ตะลึงคนแห่จำนำทองพุ่ง 3 เท่า ‘อีซี่มันนี่’ ตุนสภาพคล่อง 3 พันล้านรับมือ
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 - 10:31 น.
โรงรับจำนำ “อีซี่มันนี่” ชี้คนแห่จำนำทองคำพุ่ง 3 เท่าตัว ตามเทรนด์ราคาทอง เผยทองคำแท่งจำนำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 20 ปี ตุนสภาพคล่อง 3,000 ล้านบาทไว้รองรับ พร้อมเปิด 5 ทรัพย์คนนิยมนำมาตึ๊ง “ทอง” อันดับแรก ตามด้วย “เครื่องเพชร-นาฬิกาหรู-กรอบพระ-กระเป๋าแบรนด์เนม”
นายสิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ ประธานกรรมการบริษัท ตั้งธนสิน จำกัด ผู้ให้บริการ โรงรับจำนำ “อีซี่มันนี่” (Easy Money) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ในช่วงที่ราคาทองคำปรับสูงขึ้น พบว่า ใน 103 สาขาของอีซี่มันนี่ มีลูกค้าเข้ามาจำนำทองคำมากกว่าการขายทองคำ เนื่องจากคนมองว่าราคาทองคำจะปรับสูงขึ้นอีก
โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่จำนำทองคำกันในช่วงนี้ จะมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีทองคำที่เก็บสะสมไว้ มีการนำออกมาจำนำมากขึ้น เพราะมองว่า ราคาทองคำที่จำนำได้จำนวนเงินมากกว่าอัตราดอกเบี้ยที่เสีย 1.25% ต่อเดือน
สิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ
“ปกติราคาทองคำปรับขึ้น จะเห็นการขายทองคำเยอะ แต่ปัจจุบันนับตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นมา พบว่าการขายทองคำไม่เยอะ แต่เป็นการจำนำสูงกว่าการขาย เพราะคิดว่าราคาทองคำจะปรับเพิ่มขึ้นอีก”
Advertisement
ขณะที่อีกกลุ่มเป็นกลุ่มที่มีทองคำแท่ง ซึ่งกลุ่มนี้ก็มีการนำออกมาจำนำมากเป็น “ประวัติการณ์” เห็นสัญญาณในทุกสาขา โดยเฉพาะในเดือน ต.ค. 2568 มียอดจำนำสูงสุดในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่โรงรับจำนำอีซี่มันนี่เปิดดำเนินการมา
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบัน หรือประมาณ 25 ปี ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นไปแล้ว 14 เท่า หากซื้อเก็บไว้ โดยไม่ได้ขาย จะพบว่า ราคาขึ้นมาแล้ว 14 เท่า จึงเป็นทางเลือกการออมหรือเก็บความมั่งคั่ง
“มองแค่ปีนี้ หากเราเก็บเงินเพื่อออมทอง เช่น ทำมาหาได้มา และเอาเงินเดือนแบ่งมา 20% มาออมทองไว้ ขั้นต่ำ 100 บาท ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้เราก็มีกำไรแล้ว 60% หากเราออมทองต่อเนื่อง”
Advertisememt
นายสิทธิวิชญ์กล่าวว่า สถานการณ์สงครามและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) และกระแสการเสื่อมค่าของค่าเงินดอลลาร์ ส่งผลให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐขายได้ยากขึ้น ทำให้หลายธนาคารกลางหลายประเทศลดทุนสำรองระหว่างประเทศที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์ลง และหันมาเก็บทองคำแทน เช่น จีน เป็นต้น และสะท้อนจากในช่วงที่ราคาทองคำปรับลดลง ปรากฏว่ามีคนแห่ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เฉพาะประเทศไทย แต่ปรากฏการณ์นี้ยังเกิดขึ้นกับประเทศอื่น ๆ อาทิ เกาหลีใต้ เวียดนาม เป็นต้น
“จากหลาย ๆ ปัจจัยที่กล่าวมา จึงเป็นภาพในช่วงที่ผ่านมาที่มีคนจำนำทองคำมากขึ้น และคนขายทองคำลดลง โดยหากเทียบตัวเลขในเดือน ต.ค. 2567 และในเดือน ต.ค. 2568 เราเห็นตัวเลขกลุ่มคนที่มาจำนำเพิ่มขึ้นประมาณ 3 เท่า จากปกติสัญญาจะขายมากกว่า อย่างไรก็ดี อีซี่มันนี่ยังคงมีสภาพคล่องเพียงพอรองรับความต้องการของลูกค้าที่นำทองคำมาจำนำมากขึ้น เนื่องจากบริษัทเพิ่งได้รับวงเงินจากสถาบันการเงินมา เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 3,000 ล้านบาท ถือว่าเพียงพอกับความต้องการ”
นายสิทธิวิชญ์กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มการรับจำนำในไตรมาส 4 ปี 2568 นั้น โดยปกติ ยอดรับจำนำในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. จะไม่ค่อยสูงมากนัก โดยเฉพาะในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือน ธ.ค. ส่วนหนึ่งมาจากเป็นช่วงที่คนจะได้รับโบนัส ซึ่งจะมีเงินนำมาไถ่ถอนสินค้าที่นำมาจำนำ โดยเฉพาะทองคำเพื่อใส่กลับไปเยี่ยมบ้าน
โดยสินค้าที่นำมาจำนำที่โรงรับจำนำ อีซี่มันนี่มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ทองคำ 2.เครื่องเพชร 3.นาฬิกาหรู เช่น โรเล็กซ์ ปาเต๊ะ เป็นต้น 4.กรอบพระ และ 5.กระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อต่าง ๆ เช่น หลุยส์ วิตตอง แอร์เมส เป็นต้น
“ปีนี้เราตั้งเป้าเติบโตรายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว บริษัทดูแลลูกค้าเต็มที่ และหากลูกค้าไม่ไหวหรือมีเหตุให้สามารถมาไถ่ถอนทรัพย์ได้ บริษัทจะยืดหนี้ให้ลูกค้าได้หลังครบกำหนด 4 เดือน 30 วัน และก่อนจะครบกำหนดชำระดอกเบี้ยเราจะมีการแจ้งเตือนลูกค้าล่วงหน้า 5 วัน หากลูกค้าติดธุระหรือไม่สามารถมาตามกำหนดเราสามารถยืดหยุ่นให้ลูกค้าได้”
ตลึงคนแห่จำนำทองพุ่ง3xeasymoneyตุนสพาบค่อง3พลบรับมือ
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 - 10:31 น.
โรงรับจำนำ “อีซี่มันนี่” ชี้คนแห่จำนำทองคำพุ่ง 3 เท่าตัว ตามเทรนด์ราคาทอง เผยทองคำแท่งจำนำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 20 ปี ตุนสภาพคล่อง 3,000 ล้านบาทไว้รองรับ พร้อมเปิด 5 ทรัพย์คนนิยมนำมาตึ๊ง “ทอง” อันดับแรก ตามด้วย “เครื่องเพชร-นาฬิกาหรู-กรอบพระ-กระเป๋าแบรนด์เนม”
นายสิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ ประธานกรรมการบริษัท ตั้งธนสิน จำกัด ผู้ให้บริการ โรงรับจำนำ “อีซี่มันนี่” (Easy Money) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ในช่วงที่ราคาทองคำปรับสูงขึ้น พบว่า ใน 103 สาขาของอีซี่มันนี่ มีลูกค้าเข้ามาจำนำทองคำมากกว่าการขายทองคำ เนื่องจากคนมองว่าราคาทองคำจะปรับสูงขึ้นอีก
โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่จำนำทองคำกันในช่วงนี้ จะมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีทองคำที่เก็บสะสมไว้ มีการนำออกมาจำนำมากขึ้น เพราะมองว่า ราคาทองคำที่จำนำได้จำนวนเงินมากกว่าอัตราดอกเบี้ยที่เสีย 1.25% ต่อเดือน
สิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ
“ปกติราคาทองคำปรับขึ้น จะเห็นการขายทองคำเยอะ แต่ปัจจุบันนับตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นมา พบว่าการขายทองคำไม่เยอะ แต่เป็นการจำนำสูงกว่าการขาย เพราะคิดว่าราคาทองคำจะปรับเพิ่มขึ้นอีก”
Advertisement
ขณะที่อีกกลุ่มเป็นกลุ่มที่มีทองคำแท่ง ซึ่งกลุ่มนี้ก็มีการนำออกมาจำนำมากเป็น “ประวัติการณ์” เห็นสัญญาณในทุกสาขา โดยเฉพาะในเดือน ต.ค. 2568 มียอดจำนำสูงสุดในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่โรงรับจำนำอีซี่มันนี่เปิดดำเนินการมา
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบัน หรือประมาณ 25 ปี ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นไปแล้ว 14 เท่า หากซื้อเก็บไว้ โดยไม่ได้ขาย จะพบว่า ราคาขึ้นมาแล้ว 14 เท่า จึงเป็นทางเลือกการออมหรือเก็บความมั่งคั่ง
“มองแค่ปีนี้ หากเราเก็บเงินเพื่อออมทอง เช่น ทำมาหาได้มา และเอาเงินเดือนแบ่งมา 20% มาออมทองไว้ ขั้นต่ำ 100 บาท ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้เราก็มีกำไรแล้ว 60% หากเราออมทองต่อเนื่อง”
Advertisememt
นายสิทธิวิชญ์กล่าวว่า สถานการณ์สงครามและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) และกระแสการเสื่อมค่าของค่าเงินดอลลาร์ ส่งผลให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐขายได้ยากขึ้น ทำให้หลายธนาคารกลางหลายประเทศลดทุนสำรองระหว่างประเทศที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์ลง และหันมาเก็บทองคำแทน เช่น จีน เป็นต้น และสะท้อนจากในช่วงที่ราคาทองคำปรับลดลง ปรากฏว่ามีคนแห่ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เฉพาะประเทศไทย แต่ปรากฏการณ์นี้ยังเกิดขึ้นกับประเทศอื่น ๆ อาทิ เกาหลีใต้ เวียดนาม เป็นต้น
“จากหลาย ๆ ปัจจัยที่กล่าวมา จึงเป็นภาพในช่วงที่ผ่านมาที่มีคนจำนำทองคำมากขึ้น และคนขายทองคำลดลง โดยหากเทียบตัวเลขในเดือน ต.ค. 2567 และในเดือน ต.ค. 2568 เราเห็นตัวเลขกลุ่มคนที่มาจำนำเพิ่มขึ้นประมาณ 3 เท่า จากปกติสัญญาจะขายมากกว่า อย่างไรก็ดี อีซี่มันนี่ยังคงมีสภาพคล่องเพียงพอรองรับความต้องการของลูกค้าที่นำทองคำมาจำนำมากขึ้น เนื่องจากบริษัทเพิ่งได้รับวงเงินจากสถาบันการเงินมา เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 3,000 ล้านบาท ถือว่าเพียงพอกับความต้องการ”
นายสิทธิวิชญ์กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มการรับจำนำในไตรมาส 4 ปี 2568 นั้น โดยปกติ ยอดรับจำนำในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. จะไม่ค่อยสูงมากนัก โดยเฉพาะในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือน ธ.ค. ส่วนหนึ่งมาจากเป็นช่วงที่คนจะได้รับโบนัส ซึ่งจะมีเงินนำมาไถ่ถอนสินค้าที่นำมาจำนำ โดยเฉพาะทองคำเพื่อใส่กลับไปเยี่ยมบ้าน
โดยสินค้าที่นำมาจำนำที่โรงรับจำนำ อีซี่มันนี่มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ทองคำ 2.เครื่องเพชร 3.นาฬิกาหรู เช่น โรเล็กซ์ ปาเต๊ะ เป็นต้น 4.กรอบพระ และ 5.กระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อต่าง ๆ เช่น หลุยส์ วิตตอง แอร์เมส เป็นต้น
“ปีนี้เราตั้งเป้าเติบโตรายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว บริษัทดูแลลูกค้าเต็มที่ และหากลูกค้าไม่ไหวหรือมีเหตุให้สามารถมาไถ่ถอนทรัพย์ได้ บริษัทจะยืดหนี้ให้ลูกค้าได้หลังครบกำหนด 4 เดือน 30 วัน และก่อนจะครบกำหนดชำระดอกเบี้ยเราจะมีการแจ้งเตือนลูกค้าล่วงหน้า 5 วัน หากลูกค้าติดธุระหรือไม่สามารถมาตามกำหนดเราสามารถยืดหยุ่นให้ลูกค้าได้”