ชีวประวัติ นักบุญเจมมา กัลกานี (Saint Gemma Galgani - Santa Gemma Galgani)



     “นักบุญเจมมา กัลกานี (Saint Gemma Galgani - Santa Gemma Galgani)” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ดอกไม้แห่งลุกกา (Flower of Lucca)” เป็นรหัสนิก (Mystic) ชาวอิตาลีผู้มักถูกเรียกว่า “ธิดาแห่งพระมหาทรมาน (Daughter of Passion)” เนื่องจากท่านได้เลียนแบบพระมหาทรมานของพระคริสต์อย่างลึกซึ้ง ท่านเกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1878 ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งของประเทศอิตาลี ใกล้กับเมืองลุกกา (Lucca)


“นักบุญเจมมา กัลกานี (Saint Gemma Galgani - Santa Gemma Galgani)” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ดอกไม้แห่งลุกกา (Flower of Lucca)” เป็นรหัสนิก (Mystic) ชาวอิตาลีผู้มักถูกเรียกว่า “ธิดาแห่งพระมหาทรมาน (Daughter of Passion)” เนื่องจากท่านได้เลียนแบบพระมหาทรมานของพระคริสต์อย่างลึกซึ้ง

     ตั้งแต่ยังเด็ก นักบุญเจมมารักการสวดภาวนา ท่านได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 1887 นักบุญเจมมาได้รับความรักจากครูและเพื่อนร่วมชั้นในฐานะนักเรียนของโรงเรียนที่ดำเนินการโดยคณะภคินีนักบุญซีตา (Sisters of Saint Zita) แม้จะท่านจะเงียบขรึมและสำรวม แต่ท่านก็ยิ้มแย้มให้ทุกคนเสมอ น่าเสียดายที่ท่านต้องลาออกจากโรงเรียนเนื่องจากปัญหาสุขภาพก่อนจะสำเร็จการศึกษา

     ตลอดชีวิตของท่าน ท่านได้รับเลือกให้มีประสบการณ์ลึกลับและพระหรรษทานพิเศษมากมาย แต่ประสบการณ์เหล่านี้มักถูกผู้อื่นเข้าใจผิด ก่อให้เกิดการเยาะเย้ย ท่านต้องทนทุกข์ทรมานใจเพื่อเยียวยาจิตใจ เมื่อระลึกได้ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเองก็ถูกเข้าใจผิดและถูกเยาะเย้ยเช่นกัน”

     นักบุญเจมมามีความรักอันยิ่งใหญ่ต่อคนยากจนและช่วยเหลือพวกเขาทุกวิถีทางที่ทำได้ หลังจากบิดาของท่านเสียชีวิต นักบุญเจมมาในวัย 19 ปี ได้กลายเป็นเสมือนแม่ของพี่น้องชายหญิงทั้ง 7 คนของท่าน เมื่อพี่น้องบางคนของท่านโตพอที่จะช่วยเหลือกันเองได้ ท่านจึงไปอาศัยอยู่กับป้าที่แต่งงานแล้วอยู่พักหนึ่ง

     ในเวลานั้น ชายหนุ่ม 2 คนขอท่านแต่งงาน แต่ท่านปฏิเสธ เพราะท่านต้องการอยู่อย่างสันโดษ , หลีกหนีทางโลก และยิ่งกว่านั้น ท่านปรารถนาที่จะสวดภาวนาและสนทนากับพระเจ้าเท่านั้น

     ท่านกลับบ้านและป่วยหนักด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบแทบจะในทันที ตลอดระยะเวลาที่ป่วยหนักนี้ สิ่งเดียวที่ท่านเสียใจ คือ ความทุกข์ยากที่ท่านก่อไว้กับญาติพี่น้องที่ดูแลเธอ ท่านรู้สึกถูกล่อลวงโดยปีศาจ จึงสวดภาวนาขอความช่วยเหลือจากนักบุญกาเบรียลแห่งแม่พระมหาทุกข์ (Saint Gabriel of Our Lady of Sorrows - San Gabriele dell'Addolorata) คณะแพชชั่นนิซ (Passionists - CP) โดยการวิงวอนของนักบุญกาเบรียล ท่านจึงได้รับการรักษาอย่างอัศจรรย์


“นักบุญกาเบรียลแห่งแม่พระมหาทุกข์ (Saint Gabriel of Our Lady of Sorrows - San Gabriele dell'Addolorata) คณะแพชชั่นนิซ (Passionists - CP)” ผู้ช่วยวิงวอนให้ “นักบุญเจมมา กัลกานี (Saint Gemma Galgani - Santa Gemma Galgani)” ได้รับการรักษาอย่างอัศจรรย์ เมื่อนักบุญเจมมารู้สึกถูกล่อลวงโดยปีศาจ


โลโก้ คณะแพชชั่นนิซ (Passionists - CP)


พระสงฆ์ คณะแพชชั่นนิซ (Passionists - CP)


แม่ชี คณะแพชชั่นนิซ (Passionists - CP)

     นักบุญเจมมาปรารถนาที่จะเป็นแม่ชี แต่สุขภาพที่ย่ำแย่ทำให้ท่านไม่ได้รับการยอมรับ ท่านจึงถวายความผิดหวังนี้แด่พระเจ้าเป็นเครื่องบูชา

     ท่านทำนายว่า คณะแพชชั่นนิซจะก่อตั้งอารามขึ้นที่เมืองลุกกา ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง 2 ปีหลังจากที่ท่านเสียชีวิต ปัจจุบัน พระธาตุของนักบุญเจมมายังคงเก็บรักษาอยู่ที่อารามคณะแพชชั่นนิซในเมืองลุกกา

     วันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 1899 นักบุญเจมมาได้รับคำเตือนจากภายในว่า “จะได้รับพระหรรษทานอันพิเศษบางอย่าง” ท่านรู้สึกเจ็บปวดและมีเลือดไหลออกมาจากมือ , เท้า และหัวใจ รอยแผลเหล่านี้ คือ “รอยแผลศักดิ์สิทธิ์ (Stigmata)” ทุกเย็นวันพฤหัสบดี นักบุญเจมมาจะตกอยู่ในภวังค์ และรอยแผลก็จะปรากฏขึ้น


“นักบุญเจมมา กัลกานี (Saint Gemma Galgani - Santa Gemma Galgani)” ได้รับคำเตือนจากภายในว่า “จะได้รับพระหรรษทานอันพิเศษบางอย่าง” เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 1899 ท่านรู้สึกเจ็บปวดและมีเลือดไหลออกมาจากมือ , เท้า และหัวใจ รอยแผลเหล่านี้ คือ “รอยแผลศักดิ์สิทธิ์ (Stigmata)” ทุกเย็นวันพฤหัสบดี นักบุญเจมมาจะตกอยู่ในภวังค์ และรอยแผลก็จะปรากฏขึ้น

     รอยแผลดังกล่าว เรียกว่า “รอยแผลศักดิ์สิทธิ์” ในภาษาของพระศาสนจักรคาทอลิก ซึ่งหมายถึง รอยแผลของพระเยซูคริสตเจ้าที่ถูกตรึงกางเขนที่ปรากฏบนร่างกายของชายและหญิงบางคนที่ดำเนินชีวิตเหมือนกับพระองค์มากจนสะท้อนถึงรอยแผลที่เกิดจากความรักในการไถ่บาปต่อผู้อื่น

     รอยแผลศักดิ์สิทธิ์ยังคงอยู่จนถึงบ่ายวันศุกร์หรือเช้าวันเสาร์ เมื่อเลือดหยุดไหล บาดแผลก็จะปิดลง และเหลือเพียงรอยแผลสีขาวแทนรอยแผลลึก รอยแผลศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญเจมมาจะยังคงปรากฏอยู่จนกระทั่ง “คุณพ่ออธิการเจอร์มานุส รูออปโปโล (Reverend Germanus Ruoppolo - Reverendo Germanus Ruoppolo)” พระสงฆ์คณะแพชชั่นนิซ และเป็นพระสงฆ์ผู้โปรดศีลอภัยบาปของท่าน แนะนำให้ท่านสวดภาวนาขอให้รอยแผลศักดิ์สิทธิ์หายไปเนื่องจากสุขภาพที่ทรุดโทรมลง จากการสวดภาวนา ปรากฏการณ์ดังกล่าวจึงยุติลง แต่รอยแผลสีขาวยังคงอยู่บนผิวหนังของท่านจนกระทั่งท่านเสียชีวิต


“คุณพ่ออธิการเจอร์มานุส รูออปโปโล (Reverend Germanus Ruoppolo - Reverendo Germanus Ruoppolo)” พระสงฆ์คณะแพชชั่นนิซ และเป็นพระสงฆ์ผู้โปรดศีลอภัยบาปของ “นักบุญเจมมา กัลกานี (Saint Gemma Galgani - Santa Gemma Galgani)”

     ด้วยความช่วยเหลือของพระสงฆ์ผู้โปรดศีลอภัยบาป นักบุญเจมมาจึงได้ไปอยู่กับอีกครอบครัว ซึ่งท่านได้รับอิสรภาพในชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณมากกว่าที่บ้าน ท่านถูกพบเห็นบ่อยครั้งในอาการตกอยู่ในภวังค์ และครั้งหนึ่งเชื่อกันว่า ท่านลอยตัวได้ คำพูดของท่านที่พูดออกมาในช่วงตกอยู่ในภวังค์นั้น ได้รับการบันทึกไว้โดยพระสงฆ์ผู้โปรดศีลอภัยบาปและญาติจากครอบครัวบุญธรรมของท่าน

     เมื่อการตกอยู่ในภวังค์ของท่านจงลง ท่านก็กลับมาเป็นปกติและดำเนินชีวิตต่อไปอย่างสงบและเยือกเย็น นักบุญเจมมามักจะเห็นของทูตสวรรค์ผู้อารักขา (Guardian Angel) ของท่าน ท่านส่งทูตสวรรค์ผู้อารักขาของท่านไปทำธุระต่างๆ ซึ่งโดยปกติแล้วจะไปส่งจดหมายหรือฝากบอกให้พระสงฆ์ผู้โปรดศีลอภัยบาปของท่านที่กรุงโรม (Rome - Roma)

     ระหว่างการสืบสวนชีวิตของท่านในฐานะอัครสาวก พยานทุกคนยืนยันว่า นักบุญเจมมาไม่มีกลอุบายใดๆเลย การพลีกรรมและการเสียสละอันมากมายของท่านส่วนใหญ่ถูกปกปิดเป็นความลับจากผู้ที่คนส่วนใหญ่ที่รู้จักท่าน

     ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1903 นักบุญเจมมาได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นวัณโรค ในช่วงต้นสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ของปีค.ศ. 1903 นักบุญเจมมาเริ่มมีอาการป่วยหนัก ท่านเสียชีวิตเมื่ออายุ 25 ปี ในวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ 11 เมษายน ค.ศ. 1903 พระสงฆ์ประจำเขตวัดที่ร่วมเดินทางไปด้วยกล่าวว่า “ท่านเสียชีวิตด้วยรอยยิ้มที่ยังคงปรากฏอยู่บนริมฝีปาก จนพ่อเองก็ไม่อาจเชื่อได้ว่า ท่านเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ”

     นักบุญเจมมาได้รับการประกาศเป็นบุญราศี (Blessed) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1933 โดยพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 11 (Pope Pius XI) และได้รับการประกาศเป็นนักบุญ (Saint) เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1940  โดยพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 12 (Pope Pius XII) เพียง 37 ปีหลังจากที่ท่านเสียชีวิต วันฉลองของท่าน คือ วันที่ 11 เมษายน ของทุกปี


“พระสันตะปาปาปีโอ ที่ 11 (Pope Pius XI)” ผู้ประกาศให้ “นักบุญเจมมา กัลกานี (Saint Gemma Galgani - Santa Gemma Galgani)” เป็นบุญราศี (Blessed) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1933


“พระสันตะปาปาปีโอ ที่ 12 (Pope Pius XII)” ผู้ประกาศให้ “นักบุญเจมมา กัลกานี (Saint Gemma Galgani - Santa Gemma Galgani)” เป็นนักบุญ (Saint) เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1940

     สักการสถานของท่าน คือ สักการสถานนักบุญเจมมา (Sanctuary of Saint Gemma - Santuario di Santa Gemma) ที่เมืองลุกกา ประเทศอิตาลี

+ Santuario di Santa Gemma (Sanctuary of Saint Gemma - สักการสถานนักบุญเจมมา)
- Google Maps
https://maps.app.goo.gl/HxAHYodaXhdQN7eg7

- เว็บไซต์
https://www.santuariosantagemma.it/

- เพจ
https://www.facebook.com/santuariogemmalucca?mibextid=wwXIfr&rdid=1u5GX7UaYNdNOz9o&share_url=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fshare%2F1BTDmGTPsw%2F%3Fmibextid%3DwwXIfr#


ภายนอก “สักการสถานนักบุญเจมมา (Sanctuary of Saint Gemma - Santuario di Santa Gemma)” ที่เมืองลุกกา (Lucca) ประเทศอิตาลี


ภายใน “สักการสถานนักบุญเจมมา (Sanctuary of Saint Gemma - Santuario di Santa Gemma)” ที่เมืองลุกกา (Lucca) ประเทศอิตาลี


ร่างของ “นักบุญเจมมา กัลกานี (Saint Gemma Galgani - Santa Gemma Galgani)” ในโลงแก้ว “สักการสถานนักบุญเจมมา (Sanctuary of Saint Gemma - Santuario di Santa Gemma)” ที่เมืองลุกกา (Lucca) ประเทศอิตาลี

#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ชีวประวัติ #นักบุญ #ประวัติศาสตร์ #นักบุญเจมมากัลกานี #นักบุญเจมมา #รหัสนิก #ดอกไม้แห่งลุกกา #ธิดาแห่งพระมหาทรมาน #รอยแผลศักดิ์สิทธิ์ #อิตาลี #ประเทศอิตาลี #catholic #SaintGemmaGalgani #SaintGemma #mystic #FlowerOfLucca #DaughterOfPassion #stigmata #SantaGemmaGalgani

CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/1FrU9eRuuf/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่