“ไลน์ เฮลท์” เปิดสิทธิบัตรทอง พบหมอออนไลน์ 42 อาการฟรี






“ไลน์ เฮลท์” เปิดสิทธิบัตรทอง พบหมอออนไลน์ 42 อาการฟรี



เปิดตัว LINE HEALTH ออกแบบมาให้เป็นแพลตฟอร์มกลาง เชื่อมต่อผู้ใช้งานกว่า 56 ล้านคนเข้ากับ 4 ผู้ให้บริการเทเลเมดิซีนชั้นนำครอบคลุมความต้องการด้านสุขภาพที่หลากหลาย



รายงานข่าวจาก ไลน์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า  ได้เปิดตัว ไลน์ เฮลท์ (LINE HEALTH) บัญชีทางการ (Official Account) ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นแพลตฟอร์มกลาง เชื่อมต่อผู้ใช้งานกว่า 56 ล้านคนเข้ากับ 4 ผู้ให้บริการเทเลเมดิซีนชั้นนำ ครอบคลุมความต้องการด้านสุขภาพที่หลากหลาย ทำให้การดูแลสุขภาพไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่ง่าย เข้าถึงได้ และอยู่ในมือของทุกคน ซึ่งหนึ่งใน พันธมิตรสำคัญคือ  คลิกนิก (Clicknic) ผู้ให้บริการเทเลเมดิซีนผ่านแอปพลิเคชัน คลิกนิก ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล พร้อมทั้งขยายการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของภาครัฐให้สะดวกและทั่วถึงยิ่งขึ้น



โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้สิทธิบัตรทอง (สปสช.) สามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้ครอบคลุม 42 กลุ่มอาการทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นปวดหัว ตัวร้อน ไข้หวัด ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย และอื่น ๆ อีกทั้งยังมีบริการจัดส่งยาถึงบ้านโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ถือเป็นการยกระดับการแพทย์ทางไกล ที่ทำให้ทุกคนสามารถพบแพทย์ได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว โดยเฉพาะผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่สามารถใช้บริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายโดยใช้งานผ่าน 3 ขั้นตอน ก็พบแพทย์ได้ทันที โดย ล็อกอินเข้าสู่ระบบและแจ้งอาการเบื้องต้น ภายใน 90 วินาที จะได้รับการวิดีโอคอลกับแพทย์ และเภสัชกรให้คำแนะนำการใช้ยา และรอรับยาส่งตรงถึงบ้าน ผ่านเครือข่ายร้านขายยาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ


นายนีล นิลวิเชียร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คลิกนิกเฮลท์ จำกัด ผู้ให้บริการเทเลเมดิซีน คลิกนิก กล่าวว่า  บริษัท ต้องการการยกระดับประสิทธิภาพระบบสาธารณสุขไทย เพื่อลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาล ยา และบริการทางการแพทย์ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพได้ไม่ต่างจากการมาโรงพยาบาล ความร่วมมือกับไลน์ เฮลท์  ถือเป็นก้าวสำคัญในการทลายข้อจำกัด และเปิดโอกาสให้คนไทยทุกกลุ่มเข้าถึงบริการสุขภาพได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่เข้ารับบริการฟรี ผู้มีประกันเอกชนที่ไม่ต้องสำรองจ่าย โดยตามเงื่อนไขบริษัทประกัน หรือบุคคลทั่วไปที่สามารถใช้บริการได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 250 บาท  และในอนาคตมีแผนจะขยายบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โรคทางจิตเวช พร้อมพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ เช่นอัปโหลดผลตรวจน้ำตาลและไขมัน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวินิจฉัยของแพทย์ และนำเทคโนโลยี เอไอ เข้ามาช่วยแพทย์วิเคราะห์และประเมินอาการอย่างแม่นยำมากขึ้น


ข่าวจาก : เดลินิวส์ออนไลน์


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่