“นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)” หรือเรียกว่า “นักบุญลิดไวน์แห่งสกีดาม (Saint Lydwine of Schiedam - Heilige Liedewij van Schiedam)” เป็นเด็กหญิงชาวดัตช์ (Dutch) ที่เกิดเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1380 ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ใบลาน (Palm Sunday) ที่เมืองสกีดาม (Schiedam) จังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ (South Holland - Zuid-Holland) ในจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Roman Empire) ปัจจุบัน คือ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ท่านเติบโตมากับพี่ชาย 8 คน โดยมีบิดาชื่อ “เปโตร (Peter)” และมารดา “เปโตรเนลลา (Petronella)” ซึ่งเป็น “ชนชั้นสูงผู้ยากจน” และ “สามัญชนผู้ยากจน”
จากคำบอกเล่าทั้งหมด ท่านเป็น “เด็กสาวที่อ่อนหวานและมีเสน่ห์” เมื่ออายุ 15 ปี ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัด นักบุญลิดวินากำลังเล่นสเก็ตกับเพื่อนๆของท่านที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน แล้วท่านก็เกิดล้มลงและซี่โครงหัก ท่านจึงต้องนอนพักอยู่บนเตียงที่บ้าน หลังจากได้รับบาดเจ็บ แผลก็เน่าเปื่อยก็ลุกลาม และนักบุญลิดวินาก็เป็นอัมพาตบางส่วน
เมื่อ “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)” อายุ 15 ปี ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัด ท่านกำลังเล่นสเก็ตกับเพื่อนๆของท่านที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน แล้วท่านก็เกิดล้มลงและซี่โครงหัก ท่านจึงต้องนอนพักอยู่บนเตียงที่บ้าน หลังจากได้รับบาดเจ็บ แผลก็เน่าเปื่อยก็ลุกลาม และท่านก็เป็นอัมพาตบางส่วน
ท่านไม่เคยหายขาดจากอาการบาดเจ็บ และอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ ตลอดชีวิต เชื่อกันว่า ท่านเป็นอัมพาต ยกเว้นมือซ้าย และบางส่วนของร่างกาย… “หลุดออก” มีรายงานว่า มีเลือดไหลออกมาจากปาก , หู และจมูกของท่านเอง นักประวัติศาสตร์บางคนตั้งสมมติฐานว่า เรื่องราวความทุกข์ทรมานของท่านอาจเป็นคำอธิบายถึงหนึ่งในอาการแรกๆของโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ซึ่งแน่นอนว่า ในเวลานั้นคงไม่มีใครรู้จักโรคนี้
นักบุญลิดวินาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสวดภาวนา , การรำพึง และการถวายความเจ็บปวดแด่พระเจ้า ท่านอุทิศตนให้กับศีลมหาสนิทอย่างเคร่งครัด และได้เยี่ยมเยียนจากบรรดานักบุญ และได้เห็นนิมิตที่แสดงให้เห็น “สวรรค์และไฟชำระ” มีรายงานว่า อัศจรรย์เกิดขึ้นกับข้างตัวท่าน
“นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)” ได้รับนิมิต
หลังจากที่นักบุญลิดวินาล้มลงขณะเล่นสเก็ต ท่านได้อดอาหารอย่างต่อเนื่องและได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้รักษาโรคและผู้หญิงศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าหลายคนจะมองว่าท่าน "อยู่ภายใต้อิทธิพลของจิตชั่วร้าย" เนื่องจากสุขภาพของท่านที่แย่ลง
เมืองสกีดาม บ้านเกิดของท่านได้จัดทำเอกสารที่ยืนยันการอดอาหารของท่าน ท่านกินเพียงแอปเปิลชิ้นเล็กๆ จากนั้นก็กินอินทผลัมอีกส่วนหนึ่ง ไวน์เจือจาง และน้ำในแม่น้ำที่ปนเปื้อนเกลือจากกระแสน้ำ เอกสารฉบับนี้ซึ่งจัดทำโดยเจ้าหน้าที่เมืองสกีดาม (ซึ่งยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน) ยังอ้างว่า ท่านได้ขับหนัง , กระดูก และลำไส้บางส่วนออกมา ซึ่งบิดามารดาของท่านเก็บไว้ในขวด จนกระทั่งนักบุญลิดวินาให้มารดาของท่านฝังสิ่งเหล่านั้นหลังจากที่พวกเขาได้รับความสนใจอย่างมาก
นักบุญลิดวินาสูญเสียการมองเห็น 7 ปีก่อนที่จะเสียชีวิต แต่ยังคงอดอาหารและรายงานนิมิต มีครั้งหนึ่งที่ทูตสวรรค์ผู้อารักขา (Guardian Angel) มีมาช่วยเหลือท่าน จนกระทั่งท่านเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1976 ขณะที่มีอายุได้ 52 ปี
มีครั้งหนึ่งที่ทูตสวรรค์ผู้อารักขา (Guardian Angel) มีมาช่วยเหลือ “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)” จนกระทั่งท่านเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1976 ขณะที่มีอายุได้ 52 ปี
หลังจากที่นักบุญลิดวินาเสียชีวิต หลุมศพของท่านก็กลายเป็นสถานที่แสวงบุญ หนังสือ “นักบุญลิดวินาแห่งซิดัม พรหมจารี (Saint Lidwina of Schiedam, virgin)” ซึ่งตีพิมพ์โดย “โทมัส อาร์ แคมเปส (Thomas à Kempis)” พระสงฆ์คณะวินเดสไฮม์ (Congregation of Windesheim - CRV) ทำให้ผู้คนเคารพในตัวท่านเพิ่มมากขึ้น ในปีค.ศ. 1615 พระธาตุของนักบุญลิดวินาถูกนำไปยังกรุงบรัสเซลส์ (Brussels - Brussel - Bruxelles - Brüssel) ประเทศเบลเยียม แต่ในปีค.ศ. 1871 พระธาตุของท่านถูกส่งกลับคืนที่เมืองสกีดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในปีค.ศ. 1434 มีการสร้างวัดน้อยขึ้นเหนือหลุมศพ พระธาตุของนักบุญลิดวินาถูกนำไปยังกรุงบรัสเซลส์ อีกครั้งในปีค.ศ. 1615 ก่อนจะถูกส่งกลับคืนที่เมืองสกีดามในปีค.ศ. 1871
“โทมัส อาร์ แคมเปส (Thomas à Kempis)” พระสงฆ์คณะวินเดสไฮม์ (Congregation of Windesheim - CRV) ผู้ตีพิมพ์หนังสือ “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม พรหมจารี (Saint Lidwina of Schiedam, virgin)” ทำให้ผู้คนเคารพในตัว “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)” เพิ่มมากขึ้น
ท่านได้รับการประกาศเป็นนักบุญ (Saint) โดยพระสันตะปาปาเลโอ ที่ 13 (Pope Leo XIII) เมื่อ 14 มีนาคม ค.ศ. 1890 ท่านเป็นที่รู้จักในฐานะนักบุญอุปถัมภ์ของเมืองสกีดาม , นักสเก็ตน้ำแข็ง และผู้ป่วยเรื้อรัง ส่วนวันฉลองของท่านตรงกับวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับธรรมประเพณีของแต่ละพื้นที่
พระสันตะปาปาเลโอ ที่ 13 (Pope Leo XIII) ผู้ประกาศให้ “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)” เป็นนักบุญ (Saint) เมื่อ 14 มีนาคม ค.ศ. 1890
สักการสถานของท่าน คือ “มหาวิหารนักบุญลิดวินาและแม่พระแห่งสายประคำ (Basilica of Saint Liduina and Our Lady of the Rosary - Basiliek van de Heilige Liduina en Onze Lieve Vrouw van de Rozenkrans)” หรือเรียกสั้นๆว่า “มหาวิหารลิดวินา (Liduina Basiliek)” ที่เมืองสกีดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์
+ Liduina Basiliek (Basilica of Saint Liduina and Our Lady of the Rosary - มหาวิหารนักบุญลิดวินาและแม่พระแห่งสายประคำ)
- Google Maps
https://maps.app.goo.gl/Ccfw3mTG2cRHyuH18
- เว็บไซต์
https://www.liduinabasiliek.nl/?fbclid=IwY2xjawOESyVleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFXVlpvRnJRQVIxcXFFamtlc3J0YwZhcHBfaWQQMjIyMDM5MTc4ODIwMDg5MgABHv607gBcV8SpiHuGJYJsYyB8GZqsHzPu1Ij3SAv_Npxs8wC5giHdTc10X4L__aem_dG9Qv_eWrE9YyChrlyEeBQ
ภายนอก “มหาวิหารนักบุญลิดวินาและแม่พระแห่งสายประคำ (Basilica of Saint Liduina and Our Lady of the Rosary - Basiliek van de Heilige Liduina en Onze Lieve Vrouw van de Rozenkrans)” หรือเรียกสั้นๆว่า “มหาวิหารลิดวินา (Liduina Basiliek)” ที่เมืองสกีดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสักการสถานของ “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)”
ภายใน “มหาวิหารนักบุญลิดวินาและแม่พระแห่งสายประคำ (Basilica of Saint Liduina and Our Lady of the Rosary - Basiliek van de Heilige Liduina en Onze Lieve Vrouw van de Rozenkrans)” หรือเรียกสั้นๆว่า “มหาวิหารลิดวินา (Liduina Basiliek)” ที่เมืองสกีดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสักการสถานของ “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)”
#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ชีวประวัติ #นักบุญ #ประวัติศาสตร์ #นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม #นักบุญลิดไวน์แห่งสกีดาม #นักบุญลิดวินา #นักบุญลิดไวน์ #รหัสนิก #เนเธอร์แลนด์ #ประเทศเนเธอร์แลนด์ #ดัตซ์ #ศักดิ์สิทธิ์ #หนังสือ #catholic #SaintLidwinaOfSchiedam #SaintLydwineOfSchiedam #SaintLidwina #SaintLydwine #mystic #HeiligeLiduinaVanSchiedam #HeiligeLiedewijVanSchiedam
CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/17XYEcnYJ5/
ชีวประวัติ นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)
“นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)” หรือเรียกว่า “นักบุญลิดไวน์แห่งสกีดาม (Saint Lydwine of Schiedam - Heilige Liedewij van Schiedam)” เป็นเด็กหญิงชาวดัตช์ (Dutch) ที่เกิดเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1380 ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ใบลาน (Palm Sunday) ที่เมืองสกีดาม (Schiedam) จังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ (South Holland - Zuid-Holland) ในจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Roman Empire) ปัจจุบัน คือ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ท่านเติบโตมากับพี่ชาย 8 คน โดยมีบิดาชื่อ “เปโตร (Peter)” และมารดา “เปโตรเนลลา (Petronella)” ซึ่งเป็น “ชนชั้นสูงผู้ยากจน” และ “สามัญชนผู้ยากจน”
จากคำบอกเล่าทั้งหมด ท่านเป็น “เด็กสาวที่อ่อนหวานและมีเสน่ห์” เมื่ออายุ 15 ปี ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัด นักบุญลิดวินากำลังเล่นสเก็ตกับเพื่อนๆของท่านที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน แล้วท่านก็เกิดล้มลงและซี่โครงหัก ท่านจึงต้องนอนพักอยู่บนเตียงที่บ้าน หลังจากได้รับบาดเจ็บ แผลก็เน่าเปื่อยก็ลุกลาม และนักบุญลิดวินาก็เป็นอัมพาตบางส่วน
เมื่อ “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)” อายุ 15 ปี ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัด ท่านกำลังเล่นสเก็ตกับเพื่อนๆของท่านที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน แล้วท่านก็เกิดล้มลงและซี่โครงหัก ท่านจึงต้องนอนพักอยู่บนเตียงที่บ้าน หลังจากได้รับบาดเจ็บ แผลก็เน่าเปื่อยก็ลุกลาม และท่านก็เป็นอัมพาตบางส่วน
ท่านไม่เคยหายขาดจากอาการบาดเจ็บ และอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ ตลอดชีวิต เชื่อกันว่า ท่านเป็นอัมพาต ยกเว้นมือซ้าย และบางส่วนของร่างกาย… “หลุดออก” มีรายงานว่า มีเลือดไหลออกมาจากปาก , หู และจมูกของท่านเอง นักประวัติศาสตร์บางคนตั้งสมมติฐานว่า เรื่องราวความทุกข์ทรมานของท่านอาจเป็นคำอธิบายถึงหนึ่งในอาการแรกๆของโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ซึ่งแน่นอนว่า ในเวลานั้นคงไม่มีใครรู้จักโรคนี้
นักบุญลิดวินาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสวดภาวนา , การรำพึง และการถวายความเจ็บปวดแด่พระเจ้า ท่านอุทิศตนให้กับศีลมหาสนิทอย่างเคร่งครัด และได้เยี่ยมเยียนจากบรรดานักบุญ และได้เห็นนิมิตที่แสดงให้เห็น “สวรรค์และไฟชำระ” มีรายงานว่า อัศจรรย์เกิดขึ้นกับข้างตัวท่าน
“นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)” ได้รับนิมิต
หลังจากที่นักบุญลิดวินาล้มลงขณะเล่นสเก็ต ท่านได้อดอาหารอย่างต่อเนื่องและได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้รักษาโรคและผู้หญิงศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าหลายคนจะมองว่าท่าน "อยู่ภายใต้อิทธิพลของจิตชั่วร้าย" เนื่องจากสุขภาพของท่านที่แย่ลง
เมืองสกีดาม บ้านเกิดของท่านได้จัดทำเอกสารที่ยืนยันการอดอาหารของท่าน ท่านกินเพียงแอปเปิลชิ้นเล็กๆ จากนั้นก็กินอินทผลัมอีกส่วนหนึ่ง ไวน์เจือจาง และน้ำในแม่น้ำที่ปนเปื้อนเกลือจากกระแสน้ำ เอกสารฉบับนี้ซึ่งจัดทำโดยเจ้าหน้าที่เมืองสกีดาม (ซึ่งยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน) ยังอ้างว่า ท่านได้ขับหนัง , กระดูก และลำไส้บางส่วนออกมา ซึ่งบิดามารดาของท่านเก็บไว้ในขวด จนกระทั่งนักบุญลิดวินาให้มารดาของท่านฝังสิ่งเหล่านั้นหลังจากที่พวกเขาได้รับความสนใจอย่างมาก
นักบุญลิดวินาสูญเสียการมองเห็น 7 ปีก่อนที่จะเสียชีวิต แต่ยังคงอดอาหารและรายงานนิมิต มีครั้งหนึ่งที่ทูตสวรรค์ผู้อารักขา (Guardian Angel) มีมาช่วยเหลือท่าน จนกระทั่งท่านเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1976 ขณะที่มีอายุได้ 52 ปี
มีครั้งหนึ่งที่ทูตสวรรค์ผู้อารักขา (Guardian Angel) มีมาช่วยเหลือ “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)” จนกระทั่งท่านเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1976 ขณะที่มีอายุได้ 52 ปี
หลังจากที่นักบุญลิดวินาเสียชีวิต หลุมศพของท่านก็กลายเป็นสถานที่แสวงบุญ หนังสือ “นักบุญลิดวินาแห่งซิดัม พรหมจารี (Saint Lidwina of Schiedam, virgin)” ซึ่งตีพิมพ์โดย “โทมัส อาร์ แคมเปส (Thomas à Kempis)” พระสงฆ์คณะวินเดสไฮม์ (Congregation of Windesheim - CRV) ทำให้ผู้คนเคารพในตัวท่านเพิ่มมากขึ้น ในปีค.ศ. 1615 พระธาตุของนักบุญลิดวินาถูกนำไปยังกรุงบรัสเซลส์ (Brussels - Brussel - Bruxelles - Brüssel) ประเทศเบลเยียม แต่ในปีค.ศ. 1871 พระธาตุของท่านถูกส่งกลับคืนที่เมืองสกีดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในปีค.ศ. 1434 มีการสร้างวัดน้อยขึ้นเหนือหลุมศพ พระธาตุของนักบุญลิดวินาถูกนำไปยังกรุงบรัสเซลส์ อีกครั้งในปีค.ศ. 1615 ก่อนจะถูกส่งกลับคืนที่เมืองสกีดามในปีค.ศ. 1871
“โทมัส อาร์ แคมเปส (Thomas à Kempis)” พระสงฆ์คณะวินเดสไฮม์ (Congregation of Windesheim - CRV) ผู้ตีพิมพ์หนังสือ “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม พรหมจารี (Saint Lidwina of Schiedam, virgin)” ทำให้ผู้คนเคารพในตัว “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)” เพิ่มมากขึ้น
ท่านได้รับการประกาศเป็นนักบุญ (Saint) โดยพระสันตะปาปาเลโอ ที่ 13 (Pope Leo XIII) เมื่อ 14 มีนาคม ค.ศ. 1890 ท่านเป็นที่รู้จักในฐานะนักบุญอุปถัมภ์ของเมืองสกีดาม , นักสเก็ตน้ำแข็ง และผู้ป่วยเรื้อรัง ส่วนวันฉลองของท่านตรงกับวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับธรรมประเพณีของแต่ละพื้นที่
พระสันตะปาปาเลโอ ที่ 13 (Pope Leo XIII) ผู้ประกาศให้ “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)” เป็นนักบุญ (Saint) เมื่อ 14 มีนาคม ค.ศ. 1890
สักการสถานของท่าน คือ “มหาวิหารนักบุญลิดวินาและแม่พระแห่งสายประคำ (Basilica of Saint Liduina and Our Lady of the Rosary - Basiliek van de Heilige Liduina en Onze Lieve Vrouw van de Rozenkrans)” หรือเรียกสั้นๆว่า “มหาวิหารลิดวินา (Liduina Basiliek)” ที่เมืองสกีดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์
+ Liduina Basiliek (Basilica of Saint Liduina and Our Lady of the Rosary - มหาวิหารนักบุญลิดวินาและแม่พระแห่งสายประคำ)
- Google Maps
https://maps.app.goo.gl/Ccfw3mTG2cRHyuH18
- เว็บไซต์
https://www.liduinabasiliek.nl/?fbclid=IwY2xjawOESyVleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFXVlpvRnJRQVIxcXFFamtlc3J0YwZhcHBfaWQQMjIyMDM5MTc4ODIwMDg5MgABHv607gBcV8SpiHuGJYJsYyB8GZqsHzPu1Ij3SAv_Npxs8wC5giHdTc10X4L__aem_dG9Qv_eWrE9YyChrlyEeBQ
ภายนอก “มหาวิหารนักบุญลิดวินาและแม่พระแห่งสายประคำ (Basilica of Saint Liduina and Our Lady of the Rosary - Basiliek van de Heilige Liduina en Onze Lieve Vrouw van de Rozenkrans)” หรือเรียกสั้นๆว่า “มหาวิหารลิดวินา (Liduina Basiliek)” ที่เมืองสกีดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสักการสถานของ “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)”
ภายใน “มหาวิหารนักบุญลิดวินาและแม่พระแห่งสายประคำ (Basilica of Saint Liduina and Our Lady of the Rosary - Basiliek van de Heilige Liduina en Onze Lieve Vrouw van de Rozenkrans)” หรือเรียกสั้นๆว่า “มหาวิหารลิดวินา (Liduina Basiliek)” ที่เมืองสกีดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสักการสถานของ “นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม (Saint Lidwina of Schiedam - Heilige Liduina van Schiedam)”
#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ชีวประวัติ #นักบุญ #ประวัติศาสตร์ #นักบุญลิดวินาแห่งสกีดาม #นักบุญลิดไวน์แห่งสกีดาม #นักบุญลิดวินา #นักบุญลิดไวน์ #รหัสนิก #เนเธอร์แลนด์ #ประเทศเนเธอร์แลนด์ #ดัตซ์ #ศักดิ์สิทธิ์ #หนังสือ #catholic #SaintLidwinaOfSchiedam #SaintLydwineOfSchiedam #SaintLidwina #SaintLydwine #mystic #HeiligeLiduinaVanSchiedam #HeiligeLiedewijVanSchiedam
CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/17XYEcnYJ5/