พระพุทธเจ้า ตรัสสอน พาหิยะ ให้ปฏิบัติแบบไหน กันแน่

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรพาหิยะ เพราะเหตุนั้นแล ท่านพึงศึกษา
อย่างนี้ว่า เมื่อเห็น จักเป็นสักว่าเห็น เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง เมื่อทราบจักเป็น
สักว่าทราบ เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง ดูกรพาหิยะ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล ดูกร
พาหิยะ ในกาลใดแล เมื่อท่านเห็นจักเป็นสักว่าเห็น เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง เมื่อ
ทราบจักเป็นสักว่าทราบ เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มี
ในกาลใด ท่านไม่มี ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มีในโลกนี้ ย่อมไม่มีในโลกหน้า
ย่อมไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ฯ
ลำดับนั้นแล จิตของพาหิยทารุจีริยะ กุลบุตรหลุดพ้นแล้วจากอาสวะ
ทั้งหลายเพราะไม่ถือมั่นในขณะนั้นเอง
===========  ฉบับหลวง
      ภนฺเต  ภควา  ธมฺมํ  เทเสตุ  สุคโต  ธมฺมํ  ยํ  มมสฺส
ทีฆรตฺตํ   หิตาย   สุขายาติ   ฯ   ตสฺมา   ติห   เต   พาหิย   เอวํ
สิกฺขิตพฺพํ      ทิฏฺเฐ     ทิฏฺฐมตฺตํ     ภวิสฺสติ     สุเต     สุตมตฺตํ
ภวิสฺสติ     มุเต     มุตมตฺตํ     ภวิสฺสติ    วิญฺญาเต    วิญฺญาตมตฺตํ
ภวิสฺสตีติ   เอวญฺหิ   เต   พาหิย   สิกฺขิตพฺพํ   ฯ    ยโต   ๓-  โข
เต   พาหิย   ทิฏฺเฐ   ทิฏฺฐมตฺตํ   ภวิสฺสติ   สุเต   สุตมตฺตํ   ภวิสฺสติ
@เชิงอรรถ: ๑ โป. ยุ. สนฺตินฺทฺริยํ ฯ  ๒ ยุ. อยํ ปาโฐ นตฺถิ ฯ  ๓ โป. ตสฺส ฯ
มุเต     มุตมตฺตํ     ภวิสฺสติ     วิญฺญาเต    วิญฺญาตมตฺตํ    ภวิสฺสติ
ตโต  ตฺวํ  พาหิย  นตฺถิ  ๑-  ยโต  ตฺวํ  พาหิย เนวตฺถิ ๒- [๓]- ตโต
ตฺวํ  พาหิย  เนวิธ  น  หุรํ  น อุภยมนฺตเร ๔- เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสาติ ฯ
อถ    โข    พาหิยสฺส    ทารุจีริยสฺส   ภควโต   อิมาย   สงฺขิตฺตาย
ธมฺมเทสนาย    ตาวเทว   อนุปาทาย   อาสเวหิ   จิตฺตํ   วิมุจฺจิ   ฯ
อถ   โข   ภควา   พาหิยํ   ทารุจีริยํ   อิมินา  สงฺขิตฺเตน  โอวาเทน
โอวทิตฺวา ปกฺกามิ ฯ
================== ฉบับจุฬา

พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า “พาหิยะ เพราะเหตุนั้น เธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
เมื่อเห็นรูปก็สักแต่ว่าเห็น เมื่อฟังเสียงก็สักแต่ว่าฟัง เมื่อรับรู้อารมณ์ที่ได้รับรู้๑- ก็
สักแต่ว่ารับรู้ เมื่อรู้แจ้งธรรมารมณ์ที่รู้แจ้งก็สักแต่ว่ารู้แจ้ง พาหิยะ เธอพึงรักษา
อย่างนี้แล
        เมื่อใด เธอเมื่อเห็นรูปก็สักแต่ว่าเห็น เมื่อฟังเสียงก็สักแต่ว่าฟัง เมื่อรับรู้อารมณ์
ที่ได้รับรู้ก็สักแต่ว่ารับรู้ เมื่อรู้แจ้งธรรมารมณ์ที่รู้แจ้งก็สักแต่ว่ารู้แจ้ง เมื่อนั้น เธอ
ก็จะไม่มี เมื่อใด เธอไม่มี เมื่อนั้น เธอก็จะไม่ยึดติดในสิ่งนั้น๒- เมื่อใด เธอไม่
ยึดติดในสิ่งนั้น เมื่อนั้น เธอจักไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างโลก
ทั้งสอง นี้เป็นที่สุดแห่งทุกข์”
        ลำดับนั้น ด้วยพระธรรมเทศนาย่อนี้ของพระผู้มีพระภาค จิตของพาหิยะ
ทารุจีริยะจึงหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่น
==========
ปค : จะเข้าใจออกมาเป็น สำนวนไทย  ยังไงถึงจะเข้าใจและนำไปปฏิบัติจนเกิดผล
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11




ข้าแต่ ผู้ เจริญ ซึ่งมีปัญญา  ขอถาม  ซักหน่อยเถอะว่า

พาหิยะ     ไม่มีเรา เมื่อไร ตรงไหน  เพราะอะไร

ที่ว่า   เธอ ย่อมไม่มี   พาหิยะ  มีเรา  เมื่อไร   ตอนไหน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่