เตือนภัยโดนของปลอมในห้างดังย่านปิ่นเกล้า

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์การโดนของปลอมในห้างให้ฟังนะครับ

เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี 2567 ผมเดินอยู่ในห้างแล้วเจอบูธช้อปเอาท์เลตที่ขายเสื้อแบรนด์ดังต่าง ๆ เช่น Supreme ด้วยความที่คิดว่า “ในห้างไม่น่ามีของปลอม” ผมจึงซื้อเสื้อ Supreme มา 1 ตัว ราคาประมาณพันกว่าบาท

หลังจากซื้อมา 2–3 วัน ก็มีคลิปใน TikTok, IG และ X ออกมาเตือนว่า “ตอนนี้ช้อปเอาท์เลตที่ผมซื้อของเป็นร้านปลอม”
ผมจึงตรวจสอบเพิ่มเติม และพบว่ามีผู้เสียหายจากห้างอื่น ๆ ที่ร้านนี้เคยไปเปิดขายมาแล้วจริง

ด้วยความไม่สบายใจ ผมจึงทักไปที่เพจ Facebook ของห้างทันที ซึ่งเพจอ่านแต่ไม่ตอบ ผมเลยโทรไปผ่านคอลเซ็นเตอร์แทน เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง และคอลเซ็นเตอร์บอกว่าจะตรวจสอบให้ ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ (ซึ่งผมก็ให้เขาเช็กด้วยว่า “ร้านนี้ขายของแท้ไหม”)

ผ่านมา 8 วัน ไม่มีการติดต่อกลับมา ผมจึงโทรไปถามอีกครั้ง ได้ความว่า “ร้านย้ายไปขายที่ห้างอื่นแล้ว และผมต้องติดต่อร้านที่ห้างใหม่เอง”
ผมถามต่อว่า “สรุปร้านนี้ขายของแท้หรือไม่” คอลเซ็นเตอร์ตอบว่า “ทางบูธให้ใบเซอร์มายืนยันว่าเป็นของแท้” (ซึ่งผมมองว่าใบนี้ใช้พิสูจน์อะไรไม่ได้เลย)
ผมจึงถามต่อว่า “มีลูกค้าคนอื่นร้องเรียนเหมือนผมไหม” เขาบอกว่ามี และบอกว่าทุกคนก็ถูกให้ไปติดต่อร้านที่ห้างใหม่เหมือนกัน จากนั้นผมจึงขอเบอร์ร้านเพื่อโทรคุยเอง

ตอนคุยกับคนขายในเอาท์เลต ผมแค่บอกว่า “มีเรื่องจะสอบถามเรื่องเสื้อที่ซื้อ” เขากลับตอบทันทีว่า
“พี่จะคืนเสื้อแล้วขอเงินคืนใช่ไหมคะ”
ผมตกใจมาก เพราะสิ่งที่ต้องการคือคำอธิบายคือ สินค้ามาจากไหน และเป็นของแท้หรือไม่ ไม่ใช่การคืนเงิน แต่คนขายก็บอกว่าเขาไม่รู้ เพราะเพิ่งมาทำงาน และแค่ถูกจ้างให้ขายของเท่านั้น

ผมเลยถามว่า “ถ้าจะคืนเงินทำได้ไหม” เขาก็บอกว่าได้ และ “วันนี้ก็มีคนมาขอคืนหลายคนแล้ว” จากนั้นเขาให้เบอร์นายจ้างมา แต่ผมโทรอยู่ 1–2 วันก็ไม่มีใครรับเลย สุดท้ายผมจึงแจ้งเรื่องไปที่ สคบ. ผ่านช่องทางออนไลน์

หลังจากให้ข้อมูลครบแล้ว เจ้าหน้าที่ สคบ. ติดต่อกลับมาขอรายละเอียดเพิ่ม ผมก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง จากนั้นเขาให้ผมติดต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญาเรื่องสินค้าละเมิด
ผมโทรไปอีกที่หนึ่ง เล่าเรื่องใหม่อีกครั้ง เขาถามผมว่า “แล้วทำไมตอนร้านเสนอคืนเงิน คุณไม่คืนล่ะครับ”
ผมตอบว่า “เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ผมอยากให้ผู้กระทำผิดออกมารับผิดชอบ”
ปลายสายตอบว่า การจับก็ทำได้ยาก ต้องส่งเรื่องให้หลายหน่วยงาน และโทษก็ไม่ได้หนัก คนกลุ่มนี้โดนปรับแล้วก็กลับมาทำใหม่ เพราะเห็นเหตุการณ์แบบนี้บ่อยมาก

ทาง สคบ. ยังให้ผมหาพยานหรือเจ้าของคลิปที่บอกว่าเป็นของปลอม เผื่อกรณีมีการฟ้องร้องจะเรียกพยานได้ แต่เมื่อผมติดต่อเจ้าของคลิป เขาไม่สะดวกเป็นพยาน โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าผมจะฟ้อง “ห้างและช้อปเอาท์เลต”

หลังจากติดต่อทั้ง สคบ. และกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ก็ไม่มีการติดต่อกลับมาอีกเลยประมาณ 2–4 อาทิตย์ ผมโทรกลับไปถามด้วยอารมณ์ว่า “ทำไมไม่มีใครช่วยผมหรือจับร้านนี้ ทั้งที่ร้านยังเปิดขายอยู่” คอลเซ็นเตอร์จึงโอนสายให้หัวหน้า หัวหน้าถามรายละเอียดใหม่อีกครั้ง แล้วบอกให้ผมไปแจ้งความเองเพื่อดำเนินคดีร้านเสื้อ และจะได้เงินคืน แล้วค่อยคุยกับทางห้างเรื่องความรับผิดชอบ ผมถามทันทีว่า “ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก ปล่อยให้ผมรอมานานเพื่ออะไร” เขากลับตอบว่า “ก็ผมบอกอยู่นี่ไงว่าต้องทำแบบนี้ถึงจะได้เงิน”

พอได้ยินตรงนี้ ผมก็วางสายไป เพราะรู้สึกว่า “แล้วหน่วยงานพวกนี้มีไว้ทำไม” สุดท้ายก็กลายเป็นว่าผมต้องวิ่งทำเองทุกอย่างอยู่ดี

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมผมไม่ขอเงินคืนตั้งแต่แรก เพราะผมเชื่อว่า “ของที่ขายในห้างต้องผ่านมาตรฐาน” และผมไม่อยากให้คนอื่นเจอแบบผม ผมแค่อยากให้ห้างออกมารับผิดชอบ

ผมรอมาอย่างยาวนาน เห็นว่าบางทีอาจจะมีใครติดต่อกลับมา แต่จนตอนนี้ผ่านมาเป็นปี ก็ไม่มีใครติดกลับมาเลยแม้แต่คนเดียว
สุดท้ายนี้ ผมแค่อยากเป็นกระบอกเสียงเล็ก ๆ ว่า

เมื่อเห็นสิ่งผิด อย่าปล่อยผ่าน

ขอให้เสียงเล็ก ๆ ของเราช่วยกัน จะได้ไม่มีใครต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกครับ



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่