ไอสไตน์กับนิวบอร์ เคยเถียงกัน เกี่ยวกับทฤษฎี สัมพัทธภาพ กับทฤษฎี ควอนตัม จนในที่สุด ไอสไตน์ ต้องยอมรับว่า ถ้าหากไม่มีมนุษย์เกิดขึ้นมา ก็จะไม่มีนามธรรมทั้งหลาย ซึ่งกรณีเช่นนี้ ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผมนั้น ผมคิดว่า การที่จะรวมทฤษฎี สัมพัทธภาพของไอสไตน์ รวมทั้ง ทฤษฎีควอนตัม ของนิวบอร์ เข้าด้วยกันนั้น มัน ต้องใช้จักรวาลภายใน เป็นสิ่งที่อธิบาย เพราะว่าเมื่อมนุษย์ ถึงแก่กรรมไป ดวงจิตของเขา ซึ่งเปรียบเหมือนซิมโทรศัพท์ หรือจักรวาลในเปลือกนัท ที่เล็กกว่าอะตอม ซึ่งสิ่งนี้แหละ คือการรวมทฤษฎีสัมพันธภาพไอน์สไตน์ กับทฤษฎีควอนตั้ม ของนิวบอร์ เข้า ด้วยกัน เนื่องจากโดนหลุมดำ ที่อยู่ใน จักรวาลภายใน ซึ่งเล็กกว่าอะตอม จนกฏทางฟิสิกส์บนโลก ไม่สามารถอธิบาย สภาพการณ์ ที่เล็กกว่าอะตอมนั้นได้ คือบริเวณสมองของมนุษย์แต่ละคน ดูดลง เข้าไปในหลุมดำ จนกระทั่ง เวลาหยุด ซึ่งตอนนี้แหละ ที่ นั่นคือเวลาหยุด นั่นคือ สมองของคนๆนั้นได้ตายลง เนื่องจากเวลาหยุด ซึ่งตาม คัมภีร์ไบเบิล เขาบอกว่า จุดที่เวลาหยุด นั่นคือสิ่งที่เขาเรียกว่าโอเมก้า หรือจุดสิ้นสุด และพระเจ้าก็จะอยู่ระหว่างจุดนี้ กับจุดเริ่มต้น ในชีวิตใหม่ ที่เรียกว่าแอลฟา ซึ่งจุด Alpha ซึ่งจุด Alpha นี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Big Bang ซึ่งเมื่อระเบิดก็จะเป็นจักรวาลใหม่ในร่างกายใหม่ ซึ่งอยู่ใน จิตใจ ของทารกที่เกิดใหม่ ซึ่งถ้าไม่มีการ ระเบิด Bigbang เวลาในร่างกาย ของทารก ที่จะเกิดขึ้นมาใหม่นี้ ก็จะไม่เดิน เพราะฉะนั้น การที่จะให้ร่างกายของทารกเติบโตนั้น ต้องเกิด Big Bang ก่อน เวลาถึงจะเดิน ซึ่งร่างกายของทารกนั้นจะเจริญเติบโต เป็นร่างกายของสิ่งมีชีวิตต่างๆไม่ได้ นั่นคือไม่มีดวงจิตเข้าอยู่ในร่างของทารก หรือ ร่างกาย ของสิ่งมีชีวิตต่างๆบนโลกใบนี้ ซึ่ง จักรวาลในเปลือกนัท หรือ ดวงจิต หรือ ซิม จะเริ่มระเบิดก็ต่อเมื่อได้เข้าไปอยู่ ในร่างกายของทารก ที่เกิดจากการ มีเพศสัมพันธ์ของ มนุษย์ทั้งสองเพศนั่นคือบิดามารดา ของทารกนั้น และนี่แหละคือการที่จะอธิบายว่า การ เวียนว่ายตายเกิดเป็นอย่างไร ส่วนพระเจ้าที่อยู่ระหว่างจุดโอเมก้าและอัลฟ่านั้น ก็จะเป็น คนที่ตัดสินว่า เมื่อใดจะมาเกิด หลังจาก ดวงจิตดวงนั้น สิ้นสุดลง ในจุดที่เรียกว่าโอเมก้า นั่นคือเวลาหยุด ซึ่งก่อนการจะมาเกิดใหม่นั้น อาจจะให้อยู่ในสวรรค์ที่เรียกว่าซีเรดเชียลก่อน ตามความดีที่กระทำไว้ ก่อนตาย หรือตัดสินให้อยู่ในนรกก็ได้ ตามกรรมที่เขาได้ ทำไว้ ก่อนตายหรือ ก่อนที่จะลงหลุมดำ หรือโอเมก้า
การรวมทฤษฎีสัมพันธภาพกับทฤษฎีควอนตัมที่ไอน์สไตน์ พยายามรวมเมื่อ70ปีที่แล้วก่อนที่เขาจะถึงแก่กรรมตอนนี้น่าจะรวมได้แล้ว