ตามหัวข้อเลยค่ะ เรารู้สึกว่าแฟนเราเป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่ไม่เคยมองเราในแง่ดีเลย ทุกครั้งที่เราเล่าเรื่องราวที่ค่อนข้าง emotional และไม่มีหลักฐานมายืนยันชี้ผิด ชี้ถูกได้แบบ 100% แต่เป็นการตัดสินที่อารมณ์และความรู้สึก แฟนจะมองข้ามความรู้สึกเราและแก้ตัวให้บุคคลที่ 3 ในเรื่องที่เราเล่าเสมอ
เราคบกับแฟนปีนี้เข้าปีที่ 4 ค่ะ ทะเลาะกันเรื่องนี้มาโดยตลอด ขอยกตัวอย่างที่เราพอจะจดจำได้นะคะ
เหตุการณ์ที่ 1 : เราไปตัดแว่นที่ห้างแห่งหนึ่ง ซึ่งเราก็เป็นลูกค้าเค้ามาตลอดหลายปี ขาแว่นเบี้ยวก็แวะไปให้ร้านปรับให้ ตัดแว่นใหม่ก็ร้านนี้ตลอด ก็จะเป็นพี่พนักงานท่านนี้เป็นคนบริการให้ตลอด แต่มีช่วงที่เราห่างหายจากการแวะเวียนเข้าไปที่ร้านเพราะเราไปอยู่ต่างประเทศมา ซึ่งพอแวะเข้าไปให้เขาปรับขาแว่นที่เบี้ยวให้ ไม่รู้พนักงานจำเราไม่ได้หรืออะไร สิ่งแรกที่เขาพูดกับเราคือ ขาแว่นลูกค้าบางมากเลยนะคะ บางขนาดนี้เอามาให้ร้านปรับกลัวจะหักนะคะ ซึ่งเราก็เอ้ะ คิดในใจว่า ทำไมพูดแบบนั้นละ แว่นนี้ก็ตัดที่ร้านคุณพี่นะ แล้วที่ผ่านมาขาแว่นเบี้ยวก็เอามาให้ปรับตลอด ไม่เห็นจะเคยพูดอะไร เราเลยตอบกลับไปว่า ลองทำดูก่อนได้มั้ยคะ แล้วก็เดินไปนั่งรอที่โซฟาในร้าน พนักงานเดินเข้าไปในห้องไม่ถึง 5 วิ เดินออกมาว่า ขาแว่นจะหักนะคะลูกค้าเพราะขาแว่นบางมาก ถ้าส่งให้ร้านเชื่อมใช้เวลาตั้ง 2 เดือนเลยนะคะกว่าจะได้ ลูกค้าจะยังทำอยู่มั้ยคะ เราเลยตอบกลับไปว่าลองทำดูก่อนก็ได้ค่ะ พนักงานเดินกลับไปในห้อง ไม่ถึง 1 นาทีเดินมาบอกว่า ขาแว่นหักแล้วนะคะลูกค้า เราก็เอ้า ไหนขอดูหน่อยได้มั้ย สรุปหักจริง แต่หักแบบเป็นเส้นตรงเหมือนถูกอะไรตัดผ่ากลาง เลยถามว่า คุณพี่หักแว่นเราหรอคะ ทำไมลอยหักมันตัดตรงขนาดนี้ พนักงานตะโกนลั่นร้านว่า ไม่ได้ทำนะคะ มันหักโดยเครื่องมือปรับขาแว่นค่ะ เราเลยบอกว่า ไม่เป็นไร ถ้าอย่างงั้นช่วยใส่เลนส์กลับเข้าไปที่แว่นให้หน่อย (ในตอนนั้นคิดแค่ว่าขอแค่มีแว่นเกาะหูเดียวก็ได้ จะได้ขับรถออกจากห้างไปตัดร้านที่มีคนแนะนำมา) ตอนนั้นคาสายคุยโทรศัพท์กับแม่อยู่ แม่ก็โมโหว่าทำไมพนักงานพูดแบบนั้น ด้วยน้ำเสียงแบบนั้น เลยบอกแม่ว่าไม่ตัดกับร้านนี้แล้ว เขาหักแว่นหนู พนักงานพูดไม่ดีด้วย ตะโกนใส่หนูซะลั่นร้านเลย ไม่ถึง 5 นาที พนักงานเดินออกมาพร้อมแว่นกรอบใหม่ แล้วบอกเราว่าให้ฟรี ไม่คิดเงิน ขอทราบเลขสมาชิกลูกค้าหน่อย พอบอกเลขไป พนักงานก็บอกเสร็จแล้วค่ะ เราก็เดินออกมาเลย แล้วก็ออกมาโทรศัพท์เล่าให้แฟนฟัง
แฟนแก้ตัวให้พนักงานทุกช่องโหว่ที่เรากล่าวหาเขา ไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่บอกว่า ขาแว่นบางมาก ทั้งๆที่เราตัดกับร้านเขา ซึ่งก็ไม่น่าจะมีพนักงานคนไหนเบลมสินค้าในร้านตัวเองหรอก แฟนก็หาข้อแก้ตัวให้เขาจนได้, หรือจะเป็นพนักงานตะโกนลั่นร้าน แฟนก็แก้ตัวแทนว่า ร้านอาจจะเงียบเพราะมีเราเป็นลูกค้าคนเดียว มันเลยดูเสียงดัง , ส่วนที่อยู่ดีๆพนักงานให้แว่นฟรี แฟนแก้ตัวให้ว่า อาจจะเป็นบริการของร้านแบบที่เขาพูด , ในส่วนที่เราพยายามอธิบายว่าแว่นหักยังไง แฟนเราก็คือวาดรูปเป็นเรื่องเป็นราวมาอธิบายว่าอาจจะมีเครื่องมือดัดขาแว่นที่ทำให้หักเป็นเส้นตรงเหมือนรอยตัดจากอุปกรณ์ก็ได้ , สุดท้ายแฟนโทรเข้าเบอร์ร้านไปถามพนักงานว่าทำไมให้แว่นเราฟรี มีค่าใช้จ่ายมั้ย แล้วก็ขอโทษเขา เรางงมากว่าทำทำไม , เราถามแฟนว่าแก้ตัวให้พนักงานทำไม แฟนบอกว่าไม่เคยเจอพนักงานแบบนี้กับตัว เลยไม่คิดว่าจะมีคนทำแบบที่เราพูด เราก็เอ้า หมายความว่าไง
เหตุการณ์ที่ 2 : เพื่อนของแฟนเราเปิดตัวแฟนใหม่ สมมุติชื่อว่า A มาแนะนำตัวกับกลุ่มเพื่อนๆโดยการนัดกินข้าว ซึ่งในมื้อนั้นA ไม่คุยกับเราเลย แต่คุยกับทุกคนในโต๊ะ ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร คิดว่าเพื่อนอาจจะเขิน ก็เลยพยายามชวนคุย แต่ reaction ที่ตอบกลับมาคือ สะกิดแฟนที่เป็นผช ให้ตอบคำถามแทน เช่น ชื่ออะไร *สะกิดแฟน - สรุปเพื่อนผู้ชายเป็นคนตอบ , ชวนคุยเรื่องซื้อเสื้อผ้าบ่อยมั้ย - สะกิดให้ผู้ชายเป็นคนตอบ แต่ถ้าเป็นคนอื่นถาม หรือแม้กระทั่งแฟนเราเป็นคนถาม A จะตอบเอง ซึ่งเราก็รู้สึกไม่ดี พอแยกย้ายก็เลยบ่นให้แฟนฟัง แฟนบอกว่า อะไรไม่รู้แต่เพื่อนผญน่าจะเป็นลูกคุณหนูแน่เลย ดูจากรถที่ขับ เราก็แบบเอ้ามันเกี่ยวอะไร ถามเราก่อนดีมั้ยว่าเราโอเครึเปล่า สรุปทะเลาะกันเป็นเรื่องเป็นราว แฟนว่าให้เราว่าเรามองโลกในแง่ร้ายเกิน เป็นคนที่มีความคิด toxic เราก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับคำว่าให้มาตลอด จนล่าสุดไปเจอคู่เพื่อนของแฟนเราอีกคู่หนึ่งโดยบังเอิญ ทางผญสมมุติว่าชื่อ B ก็คุยกับเราปกติ เราเลยพูดกับแฟนว่า เห็นมั้ยเธอเชื่อเรารึยังว่าวันนั้นมันไม่ปกติ แฟนแก้ตัวให้ A แบบตอบเบี่ยงๆไปว่า อาจจะเป็นนิสัยเขาก็ได้ แล้วก็เปลี่ยนเรื่องเลย เราก็แบบ เอ้า อุสส่ามีหลักฐานมาพิสูจน์ว่า เนี่ยกุไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย เหตุการณ์วันนั้นมันแปลกจริง แต่แฟนก็ไม่รับฟัง
พยายามถามเหตุผลว่าที่ทำแบบนี้ ที่เข้าข้างคนอื่นเสมอ ทำไปทำไม แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบเลย ซึ่งมันทำให้รู้สึกเบื่อ ต่อให้เขาจะเป็นคนมองโลกในแง่ดี เป็นคนดีขนาดไหน แต่ไม่เคยซัพพอร์ตความรู้สึกแย่ของเราเลย คือเขาไม่เคยคิดต่อเลยว่า แล้วสิ่งที่เราโดน เรา deserve แบบนั้นหรอ
ทำไมแฟนถึงชอบเข้าข้างบุคคลที่ 3 ในเรื่องที่เราเล่าให้เขาฟังคะ?
เราคบกับแฟนปีนี้เข้าปีที่ 4 ค่ะ ทะเลาะกันเรื่องนี้มาโดยตลอด ขอยกตัวอย่างที่เราพอจะจดจำได้นะคะ
เหตุการณ์ที่ 1 : เราไปตัดแว่นที่ห้างแห่งหนึ่ง ซึ่งเราก็เป็นลูกค้าเค้ามาตลอดหลายปี ขาแว่นเบี้ยวก็แวะไปให้ร้านปรับให้ ตัดแว่นใหม่ก็ร้านนี้ตลอด ก็จะเป็นพี่พนักงานท่านนี้เป็นคนบริการให้ตลอด แต่มีช่วงที่เราห่างหายจากการแวะเวียนเข้าไปที่ร้านเพราะเราไปอยู่ต่างประเทศมา ซึ่งพอแวะเข้าไปให้เขาปรับขาแว่นที่เบี้ยวให้ ไม่รู้พนักงานจำเราไม่ได้หรืออะไร สิ่งแรกที่เขาพูดกับเราคือ ขาแว่นลูกค้าบางมากเลยนะคะ บางขนาดนี้เอามาให้ร้านปรับกลัวจะหักนะคะ ซึ่งเราก็เอ้ะ คิดในใจว่า ทำไมพูดแบบนั้นละ แว่นนี้ก็ตัดที่ร้านคุณพี่นะ แล้วที่ผ่านมาขาแว่นเบี้ยวก็เอามาให้ปรับตลอด ไม่เห็นจะเคยพูดอะไร เราเลยตอบกลับไปว่า ลองทำดูก่อนได้มั้ยคะ แล้วก็เดินไปนั่งรอที่โซฟาในร้าน พนักงานเดินเข้าไปในห้องไม่ถึง 5 วิ เดินออกมาว่า ขาแว่นจะหักนะคะลูกค้าเพราะขาแว่นบางมาก ถ้าส่งให้ร้านเชื่อมใช้เวลาตั้ง 2 เดือนเลยนะคะกว่าจะได้ ลูกค้าจะยังทำอยู่มั้ยคะ เราเลยตอบกลับไปว่าลองทำดูก่อนก็ได้ค่ะ พนักงานเดินกลับไปในห้อง ไม่ถึง 1 นาทีเดินมาบอกว่า ขาแว่นหักแล้วนะคะลูกค้า เราก็เอ้า ไหนขอดูหน่อยได้มั้ย สรุปหักจริง แต่หักแบบเป็นเส้นตรงเหมือนถูกอะไรตัดผ่ากลาง เลยถามว่า คุณพี่หักแว่นเราหรอคะ ทำไมลอยหักมันตัดตรงขนาดนี้ พนักงานตะโกนลั่นร้านว่า ไม่ได้ทำนะคะ มันหักโดยเครื่องมือปรับขาแว่นค่ะ เราเลยบอกว่า ไม่เป็นไร ถ้าอย่างงั้นช่วยใส่เลนส์กลับเข้าไปที่แว่นให้หน่อย (ในตอนนั้นคิดแค่ว่าขอแค่มีแว่นเกาะหูเดียวก็ได้ จะได้ขับรถออกจากห้างไปตัดร้านที่มีคนแนะนำมา) ตอนนั้นคาสายคุยโทรศัพท์กับแม่อยู่ แม่ก็โมโหว่าทำไมพนักงานพูดแบบนั้น ด้วยน้ำเสียงแบบนั้น เลยบอกแม่ว่าไม่ตัดกับร้านนี้แล้ว เขาหักแว่นหนู พนักงานพูดไม่ดีด้วย ตะโกนใส่หนูซะลั่นร้านเลย ไม่ถึง 5 นาที พนักงานเดินออกมาพร้อมแว่นกรอบใหม่ แล้วบอกเราว่าให้ฟรี ไม่คิดเงิน ขอทราบเลขสมาชิกลูกค้าหน่อย พอบอกเลขไป พนักงานก็บอกเสร็จแล้วค่ะ เราก็เดินออกมาเลย แล้วก็ออกมาโทรศัพท์เล่าให้แฟนฟัง
แฟนแก้ตัวให้พนักงานทุกช่องโหว่ที่เรากล่าวหาเขา ไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่บอกว่า ขาแว่นบางมาก ทั้งๆที่เราตัดกับร้านเขา ซึ่งก็ไม่น่าจะมีพนักงานคนไหนเบลมสินค้าในร้านตัวเองหรอก แฟนก็หาข้อแก้ตัวให้เขาจนได้, หรือจะเป็นพนักงานตะโกนลั่นร้าน แฟนก็แก้ตัวแทนว่า ร้านอาจจะเงียบเพราะมีเราเป็นลูกค้าคนเดียว มันเลยดูเสียงดัง , ส่วนที่อยู่ดีๆพนักงานให้แว่นฟรี แฟนแก้ตัวให้ว่า อาจจะเป็นบริการของร้านแบบที่เขาพูด , ในส่วนที่เราพยายามอธิบายว่าแว่นหักยังไง แฟนเราก็คือวาดรูปเป็นเรื่องเป็นราวมาอธิบายว่าอาจจะมีเครื่องมือดัดขาแว่นที่ทำให้หักเป็นเส้นตรงเหมือนรอยตัดจากอุปกรณ์ก็ได้ , สุดท้ายแฟนโทรเข้าเบอร์ร้านไปถามพนักงานว่าทำไมให้แว่นเราฟรี มีค่าใช้จ่ายมั้ย แล้วก็ขอโทษเขา เรางงมากว่าทำทำไม , เราถามแฟนว่าแก้ตัวให้พนักงานทำไม แฟนบอกว่าไม่เคยเจอพนักงานแบบนี้กับตัว เลยไม่คิดว่าจะมีคนทำแบบที่เราพูด เราก็เอ้า หมายความว่าไง
เหตุการณ์ที่ 2 : เพื่อนของแฟนเราเปิดตัวแฟนใหม่ สมมุติชื่อว่า A มาแนะนำตัวกับกลุ่มเพื่อนๆโดยการนัดกินข้าว ซึ่งในมื้อนั้นA ไม่คุยกับเราเลย แต่คุยกับทุกคนในโต๊ะ ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร คิดว่าเพื่อนอาจจะเขิน ก็เลยพยายามชวนคุย แต่ reaction ที่ตอบกลับมาคือ สะกิดแฟนที่เป็นผช ให้ตอบคำถามแทน เช่น ชื่ออะไร *สะกิดแฟน - สรุปเพื่อนผู้ชายเป็นคนตอบ , ชวนคุยเรื่องซื้อเสื้อผ้าบ่อยมั้ย - สะกิดให้ผู้ชายเป็นคนตอบ แต่ถ้าเป็นคนอื่นถาม หรือแม้กระทั่งแฟนเราเป็นคนถาม A จะตอบเอง ซึ่งเราก็รู้สึกไม่ดี พอแยกย้ายก็เลยบ่นให้แฟนฟัง แฟนบอกว่า อะไรไม่รู้แต่เพื่อนผญน่าจะเป็นลูกคุณหนูแน่เลย ดูจากรถที่ขับ เราก็แบบเอ้ามันเกี่ยวอะไร ถามเราก่อนดีมั้ยว่าเราโอเครึเปล่า สรุปทะเลาะกันเป็นเรื่องเป็นราว แฟนว่าให้เราว่าเรามองโลกในแง่ร้ายเกิน เป็นคนที่มีความคิด toxic เราก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับคำว่าให้มาตลอด จนล่าสุดไปเจอคู่เพื่อนของแฟนเราอีกคู่หนึ่งโดยบังเอิญ ทางผญสมมุติว่าชื่อ B ก็คุยกับเราปกติ เราเลยพูดกับแฟนว่า เห็นมั้ยเธอเชื่อเรารึยังว่าวันนั้นมันไม่ปกติ แฟนแก้ตัวให้ A แบบตอบเบี่ยงๆไปว่า อาจจะเป็นนิสัยเขาก็ได้ แล้วก็เปลี่ยนเรื่องเลย เราก็แบบ เอ้า อุสส่ามีหลักฐานมาพิสูจน์ว่า เนี่ยกุไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย เหตุการณ์วันนั้นมันแปลกจริง แต่แฟนก็ไม่รับฟัง
พยายามถามเหตุผลว่าที่ทำแบบนี้ ที่เข้าข้างคนอื่นเสมอ ทำไปทำไม แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบเลย ซึ่งมันทำให้รู้สึกเบื่อ ต่อให้เขาจะเป็นคนมองโลกในแง่ดี เป็นคนดีขนาดไหน แต่ไม่เคยซัพพอร์ตความรู้สึกแย่ของเราเลย คือเขาไม่เคยคิดต่อเลยว่า แล้วสิ่งที่เราโดน เรา deserve แบบนั้นหรอ