ไดอารี่ : ของผม

ตั้งแต่ผมอยู่อนุบาลสอง ผมอยู่ที่นครสวรรค์ ตอนนั้นผมดื้อมาก ชอบวิ่งออกจากบ้าน วิ่งหนีทุกสิ่งอย่าง จนวันหนึ่งครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อุบลฯ แถบอีสาน
ที่นั่นตอนแรกมันก็ดี แต่พออยู่นานเข้า ผมเริ่มโดนแกล้งจากพี่แทบทุกวัน ที่โรงเรียนก็โดนเพื่อนแกล้งซ้ำอีก เพื่อนไม่ชอบผม แต่ตรงนั้นผมยังให้อภัยได้ ทั้งพี่ ทั้งเพื่อน ผมไม่เก็บมันไว้ในใจมาก
พอขึ้นป.2 ผมย้ายมากรุงเทพฯ มาอยู่ในหอเช่าแคบ ๆ ที่นั่นคือ “นรกบนดิน” สำหรับผม
เขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายหรอก แต่เขาด่าผมทุกวัน เสียงด่ากลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ขึ้นป.3 ทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้น ผมเริ่มล้อเพื่อนบ้าง ถ้ามันนับเป็นเวรกรรมก็คงตามทันในตอนหลัง
ป.4 ถึง ป.6 ผมโดนล้อ โดนแกล้งทุกวัน พอกลับบ้านมาก็อยู่กับตัวเอง เล่นเกมออนไลน์กับเพื่อน
พอสามทุ่ม พวกผู้ใหญ่กลับมา สิ่งแรกที่เขาทำไม่ใช่ทักทาย แต่เดินไปดูห้องน้ำกับอ่างล้างจาน ว่าผมทำพลาดอะไรอีก
ผมโดนด่าทุกวัน บางครั้งทำมะเขือเทศหล่น เขาด่าผมอย่างรุนแรง พังโทรศัพท์ผมเกือบแตก
เวลากินข้าวก็โดนด่าแทบทุกมื้อ ผมต้องหุงข้าว ล้างจาน แต่สิ่งที่เจ็บคือคำพูดมากกว่าแรงงาน
ขึ้น ม.1 ผมคิดว่าอะไร ๆ จะดีขึ้น แต่ไม่ มันเหมือนเดิม ถึงจะมีเพื่อนดี ๆ อยู่คนหนึ่ง แต่มันไม่ช่วยลบสิ่งในบ้านได้เลย
จนผมทนไม่ไหว อยากย้าย แล้วก็ได้ย้ายไปอยู่กับป้า ช่วง ม.2 ผมเริ่มเกเร โดดเรียนบ่อย แต่สุดท้ายป้าก็ให้กลับมาอยู่กับแม่ เพราะ “เราไม่ใช่ลูกเขา”
คำนั้นผมจำได้ดี
พอกลับมานครสวรรค์ คราวนี้ไม่ค่อยโดนแกล้ง แต่มีแต่คนอยากต่อย ฮ่า ๆ
ตอนนั้นผมลองสูบบุหรี่กับกัญชา แต่ก็เลิกได้เอง จากนั้นผมเริ่มอยากพัฒนาตัวเอง ออกกำลังกาย จนวันหนึ่งผมหาฝันตัวเองเจอ — “มวย”
ผมชอบมวยสากลมาก ชอบจนอยากเป็นแชมป์โลก ผมซ้อมกับเพื่อน ไม่มีใครชนะผมได้ มันทำให้ผมมั่นใจขึ้นเรื่อย ๆ
จนถึง ม.4 ผมได้เข้าเรียนโรงเรียนกีฬา ถึงจะสอบตกอีกที่หนึ่ง แต่ก็ได้อีกที่หนึ่งแทน
ตอนแรกผมร้องไห้หนักมากเพราะไม่ติด แต่พอติดจริง ๆ ผมกลับรู้ว่ามันไม่เหมือนฝันเลย
ผมโดนล้อทุกวันว่า “เป็นเกย์” เพราะมีเพื่อนเป็นเกย์ และรุ่นน้องในหอที่ซ้อมด้วยกันก็พูดล้อแบบนั้นบ่อย มันทำให้ผมอยากออก
ถึงจะได้ชกหนำใจก็เถอะ แต่มันเป็นมวยไทย และผมแพ้ ผมจึงออกจากโรงเรียนกีฬาในสามเดือน
กลับมาเรียน ม.4 อีกครั้ง ตอนแรกก็ดี แต่ตอนนี้ผมเริ่มถอยห่างจากเพื่อน เพราะรู้แล้วว่าตลอดสองปีที่ผ่านมา ไม่มีใครเห็นค่าผมเลย
ผมเลยเลือกถอยออกมาเงียบ ๆ
ผมโตมากับคำด่า โตมากับความรู้สึกว่าไม่มีใครเชื่อว่าผมจะดีได้
ผมเคยพยายามฆ่าตัวตายจริง ๆ สองครั้ง และเอามีดมาจ่อคอตัวเองสิบกว่าครั้ง รวมแล้วคงยี่สิบครั้งเห็นจะได้
ผมเคยจมน้ำตอนอยู่ที่อุบล ลงไปหาปลากับตา น้ำเข้าปาก ผมพยายามตะโกนแต่เขาไม่ได้ยิน
ผมกลัวมาก และตอนนั้นผมยอมแพ้ ปล่อยตัวเองให้จมน้ำ คิดว่าทุกอย่างคงจบแล้ว แต่เท้าไปเหยียบโดนไม้ในน้ำ ผมเลยดันตัวขึ้นมาได้
น้ำเต็มท้อง หายใจแทบไม่ออก แต่ผมรอด
จนถึงปัจจุบันนี้ ผมยังหายใจอยู่
มีคนบอกว่าผมเก่ง ฉลาด แต่คำพวกนั้นไม่ได้ช่วยให้ผมดีขึ้นเลย
ผมรู้สึกอ่อนแอมาก เรื่องบางเรื่องไม่ควรจำได้ด้วยซ้ำ แต่สมองผมมันบ้า มันจำได้ทุกอย่าง
ทุกคำพูด ทุกสีหน้า ทุกน้ำเสียง
“เมื่อไหร่จะโตสักที” — คำนี้ได้ยินตั้งแต่ป.5 จนถึงตอนนี้
“เมื่อไหร่มันจะตาย ๆ ไปสักที” — คำนี้แม่เคยพูดครั้งหนึ่ง
“เอ้าหรอ เพื่อนไม่คบ เอ้าหรอ เดี๋ยวก็ไม่อยากเรียน เอ้าหรอ เดี๋ยวก็ไม่อยากอยู่บ้าน เอ้าหรอ เดี๋ยวก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่”
คำนั้นแม่พูดตอนกินข้าว ผมก้มหน้า ไม่พูดอะไร น้ำตาไหลช้า ๆ ผมเดินเข้าห้อง นอนคิด
คืนนั้นผมเดินลงไปชั้นล่าง หยิบมีดในครัว มันไม่คมมากแต่พอจะจบทุกอย่างได้
ผมหยิบขึ้นมาแต่สุดท้ายกลับไม่กล้า เพราะกลัวเจ็บ ผมด่าตัวเองว่า “ขี้ขลาด”
อีกครั้งหนึ่ง ผมทำโทรศัพท์ตกจอดับ บอกพ่อว่าให้ร้านซ่อมดีกว่าไหม
เขาด่าผมทันที ผมเครียดจนด่ากลับ “พ่อเป็นอะไรนักหนาวะ บางทีก็ทนไม่ไหวแล้ว!”
แล้วผมก็เดินเข้าห้อง ด่าต่อในใจ “พ่อแบบนี้กูไม่อยากมีหรอก เป็น ยิ้มอะไรนักหนา”
ตอนนั้นผมตัดสินใจใช้ใบมีดโกนปาดคอ แต่กลัวเจ็บ จึงใช้ผ้าห่มแทน ผูกคอตัวเอง
จำได้ว่ามันแน่นมาก แน่นจนหายใจไม่ออก ก่อนจะเตะเก้าอี้ลง
แต่เขาเดินมาเจอก่อน... ผมได้แต่โทษตัวเองว่าไม่รอบคอบ
เขาพยายามมาคุย ผมระบายหมด เขาก็เข้าใจอยู่ช่วงหนึ่ง แต่แค่สองอาทิตย์ เขากลับมาเหมือนเดิม
ผมรู้ทันทีว่า “คำพูดเราไร้ค่า”
เรื่องนี้เพิ่งเกิดเมื่อสามอาทิตย์ก่อนเอง
ตอนนี้ผมก็ทะเลาะกับพ่อแม่อีกครั้ง มันจบแบบเงียบ ๆ แต่ไม่แน่ใจว่าดีจริงไหม
เมื่อวานเขาขอยืมโน้ตบุ๊ก ผมพูดว่า “ถ้ามีเงินนะ ผมจะสร้างล็อกไว้เลย”
แล้วมีเสียงหนึ่งดังขึ้น — “จะไปคุยกับมันทำไม เห็นไหมมันด่า ยิ้มออกมาเลย”
ผมงงและสตั๊น เขาเดินจากไป แล้วเสียงด่าก็เริ่มรามไปเรื่องอื่น
แม่ถามพ่อว่า “มันพูดไหมว่ายิ้มอะ” พ่อไม่ตอบ แค่พูดว่า
“มันเป็นอย่างนี้ พอมันเรียนจบจะส่งมันไปข้างนอกเลย ให้รู้ว่าโลกมันโหดร้ายแค่ไหน”
ผมอยากพูดกลับไปว่า
“ไม่ต้องส่งผมหรอก โลกที่โหดร้าย มันอยู่กับผมมาตลอดแล้ว”
เมื่อคืนผมเห็นภาพรุนแรงในหัว พยายามทำร้ายตัวเอง เพื่อให้ภาพนั้นจางลง
ผมไม่แน่ใจอีกแล้วว่า ผมอยากมีชีวิตอยู่ต่อจริง ๆ หรือแค่รอวันที่มันจะจบ
ผมเคยสัญญากับผู้หญิงคนหนึ่งว่า
“พี่... โตขึ้น เราไปเที่ยวทะเลกันนะ”
เธอเป็นคนดีมาก แต่ชีวิตเธอก็พังคล้าย ๆ ผม
เราคุยกันบ่อย เธอเคยบอกว่า “ไม่อยากอยู่แล้ว”
ตอนนั้นผมปลอบเธอได้ แต่ตอนนี้ผมกลับถามตัวเองว่า
ทำไมกันนะ... เราช่วยคนอื่นได้ แต่ช่วยตัวเองไม่ได้เลย
บางทีผมอาจจะไปถึงทะเลก่อนเธอก็ได้...
ผมรู้ ผมไม่เข้มแข็งพอ ผมอยากหยุดความเจ็บนี้มาก
แต่มันไม่มีทางออก ไม่ว่าผมจะไปไหน ก็ไม่เคยเจอเรื่องดี ๆ
หรือบางที ผมแค่ “จำได้ดีเกินไป”
จริง ๆ ผมรู้ว่า คนที่เลือกจะจากไป เขาไม่ได้อยากตายหรอก
เขาแค่อยาก “หยุดความเจ็บทั้งหมดนั้น” สักที
หวังว่าวันพรุ่งนี้...
ผมจะยังอยู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่