การเริ่มต้นลงทุนครั้งแรกเป็นช่วงเวลาที่หลายคนรู้สึกทั้งตื่นเต้นและกังวลไปพร้อมกัน เพราะตลาดการเงินมีสินทรัพย์ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุนรวม ทองคำ คริปโทฯ หรือแม้แต่ตราสารหนี้ แต่คำถามสำคัญคือ—นักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มจากอะไรดี?
ก่อนจะเลือกสินทรัพย์ สิ่งสำคัญที่สุดคือการรู้จักตัวเอง
-คุณรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน?
-มีเป้าหมายการเงินแบบไหน?
-ลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว?
-พร้อมเรียนรู้ตลาดมากแค่ไหน?
เมื่อตอบคำถามเหล่านี้ได้แล้ว เราจะเลือกสินทรัพย์ที่ “เหมาะกับมือใหม่” และ “จัดการความเสี่ยงได้ง่ายกว่า” ดังนี้:
1. กองทุนรวม (Mutual Funds): ตัวเลือกเบสิกที่สุดสำหรับมือใหม่
กองทุนรวมคือการนำเงินของนักลงทุนหลายคนมารวมกัน แล้วให้ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพนำไปลงทุนแทน
ข้อดี:
-ไม่ต้องมีความรู้ลึกก็เริ่มได้
-ผู้จัดการกองทุนช่วยบริหารความเสี่ยง
-มีให้เลือกทั้งความเสี่ยงต่ำ–สูง
-เริ่มต้นเพียงหลักร้อย–หลักพัน
เหมาะสำหรับ:
คนที่อยากเริ่มลงทุนแต่ไม่มีเวลาหรือยังไม่มั่นใจจะเลือกหุ้นเอง
กองทุนแนะนำสำหรับมือใหม่:
-กองทุนดัชนี (Index Fund)
-กองทุนผสม (Mixed Fund)
-กองทุนตราสารหนี้ (Bond Fund)
2. ETF (Exchange Traded Funds): ลงทุนง่าย ค่าธรรมเนียมต่ำ
ETF คล้ายกองทุนรวมแต่ซื้อขายในตลาดหุ้นเหมือนหุ้นตัวหนึ่ง
ข้อดี:
-ค่าบริหารต่ำ
-กระจายความเสี่ยงในตัว
-เริ่มต้นได้แม้ทุนไม่มาก
ตัวอย่าง ETF ที่เหมาะกับมือใหม่:
-SET50 ETF
-S&P500 ETF
-Gold ETF (เหมาะสำหรับสายลดความเสี่ยง)
3. หุ้นพื้นฐานดี (Blue Chip Stocks): สำหรับผู้ที่อยากศึกษาเชิงลึกขึ้น
หุ้นพื้นฐานดี คือบริษัทใหญ่ รายได้มั่นคง อยู่ในตลาดมานาน เช่น กลุ่มธนาคาร พลังงาน สื่อสาร เทคโนโลยี
ข้อดี:
-โอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาว
-บริษัทมีเสถียรภาพมากกว่า Small Cap
เหมาะสำหรับ:
-ผู้ที่อยากเรียนรู้การอ่านงบการเงิน ข่าวเศรษฐกิจ และปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ
4. ตราสารหนี้ / พันธบัตร (Bonds): ความเสี่ยงต่ำ เหมาะสำหรับมือใหม่สายปลอดภัย
ตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอและมีความผันผวนต่ำ
ข้อดี:
-ความเสี่ยงต่ำ
-ได้รับดอกเบี้ยตามกำหนด
เหมาะสำหรับเป้าหมายที่ต้องการความมั่นคง
เหมาะสำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้น้อย เช่น ผู้เริ่มลงทุน คนที่ต้องการสร้างเงินสำรองความเสี่ยง
5. ทองคำ (Gold): เก็บรักษามูลค่า ลดความผันผวนในพอร์ต
ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่อยู่คู่กับเศรษฐกิจทั่วโลก
ข้อดี:
-ป้องกันความเสี่ยงช่วงเงินเฟ้อ
-ราคาไม่ผันผวนเท่าหุ้น
-ลงทุนได้ทั้งทองจริง ทองออนไลน์ หรือ Gold ETF
เหมาะสำหรับ:
ผู้ที่ต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยไว้ผสมในพอร์ต
แล้ว “คริปโทเคอร์เรนซี” เหมาะกับมือใหม่ไหม?
ตอบแบบตรงไปตรงมาคือ—ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีพื้นฐาน
เพราะมีความเสี่ยงสูงมากและผันผวนเร็ว
แต่ถ้าอยากลอง ควรจำกฎนี้ไว้:
-ลงทุนไม่เกิน 5% ของพอร์ต
-ศึกษาโปรเจกต์ให้ละเอียด
-ต้องยอมรับได้หากราคาลดลงแรง
สรุป: มือใหม่ควรเริ่มจากอะไร?
หากเรียงลำดับจากง่ายที่สุด → ต้องใช้ความรู้มากที่สุด จะเป็นแบบนี้:
กองทุนรวม → ETF → ตราสารหนี้ → ทองคำ → หุ้นรายตัว → คริปโท (ความเสี่ยงสูงสุด)
สำหรับมือใหม่ แนะนำให้เริ่มจาก
-กองทุนรวม
-ETF
-ทองคำ
-ตราสารหนี้
เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นค่อยต่อยอดไปสู่หุ้นรายตัวหรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า
นักลงทุนมือใหม่ ควรเริ่มลงทุนอะไรก่อนดี?
ก่อนจะเลือกสินทรัพย์ สิ่งสำคัญที่สุดคือการรู้จักตัวเอง
-คุณรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน?
-มีเป้าหมายการเงินแบบไหน?
-ลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว?
-พร้อมเรียนรู้ตลาดมากแค่ไหน?
เมื่อตอบคำถามเหล่านี้ได้แล้ว เราจะเลือกสินทรัพย์ที่ “เหมาะกับมือใหม่” และ “จัดการความเสี่ยงได้ง่ายกว่า” ดังนี้:
1. กองทุนรวม (Mutual Funds): ตัวเลือกเบสิกที่สุดสำหรับมือใหม่
กองทุนรวมคือการนำเงินของนักลงทุนหลายคนมารวมกัน แล้วให้ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพนำไปลงทุนแทน
ข้อดี:
-ไม่ต้องมีความรู้ลึกก็เริ่มได้
-ผู้จัดการกองทุนช่วยบริหารความเสี่ยง
-มีให้เลือกทั้งความเสี่ยงต่ำ–สูง
-เริ่มต้นเพียงหลักร้อย–หลักพัน
เหมาะสำหรับ:
คนที่อยากเริ่มลงทุนแต่ไม่มีเวลาหรือยังไม่มั่นใจจะเลือกหุ้นเอง
กองทุนแนะนำสำหรับมือใหม่:
-กองทุนดัชนี (Index Fund)
-กองทุนผสม (Mixed Fund)
-กองทุนตราสารหนี้ (Bond Fund)
2. ETF (Exchange Traded Funds): ลงทุนง่าย ค่าธรรมเนียมต่ำ
ETF คล้ายกองทุนรวมแต่ซื้อขายในตลาดหุ้นเหมือนหุ้นตัวหนึ่ง
ข้อดี:
-ค่าบริหารต่ำ
-กระจายความเสี่ยงในตัว
-เริ่มต้นได้แม้ทุนไม่มาก
ตัวอย่าง ETF ที่เหมาะกับมือใหม่:
-SET50 ETF
-S&P500 ETF
-Gold ETF (เหมาะสำหรับสายลดความเสี่ยง)
3. หุ้นพื้นฐานดี (Blue Chip Stocks): สำหรับผู้ที่อยากศึกษาเชิงลึกขึ้น
หุ้นพื้นฐานดี คือบริษัทใหญ่ รายได้มั่นคง อยู่ในตลาดมานาน เช่น กลุ่มธนาคาร พลังงาน สื่อสาร เทคโนโลยี
ข้อดี:
-โอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาว
-บริษัทมีเสถียรภาพมากกว่า Small Cap
เหมาะสำหรับ:
-ผู้ที่อยากเรียนรู้การอ่านงบการเงิน ข่าวเศรษฐกิจ และปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ
4. ตราสารหนี้ / พันธบัตร (Bonds): ความเสี่ยงต่ำ เหมาะสำหรับมือใหม่สายปลอดภัย
ตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอและมีความผันผวนต่ำ
ข้อดี:
-ความเสี่ยงต่ำ
-ได้รับดอกเบี้ยตามกำหนด
เหมาะสำหรับเป้าหมายที่ต้องการความมั่นคง
เหมาะสำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้น้อย เช่น ผู้เริ่มลงทุน คนที่ต้องการสร้างเงินสำรองความเสี่ยง
5. ทองคำ (Gold): เก็บรักษามูลค่า ลดความผันผวนในพอร์ต
ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่อยู่คู่กับเศรษฐกิจทั่วโลก
ข้อดี:
-ป้องกันความเสี่ยงช่วงเงินเฟ้อ
-ราคาไม่ผันผวนเท่าหุ้น
-ลงทุนได้ทั้งทองจริง ทองออนไลน์ หรือ Gold ETF
เหมาะสำหรับ:
ผู้ที่ต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยไว้ผสมในพอร์ต
แล้ว “คริปโทเคอร์เรนซี” เหมาะกับมือใหม่ไหม?
ตอบแบบตรงไปตรงมาคือ—ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีพื้นฐาน
เพราะมีความเสี่ยงสูงมากและผันผวนเร็ว
แต่ถ้าอยากลอง ควรจำกฎนี้ไว้:
-ลงทุนไม่เกิน 5% ของพอร์ต
-ศึกษาโปรเจกต์ให้ละเอียด
-ต้องยอมรับได้หากราคาลดลงแรง
สรุป: มือใหม่ควรเริ่มจากอะไร?
หากเรียงลำดับจากง่ายที่สุด → ต้องใช้ความรู้มากที่สุด จะเป็นแบบนี้:
กองทุนรวม → ETF → ตราสารหนี้ → ทองคำ → หุ้นรายตัว → คริปโท (ความเสี่ยงสูงสุด)
สำหรับมือใหม่ แนะนำให้เริ่มจาก
-กองทุนรวม
-ETF
-ทองคำ
-ตราสารหนี้
เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นค่อยต่อยอดไปสู่หุ้นรายตัวหรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า