17/11
สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากมาเล่าเรื่องชีวิตของแม่เรามากๆ แม่เคยบอกว่า ถ้าวันนี้เราโตขึ้นช่วยเอาไปทำหนังหน่อย แต่เราคิดว่า ผู้ชมจะดูหนังเราจบไหม ผู้ชมจะเบื่อไหม ทำไมนางเอกมีแต่ปัญหาแบบนี้
ต้องบอกก่อนค่ะว่า ครอบครัวเรามีกัน 6 คน คือ พ่อ แม่ พี่ 1 (ลูกติดแม่, อายุราว 30 ปี), พี่ 2-3 (ฝาแฝด, อายุ 26 ปี), และเรา น้อง 4 (น้องสุดท้อง, อายุ 18 ปี) หนูกำลังซฺิ่วค่ะ
แม่เล่าว่าตอนเด็กๆ ครอบครัวแม่ยากจนมาก จนกระทั่งขอเงินตา 500 บาท ขึ้นมาทำงานกรุงเทพฯ หอบหม้อกระละมังขาย จนได้มีลูกกับพ่อของพี่ 1 จนวันนึ่งพ่อของพี่ 1 ก็เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ ทั้งที่พี่ 1 เพิ่งอายุไม่กี่เดือน แม่ต้องอุ้มลูกกลับบ้านนอก จากนั้น แม่ตัดสินใจว่า จะไปสอบเพื่อที่ทำงานต่างประเทศ ตอนนั้นแม่พาพี่ 1 ไปสอบด้วย คนที่สอบเหมือนกันเขาก็ช่วยดูลูก ผลของการสอบของแม่ประกาศ สรุปแม่ต้องเดินทางไปทำงานที่ ไต้หวัน โดยฝากพี่ 1 ให้ตายายเลี้ยงดู แม่เป็นคนกตัญญู ส่งเงินเกือบทั้งหมดให้ตายาย เก็บไว้กินใช้แค่พอมี สมัยก่อนโดนอบรมว่าโตมาต้องส่งเงินให้พ่อเเม่ ต้องเป็นคนกตัญญู ทำให้ช่วงนั้นเป็นช่วงที่แม่ต้องสู้และอดทนอย่างหนักเพื่อครอบครัวจริงๆ ไม่ใช่เเค่ส่งให้ลูก เเต่ยังมียายตา พี่ๆน้องในครอบครัวรวมกัน5คน แม่คือคนสุดท้องในบ้าน หลังจากทำงานมาหลายปี แม่ก็กลับมาเมืองไทย จนได้มาพบกับ "พ่อเรา" และมีลูกคือ พี่ฝาแฝด (พี่ 2-3) และเรา (น้อง 4) ตอนเราเพิ่งเกิดใหม่ๆ พี่ 2-3 เคยเล่าว่า มีวันรวมญาติที่ตายายมาหาเราที่ต่างจังหวัด วันนั้นแม่หาพี่ 1 ไม่เจอ จนขับรถตามไปเจอว่าพี่ 1 นัดพบกับผู้ชาย แม่อาจจะโกรธหรือว่าอะไรหนูก็ไม่ร็ ทำให้พี่1อ่ะ เก็บข้าวของกลับไปบ้านนอกกับตายายวันนนั้นเลย ทั้งๆ ที่กำลังเรียนอยู่ต่างจังหวัด และต้องไปเรียนต่อที่บ้านนอกแทน... (พูดก่อนว่าหนูไม่ได้ว่าบ้านนอกอะไรไม่ดีนะคะ อยากพูดพอให้เข้าใจ ไม่อยากระบุจังหวัด) หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของแม่กับพี่ 1 ก็ดูเหมือนจะมีไม่พูดกันหรือทะเราะกันหนูก็ไม่ทราบ เพราะหนูเด็กมากๆ เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอีก จนกระทั่งเราโตพอจะจำความได้ ตาเราก็เสีย (ตอนเรา 2-3 ขวบ) น่าจะทำให้พี่กับแม่คุยกันมั้ง พี่ดาวน์รถแม่ก็ปิดงวดรถให้พี่ 1 จนหมด และส่งพี่ 1 เรียนจนจบ ปวส. แม่มอบ ที่ดิน ให้พี่ 1 เพราะคิดว่าลูกดูแลตัวเองได้แล้ว ทั้งที่ตอนนั้นพี่ 1 อายุแค่ 18 ปี แต่พี่ 1 ก็นำที่ดินนั้นไปขายได้เงิน 5-6 แสนบาท และให้เงินแม่ 1 หมื่น หนูร็สึกว่าแม่ผู้แบกรับภาระและสู้สุดๆ ช่วงที่เราอยู่ ม.1 ชีวิตแม่ก็ไม่เคยพัก ลุงของเราป่วยหนัก (โรคตับเพราะดื่มหนัก) ไม่มีลูกเมีย แม่จึงกลับบ้านนอกไปดูแลลุงที่โรงพยาบาลตลอด ตอนนั้นค่าใช้จ่ายในบ้านเยอะมาก ทั้งส่งพี่ 2-3 เรียน และเราก็เรียน แต่พวกเรา (พ่อ, พี่ 2-3, เรา) ต้องอยู่กันคนละจังหวัดกับแม่ เราซึ่งเป็นเด็กก็ไม่เคยรู้เลยว่าแม่เหนื่อยขนาดไหน พอมาพิมพ์ถึงตรงนี้ น้ำตาเราก็ไหลนองเหมือนกันค่ะ ลุงมาเสียตอนเราอยู่ ม.3-4 แต่ภารกิจของแม่ยังไม่จบ ลุงคือมีหนี้เยอะมากๆเป็นแสน แม่ก็กู้มาปิดให้ ค่างานศพด้วยค่ะตอนนั้นหนักจริงๆ จบจากลุง แม่ต้องก็ดูแล ยายต่อเพราะเป็นโรคอัลไซเมอร์ ดูแลอย่างใกล้ชิดมานานหลายปี จนกระทั่งยายเสียตอนเราม.5 ตอนยายเสีย ก็เกิดศึกแย่งชิงมรดกในครอบครัวของแม่ ร็สึกว่าเป็นอะไรที่หนักมากๆสำหรับพวกเรา ครั้งนึ่งพวกเรา5คนนั่งกอดเข่ากัน แม่ก็นั่งติดกำเเพง ถามพ่อว่า พี่เราจะเอาไงกันต่อ หนูร็ว่าแม่เหนื่อยมากๆ หน้าแม่ล้า แต่เเม่บอกหนูว่า ไม่ต้องมาคิดมากกับเเม่นะ ตัวเองต้องตั้งใจเรียน เราไม่รู้จะช่วยแม่ได้ยังไงบ้าง สิ่งที่เราเจ็บปวดที่สุดตอนนี้คือ พี่ 1 ยังไม่ติดต่อแม่มาเป็นปีแล้ว ทั้งที่ยังคุยกับเราอยู่ เราคิดว่าพี่ไม่ได้มองพวกเราเลย ไม่สนใจเท่าไหรว่าตอนนี้พวกเราเป็นไง เพระาหนูก็เห็นพี่ใช้ชีวิตกินหรูกับเพื่อน ครั้งหนึ่งที่ พี่1 บอกให้หนูทำความสะอาดบานเขาช่วยเขาหน่อย หนูก็ไป หนูรู้สึกว่า ในสายตาเขาเรามีเเค่ใช้งานจริงๆ ตอนที่ไปบ้านพี่1 แกก็โทรคึยกับเพื่อน เพื่อนพี่1หนูเรียกว่าพี่ไก่ พี่ไก่รู้ว่าเราซิ่ว พี่ไก่พูดว่า "ทำไมไม่บอกแม่ส่งเรียนล่ะ ขนาดพี่ 2-3 ยังส่งเรียนได้ ทำไมไม่ส่งเรียนล่ะ? จะให้พี่ 1 ส่งเรียนก็ไม่ได้เพราะเราไม่ใช่พ่อแม่คนเดียวกัน แต่ถ้ามีค่าใช้จ่ายเรื่องสอบก็ค่อยว่ากัน ณ ตอนนั้นหนูร็สึกจุก จนร้องไห้ค่ะ พี่1 ก็ไม่ได้ว่าเพื่อนสักคำ ต้องบอกก่อนว่าตอนนั้นหนูก็พึ่งซิ่วใหม่ๆเลย ตอนที่หนูติดมหาวิทยาลัยและต้องจ่ายค่าลงทะเบียนเรียน หรือค่าเทมอไม่เเน่ใจ 2 หมื่นบาท พ่อแม่เราไม่มีเงินเลย พ่อเราบอกว่า ทักไปถามพี่1 ดู เดะพ่อยื่นกู้ หามาได้แล้วจะใช้คืน แต่ใจเเม่ก็ร็ว่าขอยังไงเขาก็ไม่ให้เราหรอก เขาไม่ได้สนใจเราเลยเเม้เเต่นิด แต่เราก็ทักไปขอยืมพี่ 1 แต่พี่บอกว่า "ไม่มี" คำเดียว พี่คะ พี่1 มีทั้งบ้านหลังใหญ ใจกลางเมือง รถหรูสองคน เราคิดอยู่ว่า ทำไมถึงใจร้ายจังเลย
เราอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมคนที่ใช้ชีวิตหลอกเอาจากผ็ชายถึงไม่เคยล้มจม หรือยังไม่ถึงเวลา ทำไมชีวิตถึงรุ่งเรือง ในขณะที่แม่กับพ่อเราที่ช่วยเหลือคนอื่นมาตลอดกลับไม่รุ่งเรืองเลย แต่ก็ยอมรับว่าช่วยสุดๆจนตัวเองล้มอันนี้จริง... แต่เราคิดอยู่เสมอว่า สักวันเราจะต้องได้ดี!
ตอนนี้เราขายเสื้อผ้ามือสองในแอปฟ้า ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง และก็ตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อรอสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่อีกครั้งค่ะ แต่เราก็สงสัยว่าเรื่องนี้ถ้าวันนึ่งคนเรารวย จะตัดพ่อเเม่ไปได้เลยหรอ ตัดเพราะเขาคือปัญหาชีวิตได้เลยหรอ ตัดเพราะเขามีหนี้สินได้เลยหรอ แต่เขาก็ส่งตัวเองเรียนจนจบ ที่ก็ให้ตัวเองไปสร้างชีวิตให้ตัวเองเติบโต ละครที่เรามองว่าน่าเบื่อแต่กลายเป็นเรื่องราวที่เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น เป็นเหมือนสิ่งที่ย้ำเตือนเรา และเราบอกแม่เสมอว่า หนูจะสู้และไปให้ไกลที่สุดค่ะ
💖เรื่องราวนี้ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบากในชีวิตนะคะ เราเชื่อว่าความดีและความกตัญญูเราทำมา จะต้องส่งผลดีถึงพวกเราในสักวันแน่นอนค่ะ
ปัญหาทำให้เราเติบโต
สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากมาเล่าเรื่องชีวิตของแม่เรามากๆ แม่เคยบอกว่า ถ้าวันนี้เราโตขึ้นช่วยเอาไปทำหนังหน่อย แต่เราคิดว่า ผู้ชมจะดูหนังเราจบไหม ผู้ชมจะเบื่อไหม ทำไมนางเอกมีแต่ปัญหาแบบนี้
ต้องบอกก่อนค่ะว่า ครอบครัวเรามีกัน 6 คน คือ พ่อ แม่ พี่ 1 (ลูกติดแม่, อายุราว 30 ปี), พี่ 2-3 (ฝาแฝด, อายุ 26 ปี), และเรา น้อง 4 (น้องสุดท้อง, อายุ 18 ปี) หนูกำลังซฺิ่วค่ะ
แม่เล่าว่าตอนเด็กๆ ครอบครัวแม่ยากจนมาก จนกระทั่งขอเงินตา 500 บาท ขึ้นมาทำงานกรุงเทพฯ หอบหม้อกระละมังขาย จนได้มีลูกกับพ่อของพี่ 1 จนวันนึ่งพ่อของพี่ 1 ก็เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ ทั้งที่พี่ 1 เพิ่งอายุไม่กี่เดือน แม่ต้องอุ้มลูกกลับบ้านนอก จากนั้น แม่ตัดสินใจว่า จะไปสอบเพื่อที่ทำงานต่างประเทศ ตอนนั้นแม่พาพี่ 1 ไปสอบด้วย คนที่สอบเหมือนกันเขาก็ช่วยดูลูก ผลของการสอบของแม่ประกาศ สรุปแม่ต้องเดินทางไปทำงานที่ ไต้หวัน โดยฝากพี่ 1 ให้ตายายเลี้ยงดู แม่เป็นคนกตัญญู ส่งเงินเกือบทั้งหมดให้ตายาย เก็บไว้กินใช้แค่พอมี สมัยก่อนโดนอบรมว่าโตมาต้องส่งเงินให้พ่อเเม่ ต้องเป็นคนกตัญญู ทำให้ช่วงนั้นเป็นช่วงที่แม่ต้องสู้และอดทนอย่างหนักเพื่อครอบครัวจริงๆ ไม่ใช่เเค่ส่งให้ลูก เเต่ยังมียายตา พี่ๆน้องในครอบครัวรวมกัน5คน แม่คือคนสุดท้องในบ้าน หลังจากทำงานมาหลายปี แม่ก็กลับมาเมืองไทย จนได้มาพบกับ "พ่อเรา" และมีลูกคือ พี่ฝาแฝด (พี่ 2-3) และเรา (น้อง 4) ตอนเราเพิ่งเกิดใหม่ๆ พี่ 2-3 เคยเล่าว่า มีวันรวมญาติที่ตายายมาหาเราที่ต่างจังหวัด วันนั้นแม่หาพี่ 1 ไม่เจอ จนขับรถตามไปเจอว่าพี่ 1 นัดพบกับผู้ชาย แม่อาจจะโกรธหรือว่าอะไรหนูก็ไม่ร็ ทำให้พี่1อ่ะ เก็บข้าวของกลับไปบ้านนอกกับตายายวันนนั้นเลย ทั้งๆ ที่กำลังเรียนอยู่ต่างจังหวัด และต้องไปเรียนต่อที่บ้านนอกแทน... (พูดก่อนว่าหนูไม่ได้ว่าบ้านนอกอะไรไม่ดีนะคะ อยากพูดพอให้เข้าใจ ไม่อยากระบุจังหวัด) หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของแม่กับพี่ 1 ก็ดูเหมือนจะมีไม่พูดกันหรือทะเราะกันหนูก็ไม่ทราบ เพราะหนูเด็กมากๆ เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอีก จนกระทั่งเราโตพอจะจำความได้ ตาเราก็เสีย (ตอนเรา 2-3 ขวบ) น่าจะทำให้พี่กับแม่คุยกันมั้ง พี่ดาวน์รถแม่ก็ปิดงวดรถให้พี่ 1 จนหมด และส่งพี่ 1 เรียนจนจบ ปวส. แม่มอบ ที่ดิน ให้พี่ 1 เพราะคิดว่าลูกดูแลตัวเองได้แล้ว ทั้งที่ตอนนั้นพี่ 1 อายุแค่ 18 ปี แต่พี่ 1 ก็นำที่ดินนั้นไปขายได้เงิน 5-6 แสนบาท และให้เงินแม่ 1 หมื่น หนูร็สึกว่าแม่ผู้แบกรับภาระและสู้สุดๆ ช่วงที่เราอยู่ ม.1 ชีวิตแม่ก็ไม่เคยพัก ลุงของเราป่วยหนัก (โรคตับเพราะดื่มหนัก) ไม่มีลูกเมีย แม่จึงกลับบ้านนอกไปดูแลลุงที่โรงพยาบาลตลอด ตอนนั้นค่าใช้จ่ายในบ้านเยอะมาก ทั้งส่งพี่ 2-3 เรียน และเราก็เรียน แต่พวกเรา (พ่อ, พี่ 2-3, เรา) ต้องอยู่กันคนละจังหวัดกับแม่ เราซึ่งเป็นเด็กก็ไม่เคยรู้เลยว่าแม่เหนื่อยขนาดไหน พอมาพิมพ์ถึงตรงนี้ น้ำตาเราก็ไหลนองเหมือนกันค่ะ ลุงมาเสียตอนเราอยู่ ม.3-4 แต่ภารกิจของแม่ยังไม่จบ ลุงคือมีหนี้เยอะมากๆเป็นแสน แม่ก็กู้มาปิดให้ ค่างานศพด้วยค่ะตอนนั้นหนักจริงๆ จบจากลุง แม่ต้องก็ดูแล ยายต่อเพราะเป็นโรคอัลไซเมอร์ ดูแลอย่างใกล้ชิดมานานหลายปี จนกระทั่งยายเสียตอนเราม.5 ตอนยายเสีย ก็เกิดศึกแย่งชิงมรดกในครอบครัวของแม่ ร็สึกว่าเป็นอะไรที่หนักมากๆสำหรับพวกเรา ครั้งนึ่งพวกเรา5คนนั่งกอดเข่ากัน แม่ก็นั่งติดกำเเพง ถามพ่อว่า พี่เราจะเอาไงกันต่อ หนูร็ว่าแม่เหนื่อยมากๆ หน้าแม่ล้า แต่เเม่บอกหนูว่า ไม่ต้องมาคิดมากกับเเม่นะ ตัวเองต้องตั้งใจเรียน เราไม่รู้จะช่วยแม่ได้ยังไงบ้าง สิ่งที่เราเจ็บปวดที่สุดตอนนี้คือ พี่ 1 ยังไม่ติดต่อแม่มาเป็นปีแล้ว ทั้งที่ยังคุยกับเราอยู่ เราคิดว่าพี่ไม่ได้มองพวกเราเลย ไม่สนใจเท่าไหรว่าตอนนี้พวกเราเป็นไง เพระาหนูก็เห็นพี่ใช้ชีวิตกินหรูกับเพื่อน ครั้งหนึ่งที่ พี่1 บอกให้หนูทำความสะอาดบานเขาช่วยเขาหน่อย หนูก็ไป หนูรู้สึกว่า ในสายตาเขาเรามีเเค่ใช้งานจริงๆ ตอนที่ไปบ้านพี่1 แกก็โทรคึยกับเพื่อน เพื่อนพี่1หนูเรียกว่าพี่ไก่ พี่ไก่รู้ว่าเราซิ่ว พี่ไก่พูดว่า "ทำไมไม่บอกแม่ส่งเรียนล่ะ ขนาดพี่ 2-3 ยังส่งเรียนได้ ทำไมไม่ส่งเรียนล่ะ? จะให้พี่ 1 ส่งเรียนก็ไม่ได้เพราะเราไม่ใช่พ่อแม่คนเดียวกัน แต่ถ้ามีค่าใช้จ่ายเรื่องสอบก็ค่อยว่ากัน ณ ตอนนั้นหนูร็สึกจุก จนร้องไห้ค่ะ พี่1 ก็ไม่ได้ว่าเพื่อนสักคำ ต้องบอกก่อนว่าตอนนั้นหนูก็พึ่งซิ่วใหม่ๆเลย ตอนที่หนูติดมหาวิทยาลัยและต้องจ่ายค่าลงทะเบียนเรียน หรือค่าเทมอไม่เเน่ใจ 2 หมื่นบาท พ่อแม่เราไม่มีเงินเลย พ่อเราบอกว่า ทักไปถามพี่1 ดู เดะพ่อยื่นกู้ หามาได้แล้วจะใช้คืน แต่ใจเเม่ก็ร็ว่าขอยังไงเขาก็ไม่ให้เราหรอก เขาไม่ได้สนใจเราเลยเเม้เเต่นิด แต่เราก็ทักไปขอยืมพี่ 1 แต่พี่บอกว่า "ไม่มี" คำเดียว พี่คะ พี่1 มีทั้งบ้านหลังใหญ ใจกลางเมือง รถหรูสองคน เราคิดอยู่ว่า ทำไมถึงใจร้ายจังเลย
เราอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมคนที่ใช้ชีวิตหลอกเอาจากผ็ชายถึงไม่เคยล้มจม หรือยังไม่ถึงเวลา ทำไมชีวิตถึงรุ่งเรือง ในขณะที่แม่กับพ่อเราที่ช่วยเหลือคนอื่นมาตลอดกลับไม่รุ่งเรืองเลย แต่ก็ยอมรับว่าช่วยสุดๆจนตัวเองล้มอันนี้จริง... แต่เราคิดอยู่เสมอว่า สักวันเราจะต้องได้ดี!
ตอนนี้เราขายเสื้อผ้ามือสองในแอปฟ้า ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง และก็ตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อรอสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่อีกครั้งค่ะ แต่เราก็สงสัยว่าเรื่องนี้ถ้าวันนึ่งคนเรารวย จะตัดพ่อเเม่ไปได้เลยหรอ ตัดเพราะเขาคือปัญหาชีวิตได้เลยหรอ ตัดเพราะเขามีหนี้สินได้เลยหรอ แต่เขาก็ส่งตัวเองเรียนจนจบ ที่ก็ให้ตัวเองไปสร้างชีวิตให้ตัวเองเติบโต ละครที่เรามองว่าน่าเบื่อแต่กลายเป็นเรื่องราวที่เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น เป็นเหมือนสิ่งที่ย้ำเตือนเรา และเราบอกแม่เสมอว่า หนูจะสู้และไปให้ไกลที่สุดค่ะ
💖เรื่องราวนี้ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบากในชีวิตนะคะ เราเชื่อว่าความดีและความกตัญญูเราทำมา จะต้องส่งผลดีถึงพวกเราในสักวันแน่นอนค่ะ