หมอเตือน…ไม่ทำความสะอาด ‘สะดือ’ อันตรายกว่าที่คิด !
‘การทำความสะอาดสะดือ’ควรทำตอนไหน วิธีใด อ่านเลย...
วันนี้ “เดลินิวส์” นำบทความสุขภาพจากเพจกรมอนามัย สาสุข ชัวร์ โดย: ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ได้ตอบคำถามถึงการทำความสะอาด “สะดือ”เสี่ยงอันตรายจริงไหม ว่า จากการตรวจสอบข่าว พบว่าเป็นข่าวเสี่ยงต่อสุขภาพ ในข่าวให้ข้อมูลว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกมาบอกว่า “การทำความสะอาดสะดือ” จำเป็นต้องลงแรงมากกว่าปกติ แต่ความจริงแล้วหากไม่ทำความสะอาดอาจมีการติดเชื้อได้จริง แต่การดูแลทำความสะอาดไม่ควรออกแรงเยอะหรือใช้ของมีคม เพราะอาจจะทำให้มีแผลและติดเชื้อได้
“ขี้สะดือ” เกิดจากการสะสมตัวของซีบัมและเคราตินจากเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วภายในสะดือ ทำให้เกิดเป็นก้อนแข็งสีดำจับตัวแน่นภายในสะดือคล้ายกับสิวหัวดำ ขี้สะดือจะใช้เวลานานในการสะสมตัว ทำให้เราอาจไม่รู้ตัวว่ามีขี้สะดือจนกระทั่งสะสมจนกลายเป็นก้อนขนาดใหญ่ โดยในบางกรณีขี้สะดือขนาดใหญ่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองภายในสะดือตามมาได้ โดยส่วนใหญ่ขี้สะดื้อไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ มีแค่อาการระคายเคืองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากมีขี้สะดืออุดตันเป็นจำนวนมากและไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ก็อาจนำไปสู่การติดเชื้อภายในสะดือ ภาวะเยื่อบุช่องท้องอักเสบ ไปจนถึงการติดเชื้อในกระแสเลือด และจำเป็นต้องรับการรักษาจากแพทย์ได้เช่นกัน
สาเหตุที่ทำให้เกิดขี้สะดือ
1. การไม่รักษาความสะอาดของร่างกายโดยเฉพาะบริเวณสะดือ ทำให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว จนกลายเป็นขี้สะดือตามมา
2.การมีรูปทรงของสะดือที่ลึก ทำให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น ขุยเสื้อผ้า เหงื่อไคล และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเข้าไปสะสมได้ง่าย และรูปทรงของสะดือที่ลึกทำให้ยากต่อการทำความสะอาดด้วย
3.การมีรูปร่างอ้วน เพราะเนื้อบริเวณหน้าท้องอาจปิดบังหรือกดทับสะดือ ทำให้ยากต่อการทำความสะอาด
4.การมีขนบริเวณหน้าท้อง เพราะอาจทำให้เกิดการสะสมของซีบัมและเคราตินในสะดือมากยิ่งขึ้น
วิธีการรับมือเมื่อมีขี้สะดือเกิดขึ้น
การกำจัดขี้สะดือด้วยตัวเองอาจทำได้ยากเพราะเราไม่สามารถมองเห็นภายในสะดือของตัวเองได้ และภายในสะดือมีลักษณะเป็นซอกที่ค่อนข้างเล็กและซับซ้อน การใช้อุปกรณ์ที่แหลมคมหรือไม่สะอาดแหย่เข้าไปในสะดือเพื่อแคะหรือดึงขี้สะดือออกมาอาจทำให้เกิดแผลหรือเกิดการติดเชื้อตามมาได้ การกำจัดขี้สะดือจึงควรทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย การกำจัดขี้สะดือโดยแพทย์มีวิธีการ คือ แพทย์จะใช้ก้านสำลีชุบน้ำเกลือเพื่อเช็ดขี้สะดือออกมา หรือหากขี้สะดือมีลักษณะเหนียวติดแน่นอยู่ภายในสะดือ แพทย์จะใช้น้ำมันมะกอกหรือกลีเซอรีนหยอดลงไปในสะดือก่อน เพื่อให้ขี้สะดืออ่อนตัวลงและง่ายต่อการกำจัดออกมากขึ้น จากนั้นแพทย์จะใช้คีมหรือแหนบเพื่อคีบขี้สะดือออกมา
นอกจากนี้ หากภายในสะดือมีอาการติดเชื้อเกิดขึ้น แพทย์อาจต้องรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย หรือหากขี้สะดือมีขนาดใหญ่ แข็ง รวมถึงเกิดฝีภายในสะดือ แพทย์อาจต้องใช้มีดผ่าตัดกรีดเปิดผิวหนังบริเวณสะดือเล็กน้อยเพื่อระบายหนองในฝี และนำขี้สะดือออกมา สิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดขี้สะดือคือการรักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณสะดือ วิธีการรักษาความสะอาดที่สามารถทำได้ง่าย ๆ คือการอาบน้ำทุกวัน และล้างสะดือให้สะอาดเพื่อไม่ให้มีสบู่ตกค้างอยู่ภายใน หรือหากมีสะดือลึกอาจใช้ก้านสำลีที่สะอาดเช็ดภายในสะดือได้ แต่ควรค่อย ๆ เช็ดอย่างอ่อนโยนเพราะภายในสะดือเป็นบริเวณที่อ่อนไหวมาก
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้นิ้วหรือของมีคมแหย่เข้าไปในสะดืออย่างรุนแรงเพื่อแคะหรือดึงขี้สะดือออกด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บตามมาได้ นอกจากนี้ หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นบริเวณสะดือ เช่น รอบสะดือบวมแดง รู้สึกเจ็บ มีกลิ่น หรือมีหนองไหลออกมาจากสะดือ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
สามารถติดตามต่อได้ที่ :
https://www.dailynews.co.th/news/5294376/
หมอเตือน…ไม่ทำความสะอาด ‘สะดือ’ อันตรายกว่าที่คิด !
‘การทำความสะอาดสะดือ’ควรทำตอนไหน วิธีใด อ่านเลย...
วันนี้ “เดลินิวส์” นำบทความสุขภาพจากเพจกรมอนามัย สาสุข ชัวร์ โดย: ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ได้ตอบคำถามถึงการทำความสะอาด “สะดือ”เสี่ยงอันตรายจริงไหม ว่า จากการตรวจสอบข่าว พบว่าเป็นข่าวเสี่ยงต่อสุขภาพ ในข่าวให้ข้อมูลว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกมาบอกว่า “การทำความสะอาดสะดือ” จำเป็นต้องลงแรงมากกว่าปกติ แต่ความจริงแล้วหากไม่ทำความสะอาดอาจมีการติดเชื้อได้จริง แต่การดูแลทำความสะอาดไม่ควรออกแรงเยอะหรือใช้ของมีคม เพราะอาจจะทำให้มีแผลและติดเชื้อได้
“ขี้สะดือ” เกิดจากการสะสมตัวของซีบัมและเคราตินจากเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วภายในสะดือ ทำให้เกิดเป็นก้อนแข็งสีดำจับตัวแน่นภายในสะดือคล้ายกับสิวหัวดำ ขี้สะดือจะใช้เวลานานในการสะสมตัว ทำให้เราอาจไม่รู้ตัวว่ามีขี้สะดือจนกระทั่งสะสมจนกลายเป็นก้อนขนาดใหญ่ โดยในบางกรณีขี้สะดือขนาดใหญ่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองภายในสะดือตามมาได้ โดยส่วนใหญ่ขี้สะดื้อไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ มีแค่อาการระคายเคืองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากมีขี้สะดืออุดตันเป็นจำนวนมากและไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ก็อาจนำไปสู่การติดเชื้อภายในสะดือ ภาวะเยื่อบุช่องท้องอักเสบ ไปจนถึงการติดเชื้อในกระแสเลือด และจำเป็นต้องรับการรักษาจากแพทย์ได้เช่นกัน
สาเหตุที่ทำให้เกิดขี้สะดือ
1. การไม่รักษาความสะอาดของร่างกายโดยเฉพาะบริเวณสะดือ ทำให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว จนกลายเป็นขี้สะดือตามมา
2.การมีรูปทรงของสะดือที่ลึก ทำให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น ขุยเสื้อผ้า เหงื่อไคล และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเข้าไปสะสมได้ง่าย และรูปทรงของสะดือที่ลึกทำให้ยากต่อการทำความสะอาดด้วย
3.การมีรูปร่างอ้วน เพราะเนื้อบริเวณหน้าท้องอาจปิดบังหรือกดทับสะดือ ทำให้ยากต่อการทำความสะอาด
4.การมีขนบริเวณหน้าท้อง เพราะอาจทำให้เกิดการสะสมของซีบัมและเคราตินในสะดือมากยิ่งขึ้น
วิธีการรับมือเมื่อมีขี้สะดือเกิดขึ้น
การกำจัดขี้สะดือด้วยตัวเองอาจทำได้ยากเพราะเราไม่สามารถมองเห็นภายในสะดือของตัวเองได้ และภายในสะดือมีลักษณะเป็นซอกที่ค่อนข้างเล็กและซับซ้อน การใช้อุปกรณ์ที่แหลมคมหรือไม่สะอาดแหย่เข้าไปในสะดือเพื่อแคะหรือดึงขี้สะดือออกมาอาจทำให้เกิดแผลหรือเกิดการติดเชื้อตามมาได้ การกำจัดขี้สะดือจึงควรทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย การกำจัดขี้สะดือโดยแพทย์มีวิธีการ คือ แพทย์จะใช้ก้านสำลีชุบน้ำเกลือเพื่อเช็ดขี้สะดือออกมา หรือหากขี้สะดือมีลักษณะเหนียวติดแน่นอยู่ภายในสะดือ แพทย์จะใช้น้ำมันมะกอกหรือกลีเซอรีนหยอดลงไปในสะดือก่อน เพื่อให้ขี้สะดืออ่อนตัวลงและง่ายต่อการกำจัดออกมากขึ้น จากนั้นแพทย์จะใช้คีมหรือแหนบเพื่อคีบขี้สะดือออกมา
นอกจากนี้ หากภายในสะดือมีอาการติดเชื้อเกิดขึ้น แพทย์อาจต้องรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย หรือหากขี้สะดือมีขนาดใหญ่ แข็ง รวมถึงเกิดฝีภายในสะดือ แพทย์อาจต้องใช้มีดผ่าตัดกรีดเปิดผิวหนังบริเวณสะดือเล็กน้อยเพื่อระบายหนองในฝี และนำขี้สะดือออกมา สิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดขี้สะดือคือการรักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณสะดือ วิธีการรักษาความสะอาดที่สามารถทำได้ง่าย ๆ คือการอาบน้ำทุกวัน และล้างสะดือให้สะอาดเพื่อไม่ให้มีสบู่ตกค้างอยู่ภายใน หรือหากมีสะดือลึกอาจใช้ก้านสำลีที่สะอาดเช็ดภายในสะดือได้ แต่ควรค่อย ๆ เช็ดอย่างอ่อนโยนเพราะภายในสะดือเป็นบริเวณที่อ่อนไหวมาก
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้นิ้วหรือของมีคมแหย่เข้าไปในสะดืออย่างรุนแรงเพื่อแคะหรือดึงขี้สะดือออกด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บตามมาได้ นอกจากนี้ หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นบริเวณสะดือ เช่น รอบสะดือบวมแดง รู้สึกเจ็บ มีกลิ่น หรือมีหนองไหลออกมาจากสะดือ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/5294376/