Multi-Jobber ยุคดิจิทัล! ทำงานหนักแล้วอย่าลืมให้ ‘เงินทำงาน’

KEY POINTS

การทำงานอิสระในรูปแบบฟรีแลนซ์และการทำงานหลายอาชีพพร้อมกัน (Multi Jobbing) กำลังเป็นที่นิยมและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะหลายคนมองว่าเป็นอาชีพที่มีความยืดหยุ่นในการทำงาน เลือกจำนวนงานได้เอง ทำมากก็ได้เงินมาก

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้มุมมองว่า เมื่อมีความอิสระสูงอาจมองข้ามการบริหารจัดการเงินที่หามาได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแบ่งเงินมาลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงยและสร้างผลตอบแทนในระยะยาว หรือที่เรียกว่า 'การใช้เงินทำงาน' เพราะการลงทุนมีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความมั่นคงทางการเงินในหลายด้าน

เพิ่มโอกาสให้เงินเติบโตทบต้นในระยะยาว พลังดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) จะช่วยผลักดันให้เงินเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ยิ่งลงทุนแต่เนิ่นๆ ยิ่งมีเวลาให้เงินทำงาน เมื่อเวลาผ่านไปมูลค่าของเงินที่ลงทุนไว้ก็จะยิ่งสูงขึ้น ถือเป็นการวางรากฐานสู่ความมั่งคั่งในอนาคต

สร้างโอกาสในการมีรายได้เพิ่มเติมโดยไม่ต้องใช้แรงเยอะ (Passive Income) จากผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย เงินปันผล หรือกำไรจากการขายสินทรัพย์ที่มูลค่าเพิ่ม ถือเป็นการต่อยอดจากเม็ดเงินที่ได้จากการทำงาน

ลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการเก็บไว้ที่ใดที่หนึ่ง เพราะการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายจะช่วยกระจายความเสี่ยง ถ้าสินทรัพย์ประเภทหนึ่งมีปัญหา สินทรัพย์ประเภทอื่นก็ยังช่วยถ่วงดุลพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้

เตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับเหตุฉุกเฉินหรือสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การขาดรายได้จากการไม่มีงานหรือประสบอุบัติเหตุ การมีเงินสำรองที่เป็นผลตอบแทนจากการลงทุนจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนระยะสั้นได้

ช่วยสร้างวินัยทางการเงินที่ดี การจัดสรรเงินเพื่อการออมและลงทุนอย่างสม่ำเสมอและเป็นระบบ ทำให้เกิดความตระหนักและรู้คุณค่าของเงินมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้ใช้จ่ายเงินไปกับสิ่งฟุ่มเฟือยโดยไม่จำเป็น

ทั้งนี้ ชาวฟรีแลนซ์และ Multi-Jobbers หลายคนยังมีความเชื่อ ความเข้าใจผิด และข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการลงทุนและจัดการเงินอยู่หลายอย่าง เช่น

เชื่อว่าการลงทุนนั้นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ทั้งที่ปัจจุบันมีช่องทางหรือแพลตฟอร์มการบริการด้านการลงทุน ให้ลงทุนเริ่มต้นด้วยเงินหลักร้อยบาท

คิดว่าตัวเองไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลการลงทุนหรือไม่สามารถแบ่งเวลามาบริหารจัดการเงินได้ เพราะมีภารกิจหลักอยู่ที่การทำงานเท่านั้น จนละเลยการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว

กลัวการขาดทุนจากการลงทุน โดยลืมไปว่าการลงทุนนั้นมีหลากหลายประเภท สามารถเลือกให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้

เข้าใจผิดคิดว่าการฝากเงินไว้กับธนาคารนั้นปลอดภัยที่สุด แม้ในภาวะดอกเบี้ยต่ำ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากแทบจะสู้อัตราเงินเฟ้อไม่ได้

ขาดการวางแผนจัดสรรเงินไว้สำหรับเก็บออมและลงทุนแยกออกจากเงินหมุนเวียนใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงมักใช้เงินจนหมดและไม่เหลือเงินเก็บไว้เลย

ความจริงแล้ว การเริ่มต้นลงทุนไม่ได้ยากเกินความสามารถของชาวฟรีแลนซ์ และ Multi-Jobbers เพียงแค่เริ่มศึกษาหาความรู้ เลือกแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองและค่อยๆ สร้างความเข้าใจไปทีละขั้น

เปิดบัญชีเงินฝากพิเศษที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป เพื่อรับผลตอบแทนที่ดีขึ้นโดยมีความเสี่ยงต่ำ

ซื้อสลากออมทรัพย์ ซึ่งให้ผลตอบแทนมากกว่าหรือเท่ากับเงินฝากทั่วไป แลกกับข้อจำกัดด้านสภาพคล่องเพียงเล็กน้อย

เริ่มลงทุนในกองทุนรวมผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ต่างๆ ซึ่งมีให้เลือกลงทุนตามความเสี่ยง เป้าหมาย และงบประมาณที่มี อีกทั้งยังดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่ต้องคอยเฝ้าติดตามตลาดด้วยตนเอง

ศึกษาและลงมือซื้อสินทรัพย์ด้วยตัวเอง เช่น ตราสารหนี้ หุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

การลงทุนที่ประสบความสำเร็จ นอกจากจะต้องเลือกวิธีและเครื่องมือที่เหมาะกับตัวเองแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การศึกษาหาความรู้เพื่อสร้างความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ทั้งจากการอ่านหนังสือ ติดตามข่าวสาร สัมมนา

รวมถึงผ่านหลักสูตรออนไลน์ อย่างเช่น หลักสูตร "วางแผนการเงิน และภาษีสำหรับฟรีแลนซ์" ที่จัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ได้รวบรวมองค์ความรู้ด้านวางแผนการเงินและลงทุนที่เหมาะกับการทำงานแบบฟรีแลนซ์ไว้อย่างเข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

ถึงแม้ชาวฟรีแลนซ์และ Multi-Jobbers จะต้องใช้แรงในการทำงานหารายได้เป็นหลัก แต่อย่าลืมบริหารจัดการเงิน เก็บสะสม และต่อยอดเงินด้วยการนำไปลงทุนควบคู่กันไปด้วย การศึกษาและทำความเข้าใจเรื่องการลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ เลือกเครื่องมือที่เหมาะกับตัวเอง และลงมือทำอย่างมีวินัย

จะเป็นกุญแจสำคัญที่นำพาชีวิตไปสู่ความมั่นคงทางการเงิน และความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนในระยะยาวได้

Cr. https://www.thansettakij.com/finance/stockmarket/643586