ใบไม้สีเหลือง ภูเขาสีทอง ท้องฟ้าสดใส : Takayama -Shirakawago

สวัสดีครับ ช่วงนี้คงเหมือนช่วงมีแรงบันดาลใจในการเขียน เพิ่งจะจบกระทู้ที่สวิตเซอร์แลนด์ไป รู้สึกดีใจเพราะห่างหายการเขียนมาราว 7-8 ปี กอรปกับช่วงโควิด ก็ไม่ได้เดินทางไปไหนด้วย  พอมีคนคอมเม้นต์ ก็รู้สึกดีใจว่าพันทิปยังมีคนอ่านอยู่นะ และพอมานั่งอ่านกระทู้เก่าของตัวเองมันให้อารมณ์และความรู้สึกบางส่วนตอนนั้นกลับมา


รอบนี้ขอย้ายกลับมาเขียนถึงทริปเมื่อปีที่แล้วปลายตุลาคม 2024 ที่ Hokuriku เรื่องมันเริ่มมาจากพี่สาวคนเก่งซึ่งผมนับถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นตัวยง ชวนไปดูใบไม้เปลี่ยนสี แถบ Toyama แต่ตอนนั้นใบไม้ที่ Kurobe gorge ยังไม่เปลี่ยนสีดีนัก หลังจากนั้นพี่เค้าก็บินกลับก่อนจาก Nagoya ส่วนตัวผมอยู่ตัวคนเดียวต่ออีก 3-4 วันเป็นที่มาของทริปสั้นๆแต่สวยงามที่ Takayama; Shirakawago, Kamikochi, Shinhotaka ซึ่งตอนนั้นก็ดู Forecast ฤดูใบไม้ร่วงแล้วว่าต้องสวยแน่ๆ
 
เราเริ่มจาก Nagoya  ผมซื้อ  3-day SHORYUDO Bus Pass  จริงๆ ถ้าใครอยู่ถึง 5 วันอาจจะแนะนำ แบบ 5 วันนะครับ จะครอบคลุมถึง Matsumoto  Kamikochi ด้วยครับ ผมเริ่มแต่เช้ารีบตื่นมาทานข้าวเอาแรงผมนอนที่ Superhotel Nagoya ซึ่งอยู่ใกล้ๆ สถานีเลยครับหลายๆคนคงรู้จักรร. เชนนี้อยู่แล้ว จุดเด่นคืออาหารที่มีเนือ้สัตว์เยอะกว่า Toyoko in (ปกติ เป็นแฟนพันธุ์แท้ Toyoko เลยคับ) และ บาร์ Alcohol ในช่วง Happy hours


ใช้เวลานั่งรถ ราว3 ชม. ก็ถึง Takayama อ้อ รถ bus มีแวะให้ระหว่างทางสำหรับเข้าห้องน้ำด้วยนะครับ ผมมาถึง Takayama ราว10.20 น.เลือกที่พักที่อยู่ใกล้สถานี จัดแจงฝากกระเป๋าให้เรียบร้อยแล้วออกเดินทัวร์เมือง
ผมตั้งใจเดินไปตลาดเช้า ระหว่างทางแวะ วัดฮิดะโคคุบุนจิ (Hida Kokubunji Temple) ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่โดดเด่นด้วยต้นแปะก๊วยโบราณอายุ1200ปี และเจดีย์สามชั้นสร้างขึ้นในยุคเอโดะ และถูกย้ายมาจากปราสาททาคายามะ ต้นแปะก๊วยนี้จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองสวยงามในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้เป็นจุดที่น่าสนใจในการเยี่ยมชม







เดินต่อมาอีกนิดก็ถึงตลาดเช้า Miyagawa Morning Market / 宮川朝市 ซึ่งจะปิดในช่วงเที่ยง
Miyagawa Morning Market / 宮川朝市 เป็นตลาดที่ชาวบ้านมาขายของกันยามเช้าถึงเที่ยง มีทั้งผลไม้ และผัก ที่พลาดไม่ได้คือ เนื้อฮิดะ เสียบไม้ หลายๆ คนคงรู้จักเนื้อวากิว หรือเนื้อญี่ปุ่นกันแล้วใช่ไหมครับ   เนื้อวัวฮิดะเป็นเนื้อท้องถิ่นจากเมืองทาคายามะ หนึ่งของเนื้อในตระกูลเนื้อวัวคุณภาพสูงในประเทศญี่ปุ่น ที่มีลายหินอ่อน ถูกเลี้ยงมาท่ามกลางชนบททำให้ผ่อนคลาย แต่หากกินมากๆเราเองก็เครียดได้ เพราะราคาถือว่าค่อนข้างสูง ไหนๆมาแล้วก็พลาดไม่ได้ที่จะลิ้มลองสักหน่อย  นอกจากนี้ร้านยอดฮิตอีกร้าน ก็คือกาแฟ ที่ใช้บิสกิต มาทำเป็นถัวยกาแฟโดยเค้าจะทำกาแฟใส่ถ้วยให้เรา เมื่อเราทานหมด สามารถไปขอเติมวิปครีม แล้วทานบิสกิต พร้อมมวิปครีมต่อได้สำหรับผม กาแฟถือว่า ขมเข้มจนตื่นกันเลยทีเดียว นอกจากความเพลิดเพลินของการดูของต่างๆแล้วทางเดินตลาดริมแม่น้ำ มิยากาว่ายังมีความสวยงามเอามากๆน้ำที่ใส มองเห็นปลาที่ว่ายอยู่ด้านล่าง สร้างบรรยากาศอันงดงามเลยทีเดียว















ผมใช้เวลามื้อเที่ยงที่นี่ไปเลยเพราะยังไม่ได้ทานมื้อเที่ยงเลยครับ ผมเลือกร้านราเมนเนื้อฮิดะครับ ไหนๆ มาแล้วก็ต้องกัดฟันสู้ ร้านที่เข้าไปทานเป็นสไตล์เหมือนกันกับร้านอื่นๆ คือให้หยอดเหรียญแล้วเอา Ticket ยื่นไห้ทางร้าน แล้วก็รอรับความอร่อยได้เลย สำหรับเซ๊ทที่ผมเลือกคือเลือกชุดคอมโป กับเนื้อย่างเสียบไม้เพราะเพิ่มเงินไม่เท่าไหร่  ตัวราเมนน้ำเดือดๆ โปะเนื้อฮิดะลายสายจุมเนื้อให้ได้ความสุกตามต้องการ แล้วก็จัดเลยซิครับรออะไรระหว่างทานมีกรุ๊ปคนไทยเข้ามาแต่เค้าซื้อตู้หยอดเหรียญยังไม่คล่องเลยหันไปช่วยนิดนึง เค้าก็ตกใจที่ผมเองมาเที่ยวคนเดียวเองหรอ อีกอันที่แปลกใจคือมีซอสศรีราขามาให้ทานกับเนื้อด้วยครับ แต่ตัยวผมเองถนัดเกลือเปล่าๆมากกว่า

หลังออกจากร้าน โชคดีมา มีคนมาต่อคิวมากมายดีที่ตอนมายังไม่มีคิวเลย  หลังจากนั้นผมเลือกที่จะเดินย่อยในเมือง ท้องฟ้าวันนี้สดใสมาก ทุกอย่างสวยงามไปหมด รวมถึงใบเมปิ้ลที่เปลี่ยนสีส้มแดงเช่นกัน












เดินได้สักพัก ก็ถึงเวลาแวะ Shirakawago แล้วสำหรับ ชิราคาวาโกะ หลายคนอาจชอบตอนหิมะตก อารมณ์บ้านหลังคาสูงที่มีหิมะปกคลุมแต่สำหรับผมเอง ฤดูใบไม้ร่วงนี่แหละสวยงามเป็นที่สุด  รถโดยสาร Nohi bus ไม่สามารถจองที่นั่งได้ ให้มาหน้างานเลยนะครับ แม้จะมี Pass ก็ตาม ใช้เวลาเพียง 30 นาที เราก็มาถึง  Shirakawa-go













เบื้องหลังบ้านทรงโบราณ ด้านหลังมีภูเขาที่เต็มไปด้วย ใบไม้สีเหลืองทอง ยามที่มีแสดงสาดส่องคือแทบจะเป็นสีทองเลยทีเดียวครับ นอกจากนี้ อาการยังไม่ถึงกับหนาวเย็นมาก ทำให้ยังมีดอกไม้สีสดสร้างความสวยงามกับภาพที่เห็นยิ่งนัก จุดหมายที่ตั้งใจก็คือ วิว บ้านสามหลัง ว่าแต่ทำไมต้องมุมนี้ก็ไม่รู้เนอะคับ  บ้าน 3 หลัง อยู่แทบจะท้ายหมู่บ้านทำให้ต้องเดินผ่านเมืองไปไกลเลยทีเดียว บ้าน3 หลังที่เรียงตัวกัน เมื่อถ่ายจากด้านหน้า จะเห็นเป็น รูปสมมาตร สำหรับที่นี่ในฤดูนี้ ใช้คำว่าสวยๆๆๆ ได้เปลืองยิ่งนัก




นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าชมบ้านต่างๆ ด้านในได้ครับ โดยมีลักษณะเป็นบ้านโบราณ แสดงถึง ของใช้และการใช้ชีวิตในอดีต เช่น บ้านนักธอผ้า ก็จะมีป่าน มีที่เลี้ย่งไหม หรือที่ปั่นด้าย  มีที่เก็บสะเบียง มีห้องที่ไว้นั่งก่อกองไฟ ทานอาหารหรือปรุงอาหาร  โดยผมเองเลือกบ้านที่เป็นผู้ดูแลศาลเจ้าข้างๆ ถือว่าสวยงามไม่แพ้กัน












เรียกได้ว่าถ้าเข้าชมทุกบ้านใช้เวลานานแน่นๆผมเองก็เดินเพลินเพลินไปกับบรรยากาศต่างๆจนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 4 ชม.เลยทีเดียว










สำหรับมื้อดึกไม่พลาดกับ เนื้อฮิดะ หม้อไฟ ถือว่าอร่อยเลยนะครับแม้จะราคาสูงก็ตาม ร้านที่เลือกก็เลือกแบบติดโรงแรมคนไม่เยอะ ส่วนร้านดังคนต่อคิวกันยาวมาก แต่ไมเหมาะกับอากาศหนาวแบบนี้หรอกคับที่จะมาต่อคิว หาอะไรร้อนๆทานให้อุ่นท้องดีกว่า หลังจากนั้นก็เดินย่อยในเมืองเก็บบรรยากาศยามค่ำคืนตบท้ายด้วย 7-11 สำหรับหาอะไรกินจุกจิกเผื่อหิว









แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่