"ครั้งที่สอง พระผู้มีพระภาคตรัสกะท่านพาหิยทารุจีริยะว่า 'ยังไม่ใช่เวลานะ พาหิยะ เราเข้าไปสู่ละแวกบ้านเพื่อบิณฑบาต'
ครั้งที่สาม ท่านพาหิยทารุจีริยะกราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า 'รู้ได้ยากนะ พระเจ้าข้า ว่าจะมีอันตรายแก่ชีวิตของพระผู้มีพระภาค หรืออันตรายแก่ชีวิตของข้าพระองค์ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์เถิด พระสุคตโปรดแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์เถิด ซึ่งจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพระองค์สิ้นกาลนาน'
เพราะเหตุนั้นแล พาหิยะ เธอจงศึกษาอย่างนี้ว่า 'ในสิ่งที่เห็นแล้ว จะมีเพียงการเห็นเท่านั้น ในสิ่งที่ได้ยินแล้ว จะมีเพียงการได้ยินเท่านั้น ในสิ่งที่รับรู้แล้ว จะมีเพียงการรับรู้เท่านั้น ในสิ่งที่รู้แจ้งแล้ว จะมีเพียงการรู้แจ้งเท่านั้น' พาหิยะ เธอพึงศึกษาอย่างนี้แล
พาหิยะ เมื่อใด เธอในสิ่งที่เห็นแล้ว จะมีเพียงการเห็นเท่านั้น ในสิ่งที่ได้ยินแล้ว จะมีเพียงการได้ยินเท่านั้น"

คำอธิบายหลักธรรม:
พระพุทธเจ้าทรงสอน "ทิฏฐิมัตตํ" - ให้มีเพียงการเห็นเท่านั้น ไม่ใช่ตัวเราเห็น

· ทิฏฺเฐ ทิฏฺฐมตฺตํ = ในสิ่งที่เห็นแล้ว มีเพียงการเห็นเท่านั้น
· สุเต สุตมตฺตํ = ในสิ่งที่ได้ยินแล้ว มีเพียงการได้ยินเท่านั้น
· มุเต มุตมตฺตํ = ในสิ่งที่รับรู้แล้ว มีเพียงการรับรู้เท่านั้น
· วิญฺญาเต วิญฺญาตมตฺตํ = ในสิ่งที่รู้แจ้งแล้ว มีเพียงการรู้แจ้งเท่านั้น

นี่คือการสอนให้ไม่เข้าไปยึดมั่นในอายตนะ ไม่ถือว่าเป็นตัวตน เป็นการสอนเรื่องอนัตตาอย่างลึกซึ้ง ซึ่งทำให้ท่านพาหิยะบรรลุพระอรหันต์ในทันทีครับ


คำตอบโดยสรุป:
"ทิฏฺฐ" มีได้สองความหมาย แล้วแต่บริบท - ทั้ง "การเห็น" (กิริยา) และ "ความเห็น" (นามธรรม)

คำอธิบายละเอียด:

1. "ทิฏฺเฐ" ในพระสูตรนี้ มาจาก "ทิฏฺฐ" + วิภัตติที่ 7 (สัตตมี)

· ทิฏฺฐ = สิ่งที่เห็นแล้ว, อารมณ์ที่ถูกเห็น
· เอ = วิภัตติที่ 7 (ใน, ณ, ที่)
· ดังนั้น "ทิฏฺเฐ" = "ในสิ่งที่เห็นแล้ว" หรือ "ในอารมณ์ที่ถูกเห็น"

2. ทำไมแปลว่า "การเห็น" ไม่ใช่ "ความเห็น"?

· "ทิฏฺฐมตฺตํ" (ทิฏฺฐ + มตฺต + ํ) = มีเพียงการเห็นเท่านั้น
· มตฺต = เพียง, เท่านั้น
· พระพุทธเจ้าทรงสอนให้มีเพียง กระบวนการเห็น (กิริยาที่เกิดขึ้น) เท่านั้น ไม่ใช่ตัวตนที่ไปเห็น

3. เปรียบเทียบความแตกต่าง:

· "การเห็น" = กระบวนการทางตา (จักษุวิญญาณ) - เป็นกิริยา
· "ความเห็น" = ทิฐิ, ความคิดเห็น - เป็นนามธรรม

4. ตัวอย่างในบริบทอื่น:

· "มิจฉาทิฏฺฐิ" = ความเห็นผิด (ทิฐิ)
· "ทิฏฺฐธัมมเวทนีย" = อันบุคคลจะพึงเสวยในปัจจุบัน (สิ่งที่เห็นได้ในปัจจุบัน)

ในพระสูตรนี้ พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นกระบวนการรับรู้ตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องมี "ตัวตน" เข้าไปครอบครองกระบวนการนั้นๆ ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่