เบอร์ลินเมืองหลวงของเยอรมนีประกาศจุดยืนชัดเตรียมเพิ่ม “พื้นที่สีเขียว” และปรับตัวให้พร้อมกับ สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง
ภายใต้แผนงานที่เรียกว่า Climate Adaptation Act (กฎหมายปรับตัวต่อภูมิอากาศ) ที่พึ่งได้รับการอนุมัติ
ซึ่งมีจุดเด่นและวิธีการดำเนินการอย่างชัดเจนดังนี้:
👉 เพิ่มพื้นที่สีเขียว เบอร์ลินตั้งเป้าให้มีต้นไม้ในเมืองรวมกันเกินกว่า 1 ล้านต้นภายในปี 2040 ซึ่งจะมากกว่าสองเท่าจากปัจจุบัน ที่มีอยู่ (ประมาณ 440,000 ต้น) โดยเป้าหมายนี้สร้างขึ้นเพื่อให้เมืองสามารถรับมือกับคลื่นความร้อน, ฝนตกหนัก, และการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศได้ดีขึ้น
👉 จัดสรรงบประมาณกว่า €3.2 พันล้าน แผนงานนี้ได้รับการประเมินว่าใช้งบประมาณประมาณ €3.2 พันล้านสำหรับ 15 ปีข้างหน้า ทั้งในด้านการปลูกต้นไม้ ซื้อและดูแลพื้นที่สีเขียว ตลอดจนพัฒนาระบบจัดการน้ำรองรับอย่างเป็นระบบ
👉 ตั้งเป้าลดอุณหภูมิโดยรวมของเมือง โดยใช้พื้นที่สีเขียว เพิ่มการปล่อยน้ำ (unsealing pavements) และดูแลระบบจัดการน้ำฝน เพื่อให้เมืองสามารถรับมือกับฝนหนักหรือน้ำท่วมได้
👉 ร่วมมือกับภาคประชาชน
น่าสนใจว่าแผนนี้ไม่ได้เริ่มจากหน่วยงานรัฐเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากแรงขับเคลื่อนของภาคประชาชน: iniciativa BaumEntscheid ที่รวบรวมลายเซ็นและเรียกร้องให้มีแผนปลูกต้นไม้ในเมืองอย่างจริงจัง พร้อมดำเนินการร่วมกัน
ด้วยสาเหตุที่เมืองใหญ่เช่นเบอร์ลิน มีโอกาสเจอปัจจัยเสี่ยงจาก คลื่นความร้อน, ฝนหนัก, น้ำท่วม, ดินแห้ง บ่อยขึ้น การปลูกต้นไม้และเพิ่มพื้นที่สีเขียวจะช่วยลดอุณหภูมิ, ลดการสะสมความร้อนในเมือง, และช่วยจัดการน้ำฝนได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน
นอกจากนี้การเพิ่มพื้นที่สีเขียว จะช่วยให้เมืองน่าอยู่ขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพได้อีกด้วย
ส่วนตัวพ่อบ้านชอบมากๆ กับการเพิ่มพื้นที่สีเขียวครับ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องสวยงาม แต่มันคือ “ความสบายใจและคุณภาพชีวิต”
"แดดแรง ๆ ก็มีร่มเงาให้พัก สูดอากาศก็สดชื่นขึ้น แถมเสียงนก เสียงใบไม้พลิ้วเบา ๆ ยังช่วยลดความเครียดได้อย่างไม่น่าเชื่อ"
ซึ่งหลังจากนี้เราก็ต้องมาดูกันครับว่า Berlin จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่? ว่าแต่คุณมีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ครับ?
ที่มาของข้อมูล: Stadt Berlin
#เยอรมนี #เยอรมัน #germany #german #berlin
CR
https://www.facebook.com/share/1Bk6f2hBcK/?mibextid=wwXIfr
ชัดเจน! เบอร์ลินเตรียมพลิกโฉมเมืองสีเขียวพร้อมปลูก ต้นไม้ล้านต้นภายในปี 2040 🌳
ภายใต้แผนงานที่เรียกว่า Climate Adaptation Act (กฎหมายปรับตัวต่อภูมิอากาศ) ที่พึ่งได้รับการอนุมัติ
ซึ่งมีจุดเด่นและวิธีการดำเนินการอย่างชัดเจนดังนี้:
👉 เพิ่มพื้นที่สีเขียว เบอร์ลินตั้งเป้าให้มีต้นไม้ในเมืองรวมกันเกินกว่า 1 ล้านต้นภายในปี 2040 ซึ่งจะมากกว่าสองเท่าจากปัจจุบัน ที่มีอยู่ (ประมาณ 440,000 ต้น) โดยเป้าหมายนี้สร้างขึ้นเพื่อให้เมืองสามารถรับมือกับคลื่นความร้อน, ฝนตกหนัก, และการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศได้ดีขึ้น
👉 จัดสรรงบประมาณกว่า €3.2 พันล้าน แผนงานนี้ได้รับการประเมินว่าใช้งบประมาณประมาณ €3.2 พันล้านสำหรับ 15 ปีข้างหน้า ทั้งในด้านการปลูกต้นไม้ ซื้อและดูแลพื้นที่สีเขียว ตลอดจนพัฒนาระบบจัดการน้ำรองรับอย่างเป็นระบบ
👉 ตั้งเป้าลดอุณหภูมิโดยรวมของเมือง โดยใช้พื้นที่สีเขียว เพิ่มการปล่อยน้ำ (unsealing pavements) และดูแลระบบจัดการน้ำฝน เพื่อให้เมืองสามารถรับมือกับฝนหนักหรือน้ำท่วมได้
👉 ร่วมมือกับภาคประชาชน
น่าสนใจว่าแผนนี้ไม่ได้เริ่มจากหน่วยงานรัฐเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากแรงขับเคลื่อนของภาคประชาชน: iniciativa BaumEntscheid ที่รวบรวมลายเซ็นและเรียกร้องให้มีแผนปลูกต้นไม้ในเมืองอย่างจริงจัง พร้อมดำเนินการร่วมกัน
ด้วยสาเหตุที่เมืองใหญ่เช่นเบอร์ลิน มีโอกาสเจอปัจจัยเสี่ยงจาก คลื่นความร้อน, ฝนหนัก, น้ำท่วม, ดินแห้ง บ่อยขึ้น การปลูกต้นไม้และเพิ่มพื้นที่สีเขียวจะช่วยลดอุณหภูมิ, ลดการสะสมความร้อนในเมือง, และช่วยจัดการน้ำฝนได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน
นอกจากนี้การเพิ่มพื้นที่สีเขียว จะช่วยให้เมืองน่าอยู่ขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพได้อีกด้วย
ส่วนตัวพ่อบ้านชอบมากๆ กับการเพิ่มพื้นที่สีเขียวครับ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องสวยงาม แต่มันคือ “ความสบายใจและคุณภาพชีวิต”
"แดดแรง ๆ ก็มีร่มเงาให้พัก สูดอากาศก็สดชื่นขึ้น แถมเสียงนก เสียงใบไม้พลิ้วเบา ๆ ยังช่วยลดความเครียดได้อย่างไม่น่าเชื่อ"
ซึ่งหลังจากนี้เราก็ต้องมาดูกันครับว่า Berlin จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่? ว่าแต่คุณมีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ครับ?
ที่มาของข้อมูล: Stadt Berlin
#เยอรมนี #เยอรมัน #germany #german #berlin
CR https://www.facebook.com/share/1Bk6f2hBcK/?mibextid=wwXIfr