Fast.com ชนะใจผม เมื่อ ความเร็วตามแพ็กเกจจริง สำคัญกว่าตัวเลขเวอร์ ๆ บนจอ

บางครั้งอินเทอร์เน็ตก็เหมือนคนเจ้าชู้ ตอนจีบใหม่ ๆ ทำตัวดี๊ดี พอคบจริง ๆ ดรอปสปีดเฉย… และวันหนึ่งผมก็เจอความจริงว่า คนนั้นชื่อ Fast.com ซื่อสัตย์กว่าทุกคนในงานเลี้ยงสปีดเทสต์เสียอีก

สรุปก่อนเล่า (สำหรับสายใจร้อน)
Fast.com ให้ค่าความเร็ว ใกล้เคียงแพ็กเกจจริง/นโยบายจำกัดความเร็ว มากที่สุด (เหมือนตอนเราใช้งานจริง ๆ โดยเฉพาะสตรีมวิดีโอ)

แอปอย่าง Speedtest และ nPerf มักโชว์ค่าแรง ๆ เพราะ
1. ใช้ หลายเธรด (multi-connection) ดึงข้อมูลพร้อมกัน จึงวิ่งทะลุนโยบายชะปัก/จำกัดแบบต่อเชื่อมเดียว
2. เลือก เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในหรือใกล้เครือข่ายผู้ให้บริการ (บางทีอยู่ในบ้านเขาเลย) จึง ไหลลื่นเกินชีวิตจริง
3. โอเปอเรเตอร์มัก จัด QOS/Peering/Cache ให้เส้นลื่นเป็นพิเศษ เพราะมี รางวัลสำนักใหญ่ และภาพลักษณ์ที่ต้องลุ้น

เคสจริงของผม
Fast.com ~21 Mbps (ตรงกับแพ็กเกจหลังหมดโควต้า จำกัด 20 Mbps) ขณะที่ Speedtest ~205 Mbps, nPerf ~165 Mbps เวอร์จนใช้จริงไม่ถึง!

ข้อมูลหน้างาน (เครื่อง-ซิม-โปรเดียวกัน)
มือถือทดสอบ: Xiaomi Redmi Note 14 5G
เครือข่าย/พื้นที่: AIS 5G (SA/VoLTE)
แพ็กเกจ: AIS 5G Fixxy 399 บ./เดือน – เน็ตเต็มสปีด 30GB จากนั้นจำกัดที่ 20 Mbps
ตอนทดสอบ โควต้าความเร็วสูงสุดหมดแล้ว ระบบจึงล็อกที่ ~20 Mbps ตามเงื่อนไขแพ็กเกจ

ผลที่ได้ (จากภาพหน้าจอจริง)

Fast.com: ดาวน์โหลด ~21 Mbps, อัปโหลด ~53 Mbps, Latency ~31/51 ms
Speedtest by Ookla: ดาวน์โหลด ~205 Mbps, อัปโหลด ~6.49 Mbps, Ping ~21 ms
nPerf: ดาวน์โหลดเฉลี่ย ~145 Mbps (พีก ~165), อัปโหลดเฉลี่ย ~6–8 Mbps, Latency ~22–28 ms
> ภาพรวม ฝั่งแอปเทสต์ดัง ๆ พุ่งไม่เกรงใจแพ็กเกจ แต่ Fast.com กลับติดดิน ดินเดียวกับชีวิตจริงตอนดู Netflix/YouTube/TikTok นั่นแหละ


ทำไม Fast.com ถึง จริง กว่า
1) ปรัชญาการทดสอบ จำลองการดูวิดีโอจริง
Fast.com เป็นของ Netflix มันยิงโหลดจากโครงข่ายสตรีมมิ่งจริง (Open Connect) และ เริ่มต้นด้วยการเชื่อมต่อเดี่ยว (single-connection) ก่อนค่อยไล่ระดับ เงื่อนไขนี้คล้ายการใช้งานจริงเวลาคุณกดดูหนังจึงสะท้อน สปีดที่คุณจะได้ยินจากหู เห็นด้วยตา เวลาชีวิตประจำวัน

2) ชนกำแพงนโยบาย ได้ซื่อ ๆ
ผู้ให้บริการมือถือจำนวนมากจำกัดความเร็ว ต่อการเชื่อมต่อ พอแอปไหนยิงหลายเธรดพร้อมกัน ความเร็วรวมจึงดูพุ่งทะลุเพดาน แต่ Fast.com แบบเดิม ๆ ไม่วู่วามเลยชนเพดาน 20 Mbps ตั้งฉาก โป๊ะเชะกับแพ็กเกจ

3) ไม่ได้เทียบท่าในอู่ของค่าย
เซิร์ฟเวอร์ของ Speedtest/nPerf หลายตัว จอดอยู่ในลานของโอเปอเรเตอร์ หรือเชื่อมกันด้วยเส้นที่โอเปอเรเตอร์ จูนพิเศษ (QoS/Peering/Cache) ทำให้วิ่งปรู๊ดแบบโลกสวย แต่พอไปใช้งานเว็บ/แอปข้างนอก เมฆหมอกก็มาเยือน ความเร็วตกกลับโลกมนุษย์

แล้วทำไมค่ายมือถือต่างๆ (รวมถึง AIS) ถึง ชอบปล่อยให้แอปเทสต์แรง ?
ไม่ได้จะใส่ร้ายใครนะครับ แต่เหตุผลเชิงอุตสาหกรรมมีจริง ๆ
ภาพลักษณ์ & ถ้วยรางวัล สถาบันวัดผลใหญ่ ๆ แจกประกาศ/รางวัล เครือข่ายเร็วสุด ปีเว้นปี ถ้าค่าเฉลี่ยเทสต์สูง = ข่าวดี = โฆษณาได้
ประสบการณ์เฉพาะกิจ การตั้งเซิร์ฟเวอร์เทสต์ไว้ใกล้ ๆ ลูกค้า ช่วยโชว์ ศักยภาพโครงข่าย ว่าดีได้จริง ซึ่งก็จริงในเงื่อนไขนั้น แต่ ไม่ได้เท่ากับประสบการณ์อินเทอร์เน็ตทั้งโลก
เทคนิครุ่นพี่ แยกท่อ จัดลำดับทราฟฟิก.เปิดหลายเธรด ล้วนทำให้ผลสวยสะดุดตา คล้าย ถ่ายรูปเปิด Beauty mode สวยหล่อขึ้น แต่หน้าจริงตอนประชุมซูม…อีกเรื่อง

ผมไม่ได้บอกว่า โกง นะ มันคือ แนวทางการทดสอบคนละสำนัก แต่ในฐานะผู้ใช้ สิ่งที่ผมอยากรู้คือ เวลาใช้งานจริง เราจะได้แค่ไหน ซึ่ง Fast.com ตอบคำถามนี้ตรง ๆ

แง่มุมเทคนิคที่ทำให้ตัวเลข เวอร์ได้
Multi-Connection vs Single-Connection
Speedtest/nPerf มักยิง หลายเธรด พร้อมกัน → รวมกันเลยดูแรง
Fast.com เริ่ม เธรดเดี่ยว → ใกล้เคียงแอปส่วนใหญ่ในชีวิตจริง

ที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์
ใกล้ = วิ่งไว ระยะสั้น แทบไม่มี คอขวดโลกจริง
ไกล/ต่างเครือข่าย = เผชิญคอขวดเดียวกับที่เราเจอเวลาเล่นโซเชียล/ดูหนัง

QoS/Peering/Cache
เทสต์เซิร์ฟเวอร์บางตัวได้รับสิทธิพิเศษในเครือข่าย
เนื้อหาจริงที่เราดู/โหลด ไม่ได้ถูกพรมแดง ต้อนรับเสมอไป

Traffic Shaping แบบต่อการเชื่อมต่อ
จำกัด 20 Mbps ต่อ 1 การเชื่อมต่อ พอแอปเปิด 8 การเชื่อมต่อพร้อมกัน → ตัวเลขรวมเกิน 20 ง่ายมาก

วิธีทดสอบให้แฟร์ (เอาไปลองได้เลย)
1. เครื่องเดียว ซิมเดียว สถานที่เดียว (ผมใช้ Redmi Note 14 5G ทั้งหมด)
2. ทดสอบ ช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อตัดแฟคเตอร์ชั่วโมงเร่งด่วน
3. Fast.com ก่อน  ตามด้วย Speedtest และ nPerf
4. ทำซ้ำ 3–5 รอบ เอาค่า มัธยฐาน (ตัวเลขกลาง)
5. เทียบกับ เงื่อนไขแพ็กเกจ ของคุณ (ถ้าหมดโควต้าแล้วจำกัด 20 Mbps, Fast.com ควรวิ่งแถว ๆ นี้)
> ถ้า Fast.com ตรงแพ็กเกจ แต่ Speedtest/nPerf พุ่งสิบเท่าให้เชื่อ Fast.com สำหรับชีวิตจริง แล้วเก็บตัวเลขแรง ๆ ไว้…อวดเพื่อนก็พอ 😄


เคสจริงของผม ทำไมอัปโหลด Fast.com ถึงสูงกว่า
หลายคนสงสัย ทำไม Upload บน Fast.com ~53 Mbps สูงกว่าดาวน์โหลดทั้งที่โดนล็อก 20?
คำตอบ นโยบายแพ็กเกจอาจล็อกเฉพาะดาวน์โหลด หรือรูปแบบวัดอัปโหลดของ Fast.com ใช้การเชื่อมต่อที่แตกต่าง/ช่วงเวลาสั้นกว่าจนไม่ชนเพดานเท่าโหลดฝั่งดาวน์โหลด (ผู้ให้บริการหลายเจ้าเน้นจำกัดดาวน์โหลดเป็นหลัก) — ประสบการณ์ใช้งานจริง เวลาดูหนัง/เลื่อนฟีด ฝั่งดาวน์โหลดคือพระเอก จึงเห็นผลต่างชัด

แล้วเราควรใช้แอปไหน ตัดสินใจ?
อยากรู้ ประสบการณ์ดูหนัง/ยูทูบจริง → Fast.com เถอะ
อยากดู ศักยภาพโครงข่ายในอุดมคติ หรือใช้เซิร์ฟเวอร์ในเครือข่าย → ดู Speedtest/nPerf ได้ แต่ตีความให้เป็น
อยากเช็ก Latency/Jitter/เสถียรภาพ หลายค่า → nPerf จะละเอียดดี

คาถาพันทิปข้อเดียว เชื่อ Fast.com เวลาใช้ชีวิต เชื่อ Speedtest เวลาอยากยิ้ม

ฝากถึงค่ายมือถือ (รวมถึง AIS ที่ผมใช้อยู่)
ตัวเลขแรง ๆ อาจทำให้คนยิ้มวันเดียว
แต่ สปีดที่ตรงแพ็กเกจ ใช้จริงแล้วไม่หัวเสีย จะทำให้คน อยู่กับค่ายไปอีกนาน
ผลทดสอบที่ สวย สำคัญ แต่ ความจริงที่ซื่อสัตย์ สำคัญกว่า

สรุป
อินเทอร์เน็ตที่ดี ไม่ต้องหล่อบนเวที แค่ ไม่ปล่อยให้เรากระตุกตอนเลื่อนดูชีวิต วันนี้ผมเลือกเชื่อคนที่พูดความจริง แม้ตัวเลขจะไม่อลัง Fast.com ทำให้ผมเห็นโลกจริงในจอเล็ก ส่วนตัวเลขเวอร์ ๆ…ปล่อยให้เป็นบทกวีของอัลกอริทึมไปก็แล้วกัน

ปล. ใครอยากลองหยิบมือถือขึ้นมา เปิด Fast.com แล้วถามตัวเองสั้น ๆ ว่า “นี่แหละความเร็วเน็ตของฉันจริงไหม?” ✌️
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่