มหาอุบาสิกาวิสาขา เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากในเรื่องการทำความดีทำให้เป็นที่รักของคนทั้งเมือง ใครๆ ก็ปรารถนาจะคบหาด้วย ในสมัยนั้นถ้าหากมหาอุบาสิกาวิสาขาไปร่วมงานมหากุศลที่ใดสถานที่นั้นก็นับว่าเป็นสิริมงคล เวลามีงานสำคัญๆถ้าหากเชิญนางไปเป็นประธานได้ งานนั้นถือว่าเป็นงานที่ทรงเกียรติอย่างยิ่งแม้นางจะมีอายุถึง 100 ปี ก็ดูเหมือนยังเป็นสาว เพราะงามทุกวัยถึงพร้อมด้วยเบญจกัลยาณี และที่สำคัญนางงดงามทั้งภายนอกและภายในเพราะได้เข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้า เป็นโสดาบันบุคคล มีธรรมะเป็นอาภรณ์หอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นศีลของพระอริยเจ้า
สมัยนั้น มีกุลบุตร 500 คนพาภรรยาไปเพื่อให้รู้จักกับมหาอุบาสิกาวิสาขาเพื่อจะได้ซึมซับคุณธรรมความดี เพราะใครก็ตามที่ได้คบหากับนางวิสาขาได้ชื่อว่า มียอดกัลยาณมิตรผู้ชี้แนะเส้นทางบุญ เพื่อเปิดหนทางสวรรค์นิพพานฉะนั้น คนดีใครๆ ก็อยากคบหาสมาคมด้วย และในช่วงนั้นมีงานมหรสพเกี่ยวกับการดื่มสุรา ในงานจะมีการนำสุราที่หมักไว้เป็นอย่างดีมาประกวดกันว่า สุราของใครจะครองใจนักดื่มได้มากที่สุด
ภายใน 7 วันนั้น ทั้งเมืองจะหยุดการทำงานทุกอย่างมีแต่การละเล่นมหรสพ และการดื่มสุราเท่านั้นโดยภรรยาจะจัดแจงหาสุรามาให้สามีดื่ม และคอยต้อนรับเลี้ยงแขกที่มาเยือนเมื่อครบ 7 วัน ทุกคนจะเลิกดื่มกันทันที และต่างเริ่มงานกันตามปกติแต่พวกภรรยาเห็นว่า สุราที่เตรียมไว้ยังมีเหลืออยู่จึงอยากจะดื่มบ้าง
หญิงทั้ง 500คนพากันชักชวนไปหานางวิสาขาเพื่อให้พาไปเที่ยวชมสวนดอกไม้และซ่อนสุราไว้ในเสื้อ เมื่อไปถึง พวกนางได้กันแอบดื่มจนเมามายนางวิสาขามารู้ภายหลัง จึงกล่าวตักเตือนหญิงเหล่านั้นว่า ธรรมดามนุษย์ผู้มีใจสูงไม่ควรลดตัวลงต่ำไปดื่มสุรา ซึ่งเป็นทางแห่งความประมาททำให้ขาดสติสัมปชัญญะ พวกเธอได้ทำสิ่งที่ไม่สมควรทำให้ฉันต้องได้รับความเสื่อมเสีย นี่ถ้าสามีของพวกเธอรู้เธอก็จะเดือดร้อน
พวกนางไม่เชื่อฟัง พากันดื่มอย่างสนุกสนาน เมื่อกลับไปบ้านสามีได้กลิ่นสุรา ก็จับได้ว่า ภรรยาไปแอบดื่มสุรา จึงลงมือลงไม้ทุบตีและสั่งห้ามภรรยาดื่มสุราอย่างเด็ดขาด ถึงกระนั้นเมื่อมีงานมหรสพประจำปีหญิงทั้ง 500 คนเกิดความคึกคะนองอยากดื่มสุราอีก พวกนางได้ออกอุบายด้วยการไปหานางวิสาขาให้พาไปชมสวนอีก
คราวนี้ นางวิสาขาปฏิเสธไม่ยอมพาไป พวกนางอ้อนวอนใหม่ว่าถ้าอย่างนั้น ขอให้ช่วยพาไปที่วัดพระเชตวันก็ได้ นางวิสาขารีบตกลงเพราะนางชอบไปวัดอยู่แล้ว และเข้าใจว่าหญิง 500 คน อยากจะไปฟังธรรม เมื่อไปถึงวัด หญิงทั้ง 500 คน ได้แอบซ่อนสุราขวดเล็กๆไปด้วย พวกนางแอบดื่มกันอย่างครึ้มอกครึ้มใจ
นางวิสาขากราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดาให้แสดงธรรมแก่พวกนาง ขณะนั้นสุราที่หญิงทั้ง 500 คน ดื่มเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์ จึงมึนเมากันต่างแสดงอาการไม่สำรวม บางพวกก็ปรบมือคุยกันเสียงดังหัวเราะชอบใจทำกิริยาไม่สมควรต่อหน้าพระบรมศาสดา เมื่อพระพุทธองค์เห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ทรงมีพระประสงค์จะให้พวกนางได้สติและเกิดความละอาย จึงบันดาลให้ความมืดบังเกิดขึ้นครอบคลุมทั่วบริเวณนั้นพวกนางรู้สึกหวาดกลัว ขนลุกขนพองขึ้นมา ส่งผลให้สร่างเมาในทันที
พระบรมศาสดาทรงหายไปจากที่ประทับ ทรงปรากฏบนท้องฟ้าเปล่งฉัพพรรณรังสีสว่างไสว ยิ่งกว่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์นับพันดวงและตรัสกับหญิงเหล่านั้นว่า พวกเธอมาถึงสำนักของเราไม่ควรเป็นผู้ประมาทเพราะพวกเธอประมาทขาดสติ หมู่มารจึงได้โอกาสหัวเราะเยาะเอา บัดนี้พวกเธอควรทำความอุตสาหะรีบดับไฟ คือ ราคะ โทสะ โมหะ ให้หมดสิ้นไป ทันทีที่จบพระธรรมเทศนา หญิงเหล่านั้นต่างได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันทุกคน เป็นอริยบุคคลผู้ไม่ล่วงละเมิดศีลอีกต่อไปและเลิกดื่มน้ำเมาได้อย่างเด็ดขาด เพราะมีจิตดื่มด่ำอยู่ในกระแสแห่งธรรม
คำอธิบายและแหล่งอ้างอิง
1. เนื่องจากนางวิสาขาเป็นพระโสดาบันแล้ว จึงไม่มีวันตกต่ำ แม้มีเพื่อนชอบดื่มสุราก็ไม่อาจชักนำนางไปในทางไม่ดีได้ และสามารถเป็นกัลยาณมิตรให้เพื่อนๆทุกคนได้ไปวัดฟังธรรม และได้บรรลุธรรมในที่สุด จะเห็นว่า หากได้คบกับคนดี เราก็จะได้ดีไปด้วย
2. สำหรับปุถุชนทั่วไปที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล ควรหลีกเลี่ยงจากคนพาล เพราะตนเองยังไม่มั่นคง จะมีโอกาสถูกชักนำไปในทางเสื่อมได้ ยกเว้นคนที่ตั้งใจกลับตัวเป็นคนดี ก็พอที่จะช่วยเป็นกัลยาณมิตรให้เขาได้ เพราะในยุคนี้จะหาคนดี 100 % นั้น คงไม่มี
3. พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่ม 42 หน้า 143 - 147
เครดิตท่านนทบุญรักษา
คัดลอกจาก
https://www.facebook.com/share/17ebvGMXhy/
ประวัตินางวิสาขาเผยแพร่โดยนักศึกษาพระไตรปิฎก
สมัยนั้น มีกุลบุตร 500 คนพาภรรยาไปเพื่อให้รู้จักกับมหาอุบาสิกาวิสาขาเพื่อจะได้ซึมซับคุณธรรมความดี เพราะใครก็ตามที่ได้คบหากับนางวิสาขาได้ชื่อว่า มียอดกัลยาณมิตรผู้ชี้แนะเส้นทางบุญ เพื่อเปิดหนทางสวรรค์นิพพานฉะนั้น คนดีใครๆ ก็อยากคบหาสมาคมด้วย และในช่วงนั้นมีงานมหรสพเกี่ยวกับการดื่มสุรา ในงานจะมีการนำสุราที่หมักไว้เป็นอย่างดีมาประกวดกันว่า สุราของใครจะครองใจนักดื่มได้มากที่สุด
ภายใน 7 วันนั้น ทั้งเมืองจะหยุดการทำงานทุกอย่างมีแต่การละเล่นมหรสพ และการดื่มสุราเท่านั้นโดยภรรยาจะจัดแจงหาสุรามาให้สามีดื่ม และคอยต้อนรับเลี้ยงแขกที่มาเยือนเมื่อครบ 7 วัน ทุกคนจะเลิกดื่มกันทันที และต่างเริ่มงานกันตามปกติแต่พวกภรรยาเห็นว่า สุราที่เตรียมไว้ยังมีเหลืออยู่จึงอยากจะดื่มบ้าง
หญิงทั้ง 500คนพากันชักชวนไปหานางวิสาขาเพื่อให้พาไปเที่ยวชมสวนดอกไม้และซ่อนสุราไว้ในเสื้อ เมื่อไปถึง พวกนางได้กันแอบดื่มจนเมามายนางวิสาขามารู้ภายหลัง จึงกล่าวตักเตือนหญิงเหล่านั้นว่า ธรรมดามนุษย์ผู้มีใจสูงไม่ควรลดตัวลงต่ำไปดื่มสุรา ซึ่งเป็นทางแห่งความประมาททำให้ขาดสติสัมปชัญญะ พวกเธอได้ทำสิ่งที่ไม่สมควรทำให้ฉันต้องได้รับความเสื่อมเสีย นี่ถ้าสามีของพวกเธอรู้เธอก็จะเดือดร้อน
พวกนางไม่เชื่อฟัง พากันดื่มอย่างสนุกสนาน เมื่อกลับไปบ้านสามีได้กลิ่นสุรา ก็จับได้ว่า ภรรยาไปแอบดื่มสุรา จึงลงมือลงไม้ทุบตีและสั่งห้ามภรรยาดื่มสุราอย่างเด็ดขาด ถึงกระนั้นเมื่อมีงานมหรสพประจำปีหญิงทั้ง 500 คนเกิดความคึกคะนองอยากดื่มสุราอีก พวกนางได้ออกอุบายด้วยการไปหานางวิสาขาให้พาไปชมสวนอีก
คราวนี้ นางวิสาขาปฏิเสธไม่ยอมพาไป พวกนางอ้อนวอนใหม่ว่าถ้าอย่างนั้น ขอให้ช่วยพาไปที่วัดพระเชตวันก็ได้ นางวิสาขารีบตกลงเพราะนางชอบไปวัดอยู่แล้ว และเข้าใจว่าหญิง 500 คน อยากจะไปฟังธรรม เมื่อไปถึงวัด หญิงทั้ง 500 คน ได้แอบซ่อนสุราขวดเล็กๆไปด้วย พวกนางแอบดื่มกันอย่างครึ้มอกครึ้มใจ
นางวิสาขากราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดาให้แสดงธรรมแก่พวกนาง ขณะนั้นสุราที่หญิงทั้ง 500 คน ดื่มเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์ จึงมึนเมากันต่างแสดงอาการไม่สำรวม บางพวกก็ปรบมือคุยกันเสียงดังหัวเราะชอบใจทำกิริยาไม่สมควรต่อหน้าพระบรมศาสดา เมื่อพระพุทธองค์เห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ทรงมีพระประสงค์จะให้พวกนางได้สติและเกิดความละอาย จึงบันดาลให้ความมืดบังเกิดขึ้นครอบคลุมทั่วบริเวณนั้นพวกนางรู้สึกหวาดกลัว ขนลุกขนพองขึ้นมา ส่งผลให้สร่างเมาในทันที
พระบรมศาสดาทรงหายไปจากที่ประทับ ทรงปรากฏบนท้องฟ้าเปล่งฉัพพรรณรังสีสว่างไสว ยิ่งกว่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์นับพันดวงและตรัสกับหญิงเหล่านั้นว่า พวกเธอมาถึงสำนักของเราไม่ควรเป็นผู้ประมาทเพราะพวกเธอประมาทขาดสติ หมู่มารจึงได้โอกาสหัวเราะเยาะเอา บัดนี้พวกเธอควรทำความอุตสาหะรีบดับไฟ คือ ราคะ โทสะ โมหะ ให้หมดสิ้นไป ทันทีที่จบพระธรรมเทศนา หญิงเหล่านั้นต่างได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันทุกคน เป็นอริยบุคคลผู้ไม่ล่วงละเมิดศีลอีกต่อไปและเลิกดื่มน้ำเมาได้อย่างเด็ดขาด เพราะมีจิตดื่มด่ำอยู่ในกระแสแห่งธรรม
คำอธิบายและแหล่งอ้างอิง
1. เนื่องจากนางวิสาขาเป็นพระโสดาบันแล้ว จึงไม่มีวันตกต่ำ แม้มีเพื่อนชอบดื่มสุราก็ไม่อาจชักนำนางไปในทางไม่ดีได้ และสามารถเป็นกัลยาณมิตรให้เพื่อนๆทุกคนได้ไปวัดฟังธรรม และได้บรรลุธรรมในที่สุด จะเห็นว่า หากได้คบกับคนดี เราก็จะได้ดีไปด้วย
2. สำหรับปุถุชนทั่วไปที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล ควรหลีกเลี่ยงจากคนพาล เพราะตนเองยังไม่มั่นคง จะมีโอกาสถูกชักนำไปในทางเสื่อมได้ ยกเว้นคนที่ตั้งใจกลับตัวเป็นคนดี ก็พอที่จะช่วยเป็นกัลยาณมิตรให้เขาได้ เพราะในยุคนี้จะหาคนดี 100 % นั้น คงไม่มี
3. พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่ม 42 หน้า 143 - 147
เครดิตท่านนทบุญรักษา
คัดลอกจาก
https://www.facebook.com/share/17ebvGMXhy/