สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราเป็นไบโพล่าร์นะคะ วันนี้เรามาเที่ยวกับครอบครัวแบบไม่ได้ตั้งใจ(เราเรียนอยู่แล้วเลิกเรียนแม่กับพ่อพาน้องชายไปทำธุระพอเค้าทำธุระเสร็จเค้สเลยโทรหาเรา)เราเลยไม่ได้หยิบยามาด้วย เพราะปกติจะกลับบ้านกินยาแล้วนอนค่ะ ตอนนี้เรานอนไม่หลับเพราะเราไม่ได้กินยา เรานึกขึ้นได้ว่าเราเคยรักษาด้วยไฟฟ้า ect ตอนประมาณ3ปีที่แล้ว และไม่นานมานี้เราอยากทำมาเราเลยอยากมาบอกค่ะ ว่าทำectไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เราขออนุญาตเล่าเป็นขั้นตอนนะคะ เราไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีค่ะ พอถึงชั้นที่เค้าเป็นศูนย์ectเราไม่แน่ใจว่าชั้น3หรือ4 เราก็ไปนั่งแปปนึงและรอที่เคาท์เตอร์เรียกค่ะ เราลืมเล่าค่ะ ว่าหมอจะให้ทำแบบทดสอบในกระดาษที่จำได้คือเค้า
-จะให้วาดรูปเลขาคณิตซ้อนกันค่ะ
-แล้วก็มีเลข100-7ไปเรื่อยๆจนกว่าจะลบไม่ได้ และ
-พูดว่าใครไคร่ขายไข่ไก่
-มีชี้ไปที่นาฬิกาว่าสิ่งนั้นเรียกว่าอะไร
-หมอจะบอกให้พับกระดาษที่เราทำแบบทดสอบคือพับครึ่งและวางไว้บนหัวและส่งคืนให้หมอค่ะ
พอถึงชั้นทำect
เค้าเรียกเค้าจะแจก
-หมวกคลุมผมคล้ายที่เวลาคนทำอาหารใส่เพื่อไม่ให้ผมร่วงใส่อาหาร
-ชุดคล้ายๆชุดคลุมท้องเป็นผ้าสกรีนโลโก้โรงพยาบาลและมัดไม่ให้โป๊ด้านหลังค่ะ(เพื่อง่ายต่อการถอดเมื่อวางยาสลบ)
-และใส่แพมเพิสผู้ใหญ่ค่ะ
-แล้วเราก็จะต้องไปนอนบนเตียงเจ้าหน้าที่เค้าก็จะเข็นเราเข้าไปในห้องทำไฟฟ้า
-พอเราถึงเครื่องทำไฟฟ้า ก็จะมีเหมือนจอคอมเล็กๆเรียงกันค่ะ มีหลายเครื่องเลยและจะนำผู้ป่วยมานอนเรียงกัน และต่อคิวทำค่ะ
ตอนเรายังไม่สลบ ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาเจาะหาเส้นเพื่อนำน้ำเกลือเข้าเส้นเลือดค่ะ ตอนนี้เราจำไม่ได้ว่ามียาสลบมั้ย
และเจ้าหน้าที่ก็จะแปะสติ๊กเกอร์ตามตัวเราค่ะ ที่เราจำได้คือ ขมับ และหน้าอก
ต่อมา
-ทางเจ้าหน้าที่และหมอก็จะมาจัดอุปกรณ์
และแปะสายไฟตามสติ๊กเกอร์ที่แปะค่ะ
ก่อนรักษาต้องพิมพ์ฟันเพื่อกันกัดตอนปล่อยกระแสไฟฟ้าค่ะ หมอและผู้ช่วยจะบอกประมาณว่ารักษาเนื้อฟันไม่ให้กระทบกันมาก แต่เราคิดว่าน่าจะป้องกันการกัดลิ้นด้วยตอนปล่อยกระแสไฟฟ้า
ทีนี้ทีมรักษาก็จะเอาหน้ากากอ็อกซิเจนผสมยาสลบและบอกให้เราค่อยๆดมค่ะ และหมอก็จะพูดว่า time out นะคะ/ครับ และตามด้วยชื่อเราและโรคที่เป็นค่ะ ของเรามีไบโพล่าร์และ ocd(ย้ำคิดย้ำทำ)
ลืมบอกค่ะ ตอนเปลี่ยนชุดเสร็จเจ้าหน้าที่ก็จะให้ทานยาพารา2เม็ดดักไว้ค่ะ
จากนั้นเราก็จะสลบค่ะ พอตื่นมาครั้งแรกเราปวดทรมาณมาก(ตอนนั้นแอดมิทอยู่ในวอร์ดจิตเวช)ปวดเหมือนคนโดนทุบค่ะ เราต้องใช้แรงมากๆ เพื่อเอื้อมไปกดปุ่มฉุกเฉินค่ะ
แต่พอกินยาพารา2เม็ดก็หายเลย ไม่ได้น่ากลัวมากตามที่หลายๆคนกลัวนะคะ)
พอสลบเราก็จะไม่รู้สึกอะไรเลยเหมือนมืดๆไม่เหมือนนอนฝันหรืออะไร
พอตื่นมาเค้าก็ถามว่าจะจิบน้ำมั้ยคะเราก็วามารถบอกได้ค่ะว่าจะดื่มมั้ย
ก็จะเปลี่ยนประมาณนี้ค่ะ เรารักษาด้วยไฟฟ้ามาประมาณ1ปีเต็มและช็อตทุกเดือนค่ะ เราถึงดีขึ้นมากๆ
ส่วนเรื่องความจำที่เค้าว่ากันว่าลืมก็มีค่ะ ส่วนใหญ่เรื่องที่ลืมคือเรื่องที่เราเคยทำอะไรน่าอายไว้ ของเราคือเพื่อนเคยบอกว่าเราแก้ผ้าตอนเพื่อนไปเยี่ยมเราที่วอร์ด เราก็ไปเถียงมันว่าไม่เคยค่ะ
และสิ่งที่ลืมคือ
ความคิดที่ไม่จำเป็นก็จะหายไปค่ะ ใครมาพูดอะไรเราก็นึกยังไงก็นึกไม่ออก แต่ถ้าเห็นรูปภาพหรือแชทข้อความ ก็อาจจะนึกออกลางๆ หรือบางทีก็จำไม่ได้เลยจริงๆ
ก็จะเป็นประมาณนี้นะคะ ส่วนตัวเราเราว่าถ้ามีโอกาสได้ทำทำเลยค่ะ ครั้งแนกสุดเราไปหาหมอที่คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา หมออยทกให้เราทำเลยส่งไปโรงพยาบาลที่เค้ามีศูนย์ทำectก็คิซรีธัญญาค่ะ พอเข้าไปเป็นหนักกว่าเเิมแถมหมอไม่ทำให้ด่ากลับอีกประมาณว่ารู้ดีกว่าหมอ
พออกจากศนีธัญญา เราไปหาคุณหมอมาโนช หล่อตระกูลที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธค่ะ พอเราคุยกับคุณหมอมาโนชเสร็จ ท่านก็ส่งต่อให้ลูกศิษย์ท่านที่โรงพยาบาลรทมาธิบดีค่ะ ตอนน้นถือเป็นโชคดีของเรามากที่ได้รักษาต่อที่โรงพยาบาลรามาธิบดี
โดยรวมแล้วเราโอเคกับการรักษาด้วยไฟฟ้ามากๆเราอยากให้กำลังใจทุกคนนะคะที่กำลังมีแพลนรักษาด้วยไฟฟ้า ส่วนตัวเราเราแนะนำให้ทำ100%ค่ะ ถ้ากลัวก็ลองถามคุณหมอดูค่ะว่าขอกินยาพาราก่อนได้มั้ย โดยรวมแล้วเราว่าดีมากๆค่ะที่ทำ ตอนเราทำครั้งแรก เรายอมรับว่าปวดตัวมาก แต่สมองโล่งมากแบบรู้สึกไม่ทรมาณ เราเลยขอสู้ต่อค่ะ ใครที่กำลังลังเลยอยู่ถ้ามีโอกาสทำเลยนะคะ มันดีต่อตัวเรามากๆจริงๆ
ขอบคุณที่ทุกคนอ่านมาจนจบนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ🙏🏻🤍
อยากแชร์ประสบการณ์การทำectเมื่อประมาณ3ปีก่อน(หลายๆคนเรียกช็อตไฟฟ้า)
-จะให้วาดรูปเลขาคณิตซ้อนกันค่ะ
-แล้วก็มีเลข100-7ไปเรื่อยๆจนกว่าจะลบไม่ได้ และ
-พูดว่าใครไคร่ขายไข่ไก่
-มีชี้ไปที่นาฬิกาว่าสิ่งนั้นเรียกว่าอะไร
-หมอจะบอกให้พับกระดาษที่เราทำแบบทดสอบคือพับครึ่งและวางไว้บนหัวและส่งคืนให้หมอค่ะ
พอถึงชั้นทำect
เค้าเรียกเค้าจะแจก
-หมวกคลุมผมคล้ายที่เวลาคนทำอาหารใส่เพื่อไม่ให้ผมร่วงใส่อาหาร
-ชุดคล้ายๆชุดคลุมท้องเป็นผ้าสกรีนโลโก้โรงพยาบาลและมัดไม่ให้โป๊ด้านหลังค่ะ(เพื่อง่ายต่อการถอดเมื่อวางยาสลบ)
-และใส่แพมเพิสผู้ใหญ่ค่ะ
-แล้วเราก็จะต้องไปนอนบนเตียงเจ้าหน้าที่เค้าก็จะเข็นเราเข้าไปในห้องทำไฟฟ้า
-พอเราถึงเครื่องทำไฟฟ้า ก็จะมีเหมือนจอคอมเล็กๆเรียงกันค่ะ มีหลายเครื่องเลยและจะนำผู้ป่วยมานอนเรียงกัน และต่อคิวทำค่ะ
ตอนเรายังไม่สลบ ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาเจาะหาเส้นเพื่อนำน้ำเกลือเข้าเส้นเลือดค่ะ ตอนนี้เราจำไม่ได้ว่ามียาสลบมั้ย
และเจ้าหน้าที่ก็จะแปะสติ๊กเกอร์ตามตัวเราค่ะ ที่เราจำได้คือ ขมับ และหน้าอก
ต่อมา
-ทางเจ้าหน้าที่และหมอก็จะมาจัดอุปกรณ์
และแปะสายไฟตามสติ๊กเกอร์ที่แปะค่ะ
ก่อนรักษาต้องพิมพ์ฟันเพื่อกันกัดตอนปล่อยกระแสไฟฟ้าค่ะ หมอและผู้ช่วยจะบอกประมาณว่ารักษาเนื้อฟันไม่ให้กระทบกันมาก แต่เราคิดว่าน่าจะป้องกันการกัดลิ้นด้วยตอนปล่อยกระแสไฟฟ้า
ทีนี้ทีมรักษาก็จะเอาหน้ากากอ็อกซิเจนผสมยาสลบและบอกให้เราค่อยๆดมค่ะ และหมอก็จะพูดว่า time out นะคะ/ครับ และตามด้วยชื่อเราและโรคที่เป็นค่ะ ของเรามีไบโพล่าร์และ ocd(ย้ำคิดย้ำทำ)
ลืมบอกค่ะ ตอนเปลี่ยนชุดเสร็จเจ้าหน้าที่ก็จะให้ทานยาพารา2เม็ดดักไว้ค่ะ
จากนั้นเราก็จะสลบค่ะ พอตื่นมาครั้งแรกเราปวดทรมาณมาก(ตอนนั้นแอดมิทอยู่ในวอร์ดจิตเวช)ปวดเหมือนคนโดนทุบค่ะ เราต้องใช้แรงมากๆ เพื่อเอื้อมไปกดปุ่มฉุกเฉินค่ะ
แต่พอกินยาพารา2เม็ดก็หายเลย ไม่ได้น่ากลัวมากตามที่หลายๆคนกลัวนะคะ)
พอสลบเราก็จะไม่รู้สึกอะไรเลยเหมือนมืดๆไม่เหมือนนอนฝันหรืออะไร
พอตื่นมาเค้าก็ถามว่าจะจิบน้ำมั้ยคะเราก็วามารถบอกได้ค่ะว่าจะดื่มมั้ย
ก็จะเปลี่ยนประมาณนี้ค่ะ เรารักษาด้วยไฟฟ้ามาประมาณ1ปีเต็มและช็อตทุกเดือนค่ะ เราถึงดีขึ้นมากๆ
ส่วนเรื่องความจำที่เค้าว่ากันว่าลืมก็มีค่ะ ส่วนใหญ่เรื่องที่ลืมคือเรื่องที่เราเคยทำอะไรน่าอายไว้ ของเราคือเพื่อนเคยบอกว่าเราแก้ผ้าตอนเพื่อนไปเยี่ยมเราที่วอร์ด เราก็ไปเถียงมันว่าไม่เคยค่ะ
และสิ่งที่ลืมคือ
ความคิดที่ไม่จำเป็นก็จะหายไปค่ะ ใครมาพูดอะไรเราก็นึกยังไงก็นึกไม่ออก แต่ถ้าเห็นรูปภาพหรือแชทข้อความ ก็อาจจะนึกออกลางๆ หรือบางทีก็จำไม่ได้เลยจริงๆ
ก็จะเป็นประมาณนี้นะคะ ส่วนตัวเราเราว่าถ้ามีโอกาสได้ทำทำเลยค่ะ ครั้งแนกสุดเราไปหาหมอที่คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา หมออยทกให้เราทำเลยส่งไปโรงพยาบาลที่เค้ามีศูนย์ทำectก็คิซรีธัญญาค่ะ พอเข้าไปเป็นหนักกว่าเเิมแถมหมอไม่ทำให้ด่ากลับอีกประมาณว่ารู้ดีกว่าหมอ
พออกจากศนีธัญญา เราไปหาคุณหมอมาโนช หล่อตระกูลที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธค่ะ พอเราคุยกับคุณหมอมาโนชเสร็จ ท่านก็ส่งต่อให้ลูกศิษย์ท่านที่โรงพยาบาลรทมาธิบดีค่ะ ตอนน้นถือเป็นโชคดีของเรามากที่ได้รักษาต่อที่โรงพยาบาลรามาธิบดี
โดยรวมแล้วเราโอเคกับการรักษาด้วยไฟฟ้ามากๆเราอยากให้กำลังใจทุกคนนะคะที่กำลังมีแพลนรักษาด้วยไฟฟ้า ส่วนตัวเราเราแนะนำให้ทำ100%ค่ะ ถ้ากลัวก็ลองถามคุณหมอดูค่ะว่าขอกินยาพาราก่อนได้มั้ย โดยรวมแล้วเราว่าดีมากๆค่ะที่ทำ ตอนเราทำครั้งแรก เรายอมรับว่าปวดตัวมาก แต่สมองโล่งมากแบบรู้สึกไม่ทรมาณ เราเลยขอสู้ต่อค่ะ ใครที่กำลังลังเลยอยู่ถ้ามีโอกาสทำเลยนะคะ มันดีต่อตัวเรามากๆจริงๆ
ขอบคุณที่ทุกคนอ่านมาจนจบนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ🙏🏻🤍