ประสบการณ์ตี 3 ของเรา

กระทู้สนทนา
ดีจ้าทุกคน วันนี้​เรามีเรื่องมาเล่าให้ฟังอาจจะยาวหน่อยนะ แต่ถ้าใครเป็นคนที่ชอบอ่านเรื่องผียาวๆแนวนี้ ก็เชิญได้เลยนะ ​ คือต้องบอกก่อนว่า
​​​ คือเรื่องมันเกิดเมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว เป็นช่วงเย็น ตอนนั้นผมกำลังตากผ้าแล้วอยู่ดีๆก็มีเสียงรถจักรยาน ขี่เข้ามาในบ้านแล้วก็มี เสียงผู้หญิงของคนคุยกัน ก็เพราะว่าเป็นคุณยายแล้วก็หลานสาวของเขา คือต้องบอกก่อนว่าคุณยายท่านนี้ เขาเป็นคนรู้จักของแม่ของผม ตั้งแต่ผมยังเด็กๆผมก็เห็นเขา แล้วก็ชอบให้ตังค์ เล็กๆน้อยๆผมด้วยตอนนั้นมีความสุขมาก คุณยายท่านนี้และแม่ของผมทำงานที่ตลาด ก็เลยมีการแลกเปลี่ยนค้าขายกันอยู่ และบวกกับว่าบ้านผมก็ใกล้ตลาดด้วย ในบางครั้งคุณยายเขาก็จะ มานอนบ้านผมพอถึงวันพระ ยายก็จะกลับ ​ บ้านที่ทางเหนือ ในส่วนนี้ ​ขอไม่บอกนะ​ ​ คุณยายกับหลานของเขาก็เข้ามาในบ้านแล้วก็จัดข้าวของนิดหน่อย หลานสาวของคุณยายของจะ จะเป็นคนเงียบๆนิ่งๆ แล้วน้องเขาก็อายุน้อยกว่าผมนิดหน่อย แต่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่า ผมอีก ผมก็ว่าน้องเขาน่ารักดีผมก็พาน้องเขาไปหาอะไรกินแถวบ้าน ซึ่งพอตกหัวค่ำผมกับน้องเขาก็นั่งเล่นกันอยู่ที่ ห้องชั้น 1 ซึ่งจะเป็นห้องกระจก ตอนนั้นผมก็ถามน้องเขาเล่นๆว่า "อยากให้นอนด้วยไหมถ้าหากว่ากลัวหรือว่าไม่ชิน" น้องเขาก็ตอบแบบเงียบๆผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องเขาจะสื่ออะไรผมก็เลยคิดว่าเออถ้างั้น ให้น้องเขามีพื้นที่ส่วนตัวหน่อยแล้วกันผมก็เลยไปนอนบนบ้านในห้องของผม ต่อมาตอน 6 โมงเช้าผมตื่นขึ้นมาหา ของกินในตู้เย็นแล้วน้องเขาก็ไปคุยกับคุณยายที่นอนอยู่อีกห้องนึง คุยกันเงียบมากดูท่าจะเป็นเรื่องจริงจังผมก็เลยไม่ อยากจะเข้าไปรบกวน จนกระทั่งผมได้มารู้จักปากของน้องเองเนี่ยแหละว่าน้อง เห็นวิญญาณของผู้หญิงใส่ชุดสีขาว น้องเขาพูดด้วยอาการตื่นตระหนก แต่เบามาก​ น้องเขาบอกว่าตอนนั้นเวลาประมาณ ตี 3 ​ น้องตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงีย น้องบอกว่าตอนนั้นตามัวนิดหน่อยเพราะเพิ่งตื่นแล้วน้องก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนมา หายใจข้างๆหู และบ่นพึมพำอะไรอยู่ก็ไม่รู้ แต่ว่ามันจะมีอยู่คำนึงที่น้องนั้นจับใจความได้แม่นมากก็คือ อยู่บ้านหลังนี้ไปก็ไม่มีความสุขหรอก อยู่บ้านหลังนี้ไปก็ไม่มีความสุขหรอก จังหวะนั้นน้องเอาผ้าห่มมาคลุมโปง จังหวะนั้นน้องเอาผ้าห่มมาคลุมโปง แล้วก็พูดกระซิบ หวังจะให้ ใครก็ตามที่มาบ่นข้างๆหูน้องได้ยินว่า ขอเถอะเรามานอนแค่คืนเดียวเอง ขอเถอะเรามานอนแค่คืนเดียวเอง อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย เรากลัวแล้ว
พอผ่านไปไม่นานมาก ​​​​​​ น้องเขาก็ค่อยๆดึงผ้าห่มลง ช้าๆแล้วน้องก็สังเกตเห็นผู้หญิงคนนึงใส่ชุดสีขาว เดินอยู่ในบ้านซึ่งเป็นห้องโถงชั้นแรก ซึ่งด้วยความที่ว่าห้องที่น้องนอนอยู่เป็นห้องกระจก จึงสามารถมองเห็นข้างนอกได้อย่างชัดเจน ตอนนั้นผมถึงกับทำหน้าเหวอเลย ผมถามน้องเขาเพื่อความแน่ใจ ยายคนนั้น ยายคนนั้น รูปร่างอ้วนและตัวเล็กไหม น้องเขาบอกว่าถึงจะเห็นไม่ชัดแต่ก็เห็นลางๆว่าตัวก็ไม่ได้ผอมนะ วินาทีนั้นผม คิดอยู่ในใจว่าต้องใช่แน่ๆ ต้องเป็นยายแท้ๆของเราที่เสียไปเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งยายของผมคนนี้บอกตามตรงเลยนะว่าผมกับเขาเนี่ยก็ค่อนข้างมีเรื่องกันนิดหน่อย จะเอาเป็นว่าก่อนที่ยายแกจะเสียตอนที่แกยังแข็งแรงอยู่แกก็ชอบบ่น อะไรทำนองนั้นแต่ คงพูดไปมากกว่านี้ไม่ได้สุดท้ายน้องเขาก็บอกว่าน้องจะกลับแล้ว เวลาก็ผ่านไปแล้ว 3 เดือนน้องเขาก็ไม่กลับมาบ้านผมอีกเลย คงเพราะว่าไปนอนบ้านญาติด้วย แล้วก็กลัวบ้านผมด้วยละมั้ง เออแล้วก็ผมก็อยากจะบอกเรื่องนึงนะน้องเขาบอกว่าเขาเจอ วิญญาณของยายผมตอนประมาณตี 3 แล้วซึ่งตอนนั้นผมเองก็ตื่นขึ้นมาเหมือนกันเพราะว่านอนไม่หลับ ผมก็เลยลุกขึ้นมานั่งวาดรูปเล่นจนถึงตี 4 แล้วก็กลับไปนอนเหมือนเดิม ตื่นเช้ามาน้องเขาก็มาเล่าเรื่องที่ผมพูดไปให้ฟังนั่นแหละครับ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นน้อ

จบแล้วครับขอบคุณนะที่อ่านมาจนถึงตอนนี้

​​​​​​​​
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่