KEY POINTS
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรง นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากนักลงทุนลดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ความไม่แน่นอนเกิดจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและท่าทีของเจ้าหน้าที่เฟดที่ไม่สอดคล้องกัน ส่งผลให้โอกาสในการลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงประมาณ 1% สอดคล้องกับการเทขายในตลาดหุ้น ท่ามกลางความผันผวนของนโยบายการเงิน
ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่โดยเฉพาะ Nvidia หลังนักลงทุนลดความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและความเห็นที่แตกต่างกันของเจ้าหน้าที่เฟดต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ
การเทขายหุ้นเกิดขึ้นท่ามกลางการกลับมาเปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ หลังภาวะ “ชัตดาวน์” ยาวนานถึง 43 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สร้างความกังวลต่อตลาดและกระทบต่อการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ส่งสัญญาณระมัดระวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยอ้างถึงความเสี่ยงของเงินเฟ้อและความแข็งแกร่งในตลาดแรงงาน แม้เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วสองครั้งในปีนี้ก็ตาม ส่งผลให้ความน่าจะเป็นของการปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนธันวาคมลดลงเหลือราว 47% จาก 70% ในสัปดาห์ก่อน ตามข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำซึ่งเคยเป็นแรงขับเคลื่อนตลาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ต่างเผชิญแรงขายอย่างหนักจากความกังวลว่าราคาหุ้นอาจสูงเกินพื้นฐาน โดยหุ้น Nvidia, Tesla และ Broadcom ต่างปรับตัวลดลงถ้วนหน้า
ข้อมูลล่าสุดจาก ADP ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐฯ สูญเสียตำแหน่งงานมากกว่า 11,000 ตำแหน่งต่อสัปดาห์ในช่วงปลายเดือนตุลาคม ขณะที่รายงานจาก Indeed Hiring Lab ชี้ว่าการประกาศรับสมัครงานในภาคค้าปลีกเดือนตุลาคมลดลง 16% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนสัญญาณอ่อนแรงต่อเนื่องของตลาดแรงงาน
ภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,737.87 จุด ลดลง 113.05 จุด หรือ 1.65%
ดัชนี Nasdaq Composite ปิดที่ 22,873.72 จุด ลดลง 532.74 จุด หรือ 2.28%
ดัชนี Dow Jones Industrial Average ปิดที่ 47,457.53 จุด ลดลง 797.29 จุด หรือ 1.64%
ตลาดทองคำและน้ำมัน
ราคาทองคำปรับตัวลดลง 1% หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบสามสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ราคาทองสปอตลดลง 1.1% อยู่ที่ 4,151.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนสัญญาทองคำล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 0.5% ปิดที่ 4,194.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่ราคาน้ำมันทรงตัวหลังจากร่วงลงกว่า 4% ในวันก่อนหน้า โดยนักลงทุนประเมินผลกระทบจากภาวะอุปทานล้นตลาดโลกและมาตรการคว่ำบาตรที่อาจเกิดขึ้นต่อบริษัท Lukoil ของรัสเซีย
น้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 63.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 58.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทอง-ตลาดหุ้นสหรัฐ ร่วงแรง เทขายจากความไม่แน่นอนเรื่องดอกเบี้ย