ความเจ็บปวดของการถูกทิ้งในตอนที่ต้องการกำลังใจมากที่สุด โดยไม่มีคำอธิบายจากเพื่อนที่มาทำให้เรารักที่สุด

วันนี้มีเรื่องที่จะมาแชร์กับทุกคน เป็นเรื่องที่เราก็ยังคงรู้สึกเศร้าใจอยู่ค่ะ เรื่องนี้เกี่ยวกับเพื่อนคนหนึ่งในพันทิปที่มาคุยกับเราหลังจากกระทู้เมื่อสองปีที่แล้ว เราได้รับความช่วยเหลือจากเขามากมาย เขาคือคนที่ดีมาก ๆ คอยให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ และดูแลเอาใจใส่ทุกอย่าง ทั้งเรื่องส่วนตัว การงาน เขาเป็นสุภาพบุรุษที่แท้จริง เป็นคนที่เรารู้สึกเคารพและชื่นชมมาก แต่วันนี้ไม่มีเขาแล้ว เขาตัดช่องทางการติดต่อทุกทางโดยที่เราไม่รู้สาเหตุ คาดการณ์ได้แค่ว่า วันที่ 11 กันยายน 68  เขาจะส่งข้อความมาบอกเราว่าหลังเลิกงานจะรอที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งแถวอโศก วันนั้นเรามีนัดตตรวจมะเร็งเต้านมที่โรงพยาบาลแถวฝั่งธน และโชคร้าย เราตรวจเจอก้อนเนื้อ เลยต้องอัลตราซาวน์ เพื่อนัดเจาะก้อนเนื้อมาตรวจ เราเลยบอกเขาว่า “ไม่เป็นไร” ซึ่งมันเกิดจากอาการน้อยใจก่อนหน้านั้นเลยตอบไปแบบนั้น และคิดว่าเขาคงรอ สุดท้ายพอเรากลับจากโรงพยาบาลมาถึงอโศก  ประมาณทุ่มครึ่ง เขาก็ไม่รับสาย ซึ่งเราไม่ติดใจเพราะคิดว่าน่าจะกลับบ้านแล้ว  แต่สิ่งที่เราคิดมันผิดค่ะ เพราะหลังจากวันนั้นเป็นต้นมาเขาก็ไม่รับสายและตัดการติดต่อทุกช่องทาง ไม่มีคำตอบ ไม่มีการบอกลา เราส่งเครื่องดื่มจากสตาร์บัคและอาหารที่เขาชอบไปให้ที่ทำงาน แต่ทุกอย่างกลับถูกวางไว้ที่ป้อมยาม (ทราบจากไรเดอร์ที่ส่ง) เราบอกไรเดอร์ให้เอาไปทานได้เลยเขาก็ไม่เอา และพอสั่งวันต่อมา โชคดีเจอคนส่งคนเดิมเขาก็บอกว่าเครื่องดื่มเมื่อวานยังอยู่ที่เดิม (เรารู้แค่ว่าเขาทำงานที่ไหน แต่ไม่รู้ชั้น ไม่รู้ห้อง) ระหว่างนั้นเราก็พยายามโทรและติดต่อทุกช่องทาง แต่ไม่ได้ผล เพื่อนสนิทบอกให้ move on เราพยายามแล้ว แต่มันทำไม่ได้ มาถึงวันนี้ผลการตรวจชิ้นเนื้อออกมาแล้ว ชีวิตของเรากำลังจะเปลี่ยนไปค่ะ เรามีเวลาเพียงแค่ 6 เดือน จากเดือนตุลาคม ก่อนที่เราจะออกเดินทางไกล และร่างกายเราก็อ่อนแอมากขึ้น ผมเริ่มร่วง บางลง อาการซึมเศร้าเพิ่มขึ้น รับยามากขึ้น และมีอาการปวดศีรษะตอนบ่ายทุกวันจนต้องฝังเข็มอาทิตย์ละสองครั้ง (รักษาโดยแพทย์แผนจีน) เพราะไม่อยากกินยา
จริง ๆ เราไม่อยากมาตั้งกระทู้รบกวนจิตใจเขาเลย เพราะดูเหมือนจะเป็นการคุกคามชีวิตส่วนตัวเขามากเกินไป
ปกติเราจะไม่เล่น ตต เพราะหมอบอกจะทำให้สมาธิสั้น รบกวนการนอน แต่เวลาของมีจำกัด อะไรที่เราไม่ได้ทำเราก็เลยมาทำ เราส่งข้อความทาง ตต ไปหาเขาเขาก็บล็อก เราเลยตัดสินใจมาลาเขาในกระทู้นี้ วันนี้เราพยายามหาเหตุผลอีกครั้งว่าเพราะอะไร เราถามคนในกระจก คนในกระจกบอกเราว่าอาจจะเป็นเพราะความแตกต่างทางฐานะ สังคมและหน้าตาของเรา เราเป็นแค่คนที่ดำเนินชีวิตด้วยภาษีของประชาชน เป็นแค่คนบ้านนอก ต่างจังหวัด ในขณะที่เขาเป็นผู้จัดการของบริษัทต่างชาติแถวสีลม มีไลฟ์สไตล์แบบผู้บริหารระดับ C Level และการมีเราหรือไม่มีเรา ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตเขาเลย
จริง ๆ เราพยายามที่จะยอมรับและเคารพการตัดสินใจของเขาเกือบจะได้แล้ว เพราะคิดว่าจบที่เราเบาที่สุด เราร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะร้อง เราป่วย เรานอนโรงพยาบาลจนชิน แต่ไม่เคยมีวันไหนที่จะไม่คิดถึงเขาเลย และสุดท้ายวันนี้เราก็แพ้เสียงในหัว เราอยากบอกลาคนที่เรารักทุกคนก่อนที่จะเดินทางไกล บนเส้นทางที่เราไม่ได้เลือก แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้  เราพยายามเข้าใจว่าเขาอาจจะมีเหตุผลของเขาในการเลือกที่จะตัดการติดต่อกับเรา แต่เราก็ยังรู้สึกเสียใจและอาลัย ถึงแม้ตอนนี้จะไม่มีโอกาสได้เจอกันและคุยกันอีกแล้ว แต่เราอยากให้เขารู้ว่า เราขอบคุณจากใจสำหรับทุกสิ่งที่เขาให้เราในช่วงปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา เราจะเก็บความทรงจำดี ๆ เหล่านั้นไว้ตลอดไป และยังรอคอยการติดต่อกลับมาตราบเท่าที่เวลาก่อนเดินทางไกลจะเอื้ออำนวย
 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่