ย้อนกลับไปช่วงโควิด เราตกงานเลยต้องมีการหยิบยืมเพื่อนบ้าง พยายามหางานใหม่ไปเรื่อยแต่ก็อย่างว่าแหละ แทบจะหยุดหลายกิจการเลย ยอมรับว่ายื้ออยู่แทบจะครึ่งปี ตัดสินใจ ย้ายไปอยู่ ตจว. เลยให้เพื่อนไปส่งขึ้นรถไฟ เราเลยฝากมอไซไว้กับเพื่อน ญ. คนที่เรายืมเงินนั่นแหละ ต้องยอมรับว่าเรายืมเขามาเยอะ อยู่เหมือนกันรวมแล้ว 13,000 บาท ใช้เป็นค่าเดินทางรอบแรกบินไปแบบเสียเที่ยว เพราะไม่มีใบตรวจโรคจะเข้า จะ. นั้นไม่ได้ กว่าจะรู้คืออยู่ กทม. แล้ว บินกลับมาตั้งหลักหางานจนมาถึงวันเดินทางนี่แหละ
เดือนต่อมาเราชำระค่างวดรถเสร็จ แต่ไฟแนนซ์แจ้งว่า เราชำระล่าช้า ให้นำรถไปคืน ช่วงนั้นมันช่วงโควิด เซเว่นมีล็อคดาวน์ เคอฟิว ทำให้เราต้องชำระตอนเช้าอีกวัน เลยช้า เราเลยแจ้ง เพื่อนชายให้เอารถไปคืนไฟแนนซ์ ช่วงนั้นหนี้เราเยอะตั้งใจหาฃานหาเงินอย่างเดียว ไม่อยากติดต่อใครเลย เลยเฟทตัวออก จากทุกคน พอผ่านไปสามสี่เดือนเราก็ติดต่อเพื่อนหญิง เพื่อติดต่อชำระหนี้ ปรากฏว่า เพื่อนหญิงบอกว่า เพื่อนชายเราเอารถไปแล้ว อ้างว่าเราติดหนี้มัน และไม่ต้องชำระหนี้เพราะเพื่อนชายจ่ายให้แล้ว เราบอกว่าไม่ต้องไปเอาเงินเพื่อนชายเรายินดีจ่ายคืนให้เอาเงินจากเราเถอะ ปรากฏว่าเพื่อนญ ไม่เอา ตอนนั้นยอมรับว่าโกรธมาก แทนที่จะหมดหนี้กลายเป็นติดหนี้ไฟแนนซ์แทน พยายามโทรไปถามเพื่อนชายก็ตัดสายทิ้ง พยายามบอกอย่าจ◌่◌าย เราจะจ่ายเอง แต่.... ไร้ประโยชน์ เราเคว้งงมาก พอได้คุยกับเพื่อนชายทีไร อารมณ์ขึ้นทุกที เราด่าเลย ว่าเราไม่ได้ติดเงินมัน ไม่ต้องสะเออะมาจ่ายหนี้ให้ พยายามบอกเพื่อนว่า รถไม่ใช่ของเรามันเป็นของไฟแนนซ์ แต่ต่างคนต่างไม่ฟังกันเลย เราก็ไม่ฟังอะไรล่ะ เรื่องอะไรจะจ่ายเงินมัน เราไม่ได้ขอร้อง เหมือนโดนลีบให้เป็นหนี้สองต่อ แถมมันจะเอากับเราตั้งสองหมื่นบาท บอกเลย เรื่องอะไรจะจ่าย!!! กยื้อแบบนี้แหละผ่านมาสี่ปี จะจ่ายเพื่อนหญิงก็ไม่ได้ เพื่อนชายก็จะเอาแต่เงินอย่างเดียว พูดได้คำเดียว 'กุไม่ได้เป็นหนี้แก' สุดท้าย เราท้อ จ่ายใครก็ไม่ได้ ครอบครัวเพื่อนชายก็ดูไม่เห็นใจเราเลย ว่าเราเดือดร้อน ไม่อยากเชื่อว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มอต้น เพื่อนอยากได้รถมากกว่าเรา สรุป เราตัดสินใจ ปิดหนี้ไฟแนนซ์ เลือกอนาคต ยื่นเรื่องขอลดดอกเบี้ย ปิดหนีก็เลย ตัดสินใจ โอนให้เพื่อนผู้หญิง 15000 ให้ดอกเบี้ยสองพัน เพื่อนหญิงบอกไม่เอาให้เอาไปจ่าย เพื่อนชาย แต่เราบอกว่าไม่เอา ตอนนั้นเรายอมแพ้ ยอมให้เพื่อนชาย เรียกค่าไถ่รถ ยอมเสียสองทาง พยายามติดต่อครอบครัวเพื่อนชาย ว่าจะเอาตังค์ก็ได้ ขอให้เอารถมาคืน และบอกเพื่อหญิงว่า ติดต่อมันได้ก็ให้เอารถมาคืน เพื่อนหญิงก็ว่าไม่เอา ไปลงบันทึกประจำวันว่า ขอโอนคืน ไม่เกี่ยวข้องกับเงินจำนวนนี้ ตัดสินใจจะ แจ้งความ ในเมื่อไม่ยอมจบดีๆ แต่เพื่อนเราโชคดี เราต้องกลับไปแจ้งความจังหวัดที่เกิดเหตุ ขณะที่เรากำลังดูตั๋วอยู่นั้น เพื่อนชายก็ติดต่อมา เราก็ดีใจ เพราะเราจะได้ตกลงกันสักที เราเลยพยายามอธิบายเพื่อนว่าเราเป็นหนี้ ทำให้เร่าร้อนใจในตอนนั้น สรุป เพื่อนถามว่าเราเป็นหนี้เพื่อนหญิงเท่าไหร่ เราเลยบอกความจริงว่า เราปิดหนี้แล้วตามจริง เพื่อนชายก็บอกว่า 'บ้า กุจ่ายมันตั้งสองหมื่นกว่า!! มันบอกกุว่าติดหนี้มัน ช่วงที่ติดต่อไม่ได้ กุเลยรับจบ' นั่นแหละ ถึงพากันเข้าใจ เราก็บอกมันว่า เพื่อนหญิงบอกเราแบบนี้ๆ มันเลยเข้าใจที่เราพยายามพูดมาตลอดว่าเราไม่ได้เป็นหนี้มัน มิน่า ทำไมเพื่อนหญิงเราไม่ยอมให้เราใช้หนี้ มันยังไม่รู้ว่าเราคุยกันแล้ว ร้อนตัวใหญ่ ลงบันทึกว่าจะโอนคืน แต่ก็ยังเก็บเงินไว้ แถมไปบอกเพื่อนเราว่าจะไม่โอนให้เรา แต่ก็ไม่โอนคืนเพื่อนชาย สรุป ไม่จ่ายให้ใคร เก็บเงินไว้เอง หัวหมอจนนาทีสุดท้าย เพื่อนชายเราเสียค่าโง่ สองหมื่น เราเสียค่าโง่ รวมๆแล้ว เกือบแสน ค่าปิดหนี้ ค่ายกรถกลับมา ค่าซ่อมรถและต้องเปลี่ยนหลายอย่าง ตอนแรกก็พยายามจะเอาเงินคืนจากเพื่อนหญิงอยู่หรอก แต่พอคุยไลน์ เหมือนพยายามสร้างหลักฐานเท็จ พูดพยายามให้เราตอบไปในทิศทางที่มันต้องการ เข้าออกโรงพักว่าเล่นเพื่อลงบันทึกประจำวันแล้วเอามาขู่ แถมพยายามดำเนินคดีกับเราอีกขู่อย่างนั้นอย่างนี้ ลงบันทึกว่าจะโอนคืนก็ไม่โอน พอเราให้โอนก็บอกว่าจะเอาเงินไปไว้โรงพัก แต่ไม่เอาไป สงสัยแจ้งความจับเราไม่ได้มั้ง เรากะเพื่อนว่าจะร่วมมือกันนะตอนแรก แต่ เราว่า ออกมาเถอะ อย่าคบเลยคนแบบนี้ ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก ขี้เกียจขึ้นโรงขึ้นศาล ที่จริงเรามีหลักฐานทุกอย่าง แต่เกลียดความ ตล. ของนาง ทนเห็นหน้ามันไม่ได้ ให้ทานมันไปเถอะ ออกจากนางได้คือดี จะเสียทั้งเงินทั้งเวลา สุดท้าย ก็ตัดสินใจ ออกมาจากนรกขุมนั้น เสียแล้วก็เสียไป มาเกทเอาตอนสุดท้าย มิน่านางไม่ค่อยมีใครคบ สุดท้ายของสุดท้าย ก็ขอให้นางใช้เงินหมื่นห้านั้นทั้งชีวิต
เราและครอบครัวเพื่อนชายต่างขอโทษขอโพยกัน ทางนั้นก็คงมองเราว่าไม่สำนึกบุญคุณเพื่อนน่ะนะ แต่ก็เข้าใจที่เราก็เข้าใจเขาผิดเหมือนกัน เราดีใจมากที่วันนั้นเพื่อนชายเราติดต่อมา เพราะเอะใจที่เพื่อนหญิงแค๊ปหน้าจอที่เราขอปิดหนี้พร้อมอธิบายยอดเข้าไป ด้วยว่าเวลามันนาน นางก็ลืมว่าโกงใครอะไรยังไง ป่านนี้คงยิ้มนั่งนอนใช้เงินฟรี ปล่อยนางเถอะ เราเกือบแจ้งความจับเพื่อนเรา จากที่จะเคยเรียกค่าเสียหายแต่ก็เห็นใจเพื่อนเราไง เพราะความรักเพื่อนเลยช่วย เรื่องนี้อุทาหรณ์ อย่าเชื่อใครง่าย ถามกันก่อน ติดต่อไม่ได้ก็อย่าเพิ่ง และพยายามคุยดี อย่าร้อนใจจนไม่รับฟังอะไรเลย ใช่ พวกเราควรมีสติมากกว่านี้ ---- ส่วนเราก็พยายามจะบอกเพื่อน ออกจากคนแบบนี้เถอะ ไปหาเริ่มต้นชีวิตใหม่ เงินไม่ตายหาใหม่ได้ แต่เพื่อนแท้ หายาก .
ปล. ลืมบอกนะคะว่าเพื่อนชายเราก็อยู่ต่างประเทศนะคะในช่วงที่เพื่อนติดต่อกลับมา เราก็อยู่ไกลจากที่นั่นมาก จะทำอะไรก็ลำบาก แจ้งความก็ยาก หากบินกลับก็สองต่อ ไม่รู้จะคุ้มรึเปล่าที่จะไปสู้กับคนแบบนั้น ยิ่งจ้างทนายไม่ต้องพูดถึง แน่ใจว่าจะชนะ แต่เพื่อนชายเราก็อยู่ไกลเกิน ต้องใช้เวลาดำเนินการอีก เอาเวลาไปสู้เพื่ออนาคตกันดีกว่า ชีวิตจะดีรึล่มก็อยู่กับคนที่คบนี่ล่ะค่ะ
#อย่าเอาเงินไปแลกกับคนแบบนี้
คบคนหัวหมอ สูญเสียทรัพย์โดยไม่รู้ตัว
เดือนต่อมาเราชำระค่างวดรถเสร็จ แต่ไฟแนนซ์แจ้งว่า เราชำระล่าช้า ให้นำรถไปคืน ช่วงนั้นมันช่วงโควิด เซเว่นมีล็อคดาวน์ เคอฟิว ทำให้เราต้องชำระตอนเช้าอีกวัน เลยช้า เราเลยแจ้ง เพื่อนชายให้เอารถไปคืนไฟแนนซ์ ช่วงนั้นหนี้เราเยอะตั้งใจหาฃานหาเงินอย่างเดียว ไม่อยากติดต่อใครเลย เลยเฟทตัวออก จากทุกคน พอผ่านไปสามสี่เดือนเราก็ติดต่อเพื่อนหญิง เพื่อติดต่อชำระหนี้ ปรากฏว่า เพื่อนหญิงบอกว่า เพื่อนชายเราเอารถไปแล้ว อ้างว่าเราติดหนี้มัน และไม่ต้องชำระหนี้เพราะเพื่อนชายจ่ายให้แล้ว เราบอกว่าไม่ต้องไปเอาเงินเพื่อนชายเรายินดีจ่ายคืนให้เอาเงินจากเราเถอะ ปรากฏว่าเพื่อนญ ไม่เอา ตอนนั้นยอมรับว่าโกรธมาก แทนที่จะหมดหนี้กลายเป็นติดหนี้ไฟแนนซ์แทน พยายามโทรไปถามเพื่อนชายก็ตัดสายทิ้ง พยายามบอกอย่าจ◌่◌าย เราจะจ่ายเอง แต่.... ไร้ประโยชน์ เราเคว้งงมาก พอได้คุยกับเพื่อนชายทีไร อารมณ์ขึ้นทุกที เราด่าเลย ว่าเราไม่ได้ติดเงินมัน ไม่ต้องสะเออะมาจ่ายหนี้ให้ พยายามบอกเพื่อนว่า รถไม่ใช่ของเรามันเป็นของไฟแนนซ์ แต่ต่างคนต่างไม่ฟังกันเลย เราก็ไม่ฟังอะไรล่ะ เรื่องอะไรจะจ่ายเงินมัน เราไม่ได้ขอร้อง เหมือนโดนลีบให้เป็นหนี้สองต่อ แถมมันจะเอากับเราตั้งสองหมื่นบาท บอกเลย เรื่องอะไรจะจ่าย!!! กยื้อแบบนี้แหละผ่านมาสี่ปี จะจ่ายเพื่อนหญิงก็ไม่ได้ เพื่อนชายก็จะเอาแต่เงินอย่างเดียว พูดได้คำเดียว 'กุไม่ได้เป็นหนี้แก' สุดท้าย เราท้อ จ่ายใครก็ไม่ได้ ครอบครัวเพื่อนชายก็ดูไม่เห็นใจเราเลย ว่าเราเดือดร้อน ไม่อยากเชื่อว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มอต้น เพื่อนอยากได้รถมากกว่าเรา สรุป เราตัดสินใจ ปิดหนี้ไฟแนนซ์ เลือกอนาคต ยื่นเรื่องขอลดดอกเบี้ย ปิดหนีก็เลย ตัดสินใจ โอนให้เพื่อนผู้หญิง 15000 ให้ดอกเบี้ยสองพัน เพื่อนหญิงบอกไม่เอาให้เอาไปจ่าย เพื่อนชาย แต่เราบอกว่าไม่เอา ตอนนั้นเรายอมแพ้ ยอมให้เพื่อนชาย เรียกค่าไถ่รถ ยอมเสียสองทาง พยายามติดต่อครอบครัวเพื่อนชาย ว่าจะเอาตังค์ก็ได้ ขอให้เอารถมาคืน และบอกเพื่อหญิงว่า ติดต่อมันได้ก็ให้เอารถมาคืน เพื่อนหญิงก็ว่าไม่เอา ไปลงบันทึกประจำวันว่า ขอโอนคืน ไม่เกี่ยวข้องกับเงินจำนวนนี้ ตัดสินใจจะ แจ้งความ ในเมื่อไม่ยอมจบดีๆ แต่เพื่อนเราโชคดี เราต้องกลับไปแจ้งความจังหวัดที่เกิดเหตุ ขณะที่เรากำลังดูตั๋วอยู่นั้น เพื่อนชายก็ติดต่อมา เราก็ดีใจ เพราะเราจะได้ตกลงกันสักที เราเลยพยายามอธิบายเพื่อนว่าเราเป็นหนี้ ทำให้เร่าร้อนใจในตอนนั้น สรุป เพื่อนถามว่าเราเป็นหนี้เพื่อนหญิงเท่าไหร่ เราเลยบอกความจริงว่า เราปิดหนี้แล้วตามจริง เพื่อนชายก็บอกว่า 'บ้า กุจ่ายมันตั้งสองหมื่นกว่า!! มันบอกกุว่าติดหนี้มัน ช่วงที่ติดต่อไม่ได้ กุเลยรับจบ' นั่นแหละ ถึงพากันเข้าใจ เราก็บอกมันว่า เพื่อนหญิงบอกเราแบบนี้ๆ มันเลยเข้าใจที่เราพยายามพูดมาตลอดว่าเราไม่ได้เป็นหนี้มัน มิน่า ทำไมเพื่อนหญิงเราไม่ยอมให้เราใช้หนี้ มันยังไม่รู้ว่าเราคุยกันแล้ว ร้อนตัวใหญ่ ลงบันทึกว่าจะโอนคืน แต่ก็ยังเก็บเงินไว้ แถมไปบอกเพื่อนเราว่าจะไม่โอนให้เรา แต่ก็ไม่โอนคืนเพื่อนชาย สรุป ไม่จ่ายให้ใคร เก็บเงินไว้เอง หัวหมอจนนาทีสุดท้าย เพื่อนชายเราเสียค่าโง่ สองหมื่น เราเสียค่าโง่ รวมๆแล้ว เกือบแสน ค่าปิดหนี้ ค่ายกรถกลับมา ค่าซ่อมรถและต้องเปลี่ยนหลายอย่าง ตอนแรกก็พยายามจะเอาเงินคืนจากเพื่อนหญิงอยู่หรอก แต่พอคุยไลน์ เหมือนพยายามสร้างหลักฐานเท็จ พูดพยายามให้เราตอบไปในทิศทางที่มันต้องการ เข้าออกโรงพักว่าเล่นเพื่อลงบันทึกประจำวันแล้วเอามาขู่ แถมพยายามดำเนินคดีกับเราอีกขู่อย่างนั้นอย่างนี้ ลงบันทึกว่าจะโอนคืนก็ไม่โอน พอเราให้โอนก็บอกว่าจะเอาเงินไปไว้โรงพัก แต่ไม่เอาไป สงสัยแจ้งความจับเราไม่ได้มั้ง เรากะเพื่อนว่าจะร่วมมือกันนะตอนแรก แต่ เราว่า ออกมาเถอะ อย่าคบเลยคนแบบนี้ ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก ขี้เกียจขึ้นโรงขึ้นศาล ที่จริงเรามีหลักฐานทุกอย่าง แต่เกลียดความ ตล. ของนาง ทนเห็นหน้ามันไม่ได้ ให้ทานมันไปเถอะ ออกจากนางได้คือดี จะเสียทั้งเงินทั้งเวลา สุดท้าย ก็ตัดสินใจ ออกมาจากนรกขุมนั้น เสียแล้วก็เสียไป มาเกทเอาตอนสุดท้าย มิน่านางไม่ค่อยมีใครคบ สุดท้ายของสุดท้าย ก็ขอให้นางใช้เงินหมื่นห้านั้นทั้งชีวิต
เราและครอบครัวเพื่อนชายต่างขอโทษขอโพยกัน ทางนั้นก็คงมองเราว่าไม่สำนึกบุญคุณเพื่อนน่ะนะ แต่ก็เข้าใจที่เราก็เข้าใจเขาผิดเหมือนกัน เราดีใจมากที่วันนั้นเพื่อนชายเราติดต่อมา เพราะเอะใจที่เพื่อนหญิงแค๊ปหน้าจอที่เราขอปิดหนี้พร้อมอธิบายยอดเข้าไป ด้วยว่าเวลามันนาน นางก็ลืมว่าโกงใครอะไรยังไง ป่านนี้คงยิ้มนั่งนอนใช้เงินฟรี ปล่อยนางเถอะ เราเกือบแจ้งความจับเพื่อนเรา จากที่จะเคยเรียกค่าเสียหายแต่ก็เห็นใจเพื่อนเราไง เพราะความรักเพื่อนเลยช่วย เรื่องนี้อุทาหรณ์ อย่าเชื่อใครง่าย ถามกันก่อน ติดต่อไม่ได้ก็อย่าเพิ่ง และพยายามคุยดี อย่าร้อนใจจนไม่รับฟังอะไรเลย ใช่ พวกเราควรมีสติมากกว่านี้ ---- ส่วนเราก็พยายามจะบอกเพื่อน ออกจากคนแบบนี้เถอะ ไปหาเริ่มต้นชีวิตใหม่ เงินไม่ตายหาใหม่ได้ แต่เพื่อนแท้ หายาก .
ปล. ลืมบอกนะคะว่าเพื่อนชายเราก็อยู่ต่างประเทศนะคะในช่วงที่เพื่อนติดต่อกลับมา เราก็อยู่ไกลจากที่นั่นมาก จะทำอะไรก็ลำบาก แจ้งความก็ยาก หากบินกลับก็สองต่อ ไม่รู้จะคุ้มรึเปล่าที่จะไปสู้กับคนแบบนั้น ยิ่งจ้างทนายไม่ต้องพูดถึง แน่ใจว่าจะชนะ แต่เพื่อนชายเราก็อยู่ไกลเกิน ต้องใช้เวลาดำเนินการอีก เอาเวลาไปสู้เพื่ออนาคตกันดีกว่า ชีวิตจะดีรึล่มก็อยู่กับคนที่คบนี่ล่ะค่ะ
#อย่าเอาเงินไปแลกกับคนแบบนี้