2006.11.06 ~ 2025.11.06
💙LEETEUK
ว้าว!! เหลือเชื่อจริงๆ!! บ้าไปแล้ว!!
รู้สึกเหมือนเพิ่งเดบิวต์ได้ไม่นานเอง แต่เวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้แล้วเหรอ
ทุกปีผมก็เอาแต่พูดคำว่า “ขอบคุณ” ซ้ำๆ มาทุกปี
ตอนนี้ซูจูกลายเป็นผู้ใหญ่ อายุ 20 ปีแล้วนะ
ปีนี้ก็เหมือนเดิม อยากจะบอกว่า ฝากตัวด้วยนะ ขอบคุณมากนะ
และจากนี้ไปก็ฝากตัวด้วยอีกครั้งนะ
ขอบคุณที่ทำให้ในตอนที่คิดว่าคงมาถึงแค่นี้แล้ว
ยังสามารถวาดอนาคตใหม่ไปด้วยกันได้!
ขอให้เรามีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุข แล้วก้าวเดินต่อไปด้วยกันนะ!
รักนะ!! เอลฟ์ เพื่อนนิรันดร์ของผม!! รักมากเลย♡
💙HEECHUL
ลืม ฮีนิม ลูกรักที่เดาไม่ได้ว่าจะไปทางไหนคนนั้นไปได้เลย!!
เนื่องในวาระครบรอบ 20 ปี ผมได้ถือกำเนิดใหม่แล้ว
ตั้งแต่นี้ไป ขอให้เรียกผมว่า "ฮีนิมที่คิดถึงแต่ซูจูและเอลฟ์" หรือ "Second Heenim" !!
💙YESUNG
ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ได้รับความรักมา ขอบคุณและมีความสุขกับทุกช่วงเวลามากเลยครับ ทุกอย่างเป็นเพราะทุกคน~♡
💙SHINDONG
สุขสันต์วันครบรอบ 20 ปีนะ E.L.F.
ขอบคุณพวกคุณ เราถึงเดินมาได้ตลอด 20 ปีนี้~ ฝากดูแลกันต่อไปด้วยนะ~ ขอบคุณนะ~♡
💙EUNHYUK
เมื่อ 20 ปีก่อน พวกเรามักจะรู้สึกไม่มั่นคงและกังวลอยู่เสมอ
แต่หลังจากได้พบกับ E.L.F. ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริงๆ
“ในช่วงเวลาที่ได้พบเธอครั้งแรก oh Miracle ฉันรู้เลยว่าปาฏิหาริย์นั้นคือเธอ!”
เหมือนกับเนื้อเพลงนี้เลย การที่เราได้พบกันคือปาฏิหาริย์จริงๆ
ขอบคุณมากๆ ที่เลือกพวกเรา และอยู่เคียงข้างกันมานานแสนนาน!!
ถึงตอนนี้พวกเรายังมีอะไรที่ไม่สมบูรณ์แบบอีกเยอะ
แต่จะพยายามให้มากขึ้น เพื่อเป็น Super Junior ที่พวกคุณภูมิใจให้ได้!
ขอบคุณเสมอ และรักมากนะ♡
สุดท้ายแล้ว… Super Junior — The Last Man Standing!
💙DONGHAE
เอลฟ์
พอคิดดูแล้วนะ
ถึงจะบอกว่าเป็นเวลา 20 ปี แต่ผมว่ามันคือปาฏิหาริย์จริงๆ
ผมจะตั้งใจทำให้ดียิ่งกว่านี้ เพราะงั้น…ไปต่อกันอีก 20 ปีดีไหม?
รอคำตอบอยู่นะ!
💙SIWON
ขอบคุณทุกคนจากใจจริง ที่ร่วมเดินทางเคียงข้างกันมาโดยไม่เปลี่ยนแปลงตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
เพราะมีทุกคนอยู่ด้วย ถึงได้มี “พวกเรา” ในวันนี้
และจากนี้ไปก็จะร่วมกันสร้างอนาคตต่อไปด้วยกันนะครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
💙RYEOWOOK
E.L.F. สุขสันต์วันครบรอบ 20 ปี และขอบคุณมากจริงๆ
มีความสุขและรู้สึกขอบคุณที่ได้มาพบกันในฐานะ Super Junior
เราจะอยู่เคียงข้างกันเสมอ และจากนี้ไปก็จะรักกันต่อไปนะ
💙KYUHYUN
ขอบคุณมากนะครับ ที่ได้ร่วมฉลองครบรอบ 20 ปีไปด้วยกัน
ขอให้เราดูแลสุขภาพและร่างกายให้แข็งแรง
เพื่อจะได้พบกันไปนานๆ เลยนะครับ
ผมจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดบนเวที! รักทุกคนครับ
💌จดหมายจาก SIWON
(6 ภาษา)
นานแล้วสินะครับที่เราไม่ได้เจอกัน?
วันนี้ผมเผลอหยิบปากกาขึ้นมา เพราะคิดถึงทุกคน และอยากรู้ว่าทุกคนสบายดีกันไหม ความรู้สึกโหยหาอดีตมันก็เอ่อล้นขึ้นมาเอง
ตั้งแต่จดหมายฉบับสุดท้ายที่ผมเขียนไว้ตอนรับราชการ ผ่านมาหลายฤดูกาลแล้วนะครับ ความทรงจำมากมายย้อนกลับมาในหัว
เมื่อมองย้อนกลับไป ตั้งแต่ปี 2005 เวลาผ่านมา 20 ปีแล้ว 20 ปีแห่งการหัวเราะ ร้องไห้ และเติบโตไปด้วยกัน
ผมอยากขอบคุณจากใจจริง ต่อทุกคนที่รอคอยและสนับสนุนผมด้วยความมั่นคงเสมอมา
ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง ฤดูที่ใครๆ เรียกว่า “ฤดูแห่งความโดดเดี่ยว”
แต่สำหรับผม มันก็เป็นฤดูที่ความโรแมนติกยังคงหายใจอยู่เช่นกัน
แม้ในโลกที่ดูเหมือนว่าความรักจะค่อยๆ จางหายไป แต่หัวใจของพวกคุณกลับยังคงอบอุ่นเสมอ
และเพราะความอบอุ่นนั้นเอง ทำให้ผม รวมถึงอีกหลายคน สามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
และได้เรียนรู้ที่จะรักอย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม
ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ผมขอให้ทุกๆ วันของทุกคนเต็มไปด้วยความสุข
และขอให้ความสุขนั้นต่อยอดไปสู่ฤดูกาลใหม่ที่อบอุ่นและงดงาม
ขอบคุณเสมอครับ รักทุกคนเสมอ
ขอแสดงความยินดีในวาระครบรอบ 20 ปีของเรา
ด้วยความรักและความจริงใจเสมอ
ชเว ชี วอน
💌จดหมายจาก EUNHYUK
เอลฟ์ที่รักของพวกเรา สวัสดีครับ!
นานมากเลยนะครับที่ไม่ได้เขียนจดหมายด้วยลายมือแบบนี้
เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีของซูเปอร์จูเนียร์ ผมก็คิดอยู่หลายครั้งมาก ว่าจะมอบของขวัญอะไรให้ทุกคนดี แต่ไม่ว่าของขวัญจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็คงเทียบไม่ได้กับความรักอันยิ่งใหญ่ที่พวกคุณมอบให้พวกเรามาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
เพราะอย่างนั้น ผมเลยคิดว่า การเขียนจดหมายใส่ความรู้สึกจากใจแบบนี้ อาจเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้วครับ
ในจดหมายนี้ ผมอยากจะเล่าเรื่องของตัวเองให้ทุกคนฟังสักหน่อย เรื่องที่ปกติไม่ค่อยได้พูดออกไป... ได้ไหมครับ?
ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าผมเริ่มเต้นตั้งแต่อายุ 10 ขวบ และตอนอายุ 13 ผมก็เริ่มมีความฝันอยากเป็นนักร้อง ชีวิตของผมคงเริ่มต้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ผ่านความสำเร็จและความล้มเหลว ทั้งใหญ่และเล็กในวัยเด็ก ได้ประสบการณ์มากมายที่ไม่ค่อยมีเด็กในวัยนั้นได้เจอ
แล้วตอนอายุ 15 ผมก็ได้เข้าเป็นเด็กฝึกในค่าย SM ซึ่งระหว่างเป็นเด็กฝึกนั้นแน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลย
แต่ด้วยนิสัยที่มองโลกในแง่ดีและเชื่อมั่นในตัวเอง ผมเลยไม่ยอมแพ้หรือหมดกำลังใจง่ายๆ และใช้ชีวิตในฐานะเด็กฝึกด้วยความมั่นใจว่าซักวันหนึ่ง “ฉันจะต้องทำได้ดีแน่ๆ”
หลังจากฝึกมานาน 6 ปี ในที่สุดผมก็ได้เปิดตัวในชื่อ “อึนฮยอก ซูเปอร์จูเนียร์” และได้พบกับพวกคุณเป็นครั้งแรกครับ
ในเพลง Miracle ของพวกเรามีท่อนหนึ่งที่ผมชอบมากคือ “너를 처음 본 순간 oh Miracle!” (“ตอนที่ได้เจอเธอครั้งแรก oh Miracle!”)
ผมรู้สึกว่าท่อนนี้มันเหมือนบอกเล่าช่วงเวลาที่ผมได้พบกับทุกคนเป็นครั้งแรกเลยครับ
หลังจากเดบิวต์ ทีมของเราถูกเรียกว่า “ทีมที่ทำงานตลอดทั้งปี” เพราะแทบจะไม่ได้หยุดพักเลย
ในตอนนั้นผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองได้รับความรักมากแค่ไหน และสิ่งนั้นมันมีค่ามากเพียงใด
ไม่ได้มีเวลาจะหยุดคิด หยุดมองย้อนกลับไป หรือแม้แต่จะมีเวลาซึมซับช่วงเวลานั้นอย่างเต็มที่เลย
และผมก็ไม่เคยคิดเลยว่าเราจะมาไกลได้ถึง 20 ปี และยังคงได้รับความรักมากมายขนาดนี้
เพราะจริงๆ แล้วตอนแรกพวกเราเดบิวต์ในฐานะ “โปรเจกต์กรุ๊ป” ด้วยซ้ำ
ถึงจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็มีเรื่องยากลำบากไม่น้อยเหมือนกัน
ทุกวันในตอนนั้นจึงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เหมือนกำลังเดินอยู่บนเชือกเส้นเดียว
เพราะแบบนั้น ผมเลยยิ่งรู้สึกขอบคุณเอลฟ์ทุกคน ที่อดทนและเดินเคียงข้างพวกเรามาตลอด
แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็รู้สึก “ขอโทษ” อยู่เสมอด้วยเหมือนกันครับ
ตอนนี้ผมรู้สึกว่าพวกเราได้ผ่านเรื่องราวมากมายตลอด 20 ปี และเหมือนกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่มั่นคงแล้ว
พวกเราทุกคนต่างรู้ดีว่ากันและกันเป็นคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ เป็นทั้งเพื่อนและครอบครัวที่ใกล้ชิดที่สุด
โดยเฉพาะในทัวร์ Super Show ครบรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ผมมีความสุขและสนุกมากจริงๆ
ถ้ามองย้อนกลับไป ช่วงพีคที่สุดของพวกเราอาจเป็นหลังจากปล่อยเพลง Sorry Sorry ได้สัก 2–3 ปี
แต่พูดตรงๆ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเอง “มีความสุขกว่าในตอนนั้น” อีกครับ
ตอนนี้ผมรู้สึกได้จริงๆ ว่าพวกคุณรักและห่วงใยพวกเรามากแค่ไหน
และเมื่อรู้ว่าพวกเรามีความหมายต่อชีวิตของเอลฟ์แต่ละคนมากเพียงใด ผมก็ได้ตระหนักอีกครั้งว่า
“ซูเปอร์จูเนียร์และเอลฟ์ก็เป็นส่วนสำคัญมากในชีวิตของผมเช่นกัน”
แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็แอบกังวลอยู่บ้างเหมือนกันครับ
หลังจากช่วงเวลาแห่งความสุขของครบรอบ 20 ปีนี้ผ่านไป… แล้วต่อจากนั้นล่ะ?
ถึงจะไม่ใช่ว่าพวกเราจะหยุดทำกิจกรรมหลังจากนี้ แต่ผมก็แอบคิดว่า
“เราจะยังมีช่วงเวลาที่มีความสุขเท่านี้ได้อีกไหมนะ?”
เลยรู้สึกเสียดายที่เวลานี้กำลังจะผ่านไป
และในตอนนี้ ผมก็เริ่มรู้สึกถึงเรื่องจริงของชีวิตมากขึ้น
ระหว่างทัวร์ที่ผ่านมา ผมได้รู้ว่าร่างกายไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
หลายอย่างบนเวทีที่อยากจะแสดงออก ก็ไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจคิด
เลยมีคำถามในใจว่า “เราจะสามารถยืนอยู่บนเวทีได้อีกนานแค่ไหนกันนะ?”
พูดตามตรงเลยนะครับ ถ้าวันหนึ่งผมมองตัวเองบนเวทีแล้วรู้สึกว่า “ไม่เท่” อีกต่อไป
ผมก็คงอยากจะวางไมค์ลงด้วยความภูมิใจมากกว่าฝืนยืนอยู่ตรงนั้น
แต่เพราะแบบนั้น ผมถึงยิ่งต้องพยายามดูแลตัวเอง และตั้งใจคิดเรื่องดนตรี การร้อง การเต้นให้มากขึ้น
ถึงแม้จะไม่สามารถรับประกันอะไรได้ก็ตาม
สุดท้ายสิ่งที่ผมสรุปได้จากใจคือ
ผมอยากตอบแทนความรักที่ได้รับจากพวกคุณให้มากที่สุด
อยากมอบกลับไปให้โดยไม่เหลือความเสียใจหรือเสียดายเลย
ผมรู้ดีว่าทุกช่วงเวลาและความรักที่พวกคุณมอบให้มันไม่ใช่สิ่งง่ายๆ
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพลง เวที หรือสิ่งใดที่ผมมอบให้พวกคุณ
ผมจะทำมันด้วยความจริงใจที่สุด เพื่อมอบให้เป็นของขวัญจากใจจริงๆ
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา พวกเราอาจจะยังไม่โตพอ เคยสร้างปัญหา และมีข้อบกพร่องมากมาย
แต่ขอบคุณจริงๆ ที่ยังรักและอยู่เคียงข้างซูเปอร์จูเนียร์เสมอมา
จากนี้ไปก็ฝากตัวด้วยนะครับ และเรามาสร้างความทรงจำสวยๆ ด้วยกันอีกเยอะๆ เลยนะ
สุดท้ายนี้…
เอลฟ์ของพวกเรา ขอบคุณเสมอ และรักมากจริงๆ ครับ 💙
2025.11.6
อึนฮยอก
ข้อความจาก Super Junior ถึง E.L.F. สำหรับวันครบรอบ 20 ปี💌💙
รู้สึกเหมือนเพิ่งเดบิวต์ได้ไม่นานเอง แต่เวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้แล้วเหรอ
ทุกปีผมก็เอาแต่พูดคำว่า “ขอบคุณ” ซ้ำๆ มาทุกปี
ตอนนี้ซูจูกลายเป็นผู้ใหญ่ อายุ 20 ปีแล้วนะ
ปีนี้ก็เหมือนเดิม อยากจะบอกว่า ฝากตัวด้วยนะ ขอบคุณมากนะ
และจากนี้ไปก็ฝากตัวด้วยอีกครั้งนะ
ขอบคุณที่ทำให้ในตอนที่คิดว่าคงมาถึงแค่นี้แล้ว
ยังสามารถวาดอนาคตใหม่ไปด้วยกันได้!
ขอให้เรามีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุข แล้วก้าวเดินต่อไปด้วยกันนะ!
รักนะ!! เอลฟ์ เพื่อนนิรันดร์ของผม!! รักมากเลย♡
เนื่องในวาระครบรอบ 20 ปี ผมได้ถือกำเนิดใหม่แล้ว
ตั้งแต่นี้ไป ขอให้เรียกผมว่า "ฮีนิมที่คิดถึงแต่ซูจูและเอลฟ์" หรือ "Second Heenim" !!
ขอบคุณพวกคุณ เราถึงเดินมาได้ตลอด 20 ปีนี้~ ฝากดูแลกันต่อไปด้วยนะ~ ขอบคุณนะ~♡
แต่หลังจากได้พบกับ E.L.F. ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริงๆ
“ในช่วงเวลาที่ได้พบเธอครั้งแรก oh Miracle ฉันรู้เลยว่าปาฏิหาริย์นั้นคือเธอ!”
เหมือนกับเนื้อเพลงนี้เลย การที่เราได้พบกันคือปาฏิหาริย์จริงๆ
ขอบคุณมากๆ ที่เลือกพวกเรา และอยู่เคียงข้างกันมานานแสนนาน!!
ถึงตอนนี้พวกเรายังมีอะไรที่ไม่สมบูรณ์แบบอีกเยอะ
แต่จะพยายามให้มากขึ้น เพื่อเป็น Super Junior ที่พวกคุณภูมิใจให้ได้!
ขอบคุณเสมอ และรักมากนะ♡
สุดท้ายแล้ว… Super Junior — The Last Man Standing!
ถึงจะบอกว่าเป็นเวลา 20 ปี แต่ผมว่ามันคือปาฏิหาริย์จริงๆ
ผมจะตั้งใจทำให้ดียิ่งกว่านี้ เพราะงั้น…ไปต่อกันอีก 20 ปีดีไหม?
เพราะมีทุกคนอยู่ด้วย ถึงได้มี “พวกเรา” ในวันนี้
และจากนี้ไปก็จะร่วมกันสร้างอนาคตต่อไปด้วยกันนะครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
มีความสุขและรู้สึกขอบคุณที่ได้มาพบกันในฐานะ Super Junior
เพื่อจะได้พบกันไปนานๆ เลยนะครับ
ผมจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดบนเวที! รักทุกคนครับ
วันนี้ผมเผลอหยิบปากกาขึ้นมา เพราะคิดถึงทุกคน และอยากรู้ว่าทุกคนสบายดีกันไหม ความรู้สึกโหยหาอดีตมันก็เอ่อล้นขึ้นมาเอง
ตั้งแต่จดหมายฉบับสุดท้ายที่ผมเขียนไว้ตอนรับราชการ ผ่านมาหลายฤดูกาลแล้วนะครับ ความทรงจำมากมายย้อนกลับมาในหัว
เมื่อมองย้อนกลับไป ตั้งแต่ปี 2005 เวลาผ่านมา 20 ปีแล้ว 20 ปีแห่งการหัวเราะ ร้องไห้ และเติบโตไปด้วยกัน
ผมอยากขอบคุณจากใจจริง ต่อทุกคนที่รอคอยและสนับสนุนผมด้วยความมั่นคงเสมอมา
ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง ฤดูที่ใครๆ เรียกว่า “ฤดูแห่งความโดดเดี่ยว”
แต่สำหรับผม มันก็เป็นฤดูที่ความโรแมนติกยังคงหายใจอยู่เช่นกัน
แม้ในโลกที่ดูเหมือนว่าความรักจะค่อยๆ จางหายไป แต่หัวใจของพวกคุณกลับยังคงอบอุ่นเสมอ
และเพราะความอบอุ่นนั้นเอง ทำให้ผม รวมถึงอีกหลายคน สามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
และได้เรียนรู้ที่จะรักอย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม
ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ผมขอให้ทุกๆ วันของทุกคนเต็มไปด้วยความสุข
และขอให้ความสุขนั้นต่อยอดไปสู่ฤดูกาลใหม่ที่อบอุ่นและงดงาม
ขอบคุณเสมอครับ รักทุกคนเสมอ
ขอแสดงความยินดีในวาระครบรอบ 20 ปีของเรา
ด้วยความรักและความจริงใจเสมอ
นานมากเลยนะครับที่ไม่ได้เขียนจดหมายด้วยลายมือแบบนี้
เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีของซูเปอร์จูเนียร์ ผมก็คิดอยู่หลายครั้งมาก ว่าจะมอบของขวัญอะไรให้ทุกคนดี แต่ไม่ว่าของขวัญจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็คงเทียบไม่ได้กับความรักอันยิ่งใหญ่ที่พวกคุณมอบให้พวกเรามาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
เพราะอย่างนั้น ผมเลยคิดว่า การเขียนจดหมายใส่ความรู้สึกจากใจแบบนี้ อาจเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้วครับ
ในจดหมายนี้ ผมอยากจะเล่าเรื่องของตัวเองให้ทุกคนฟังสักหน่อย เรื่องที่ปกติไม่ค่อยได้พูดออกไป... ได้ไหมครับ?
ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าผมเริ่มเต้นตั้งแต่อายุ 10 ขวบ และตอนอายุ 13 ผมก็เริ่มมีความฝันอยากเป็นนักร้อง ชีวิตของผมคงเริ่มต้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ผ่านความสำเร็จและความล้มเหลว ทั้งใหญ่และเล็กในวัยเด็ก ได้ประสบการณ์มากมายที่ไม่ค่อยมีเด็กในวัยนั้นได้เจอ
แล้วตอนอายุ 15 ผมก็ได้เข้าเป็นเด็กฝึกในค่าย SM ซึ่งระหว่างเป็นเด็กฝึกนั้นแน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลย
แต่ด้วยนิสัยที่มองโลกในแง่ดีและเชื่อมั่นในตัวเอง ผมเลยไม่ยอมแพ้หรือหมดกำลังใจง่ายๆ และใช้ชีวิตในฐานะเด็กฝึกด้วยความมั่นใจว่าซักวันหนึ่ง “ฉันจะต้องทำได้ดีแน่ๆ”
หลังจากฝึกมานาน 6 ปี ในที่สุดผมก็ได้เปิดตัวในชื่อ “อึนฮยอก ซูเปอร์จูเนียร์” และได้พบกับพวกคุณเป็นครั้งแรกครับ
ในเพลง Miracle ของพวกเรามีท่อนหนึ่งที่ผมชอบมากคือ “너를 처음 본 순간 oh Miracle!” (“ตอนที่ได้เจอเธอครั้งแรก oh Miracle!”)
ผมรู้สึกว่าท่อนนี้มันเหมือนบอกเล่าช่วงเวลาที่ผมได้พบกับทุกคนเป็นครั้งแรกเลยครับ
หลังจากเดบิวต์ ทีมของเราถูกเรียกว่า “ทีมที่ทำงานตลอดทั้งปี” เพราะแทบจะไม่ได้หยุดพักเลย
ในตอนนั้นผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองได้รับความรักมากแค่ไหน และสิ่งนั้นมันมีค่ามากเพียงใด
ไม่ได้มีเวลาจะหยุดคิด หยุดมองย้อนกลับไป หรือแม้แต่จะมีเวลาซึมซับช่วงเวลานั้นอย่างเต็มที่เลย
และผมก็ไม่เคยคิดเลยว่าเราจะมาไกลได้ถึง 20 ปี และยังคงได้รับความรักมากมายขนาดนี้
เพราะจริงๆ แล้วตอนแรกพวกเราเดบิวต์ในฐานะ “โปรเจกต์กรุ๊ป” ด้วยซ้ำ
ถึงจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็มีเรื่องยากลำบากไม่น้อยเหมือนกัน
ทุกวันในตอนนั้นจึงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เหมือนกำลังเดินอยู่บนเชือกเส้นเดียว
เพราะแบบนั้น ผมเลยยิ่งรู้สึกขอบคุณเอลฟ์ทุกคน ที่อดทนและเดินเคียงข้างพวกเรามาตลอด
แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็รู้สึก “ขอโทษ” อยู่เสมอด้วยเหมือนกันครับ
ตอนนี้ผมรู้สึกว่าพวกเราได้ผ่านเรื่องราวมากมายตลอด 20 ปี และเหมือนกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่มั่นคงแล้ว
พวกเราทุกคนต่างรู้ดีว่ากันและกันเป็นคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ เป็นทั้งเพื่อนและครอบครัวที่ใกล้ชิดที่สุด
โดยเฉพาะในทัวร์ Super Show ครบรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ผมมีความสุขและสนุกมากจริงๆ
ถ้ามองย้อนกลับไป ช่วงพีคที่สุดของพวกเราอาจเป็นหลังจากปล่อยเพลง Sorry Sorry ได้สัก 2–3 ปี
แต่พูดตรงๆ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเอง “มีความสุขกว่าในตอนนั้น” อีกครับ
ตอนนี้ผมรู้สึกได้จริงๆ ว่าพวกคุณรักและห่วงใยพวกเรามากแค่ไหน
และเมื่อรู้ว่าพวกเรามีความหมายต่อชีวิตของเอลฟ์แต่ละคนมากเพียงใด ผมก็ได้ตระหนักอีกครั้งว่า
“ซูเปอร์จูเนียร์และเอลฟ์ก็เป็นส่วนสำคัญมากในชีวิตของผมเช่นกัน”
แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็แอบกังวลอยู่บ้างเหมือนกันครับ
หลังจากช่วงเวลาแห่งความสุขของครบรอบ 20 ปีนี้ผ่านไป… แล้วต่อจากนั้นล่ะ?
ถึงจะไม่ใช่ว่าพวกเราจะหยุดทำกิจกรรมหลังจากนี้ แต่ผมก็แอบคิดว่า
“เราจะยังมีช่วงเวลาที่มีความสุขเท่านี้ได้อีกไหมนะ?”
เลยรู้สึกเสียดายที่เวลานี้กำลังจะผ่านไป
และในตอนนี้ ผมก็เริ่มรู้สึกถึงเรื่องจริงของชีวิตมากขึ้น
ระหว่างทัวร์ที่ผ่านมา ผมได้รู้ว่าร่างกายไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
หลายอย่างบนเวทีที่อยากจะแสดงออก ก็ไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจคิด
เลยมีคำถามในใจว่า “เราจะสามารถยืนอยู่บนเวทีได้อีกนานแค่ไหนกันนะ?”
พูดตามตรงเลยนะครับ ถ้าวันหนึ่งผมมองตัวเองบนเวทีแล้วรู้สึกว่า “ไม่เท่” อีกต่อไป
ผมก็คงอยากจะวางไมค์ลงด้วยความภูมิใจมากกว่าฝืนยืนอยู่ตรงนั้น
แต่เพราะแบบนั้น ผมถึงยิ่งต้องพยายามดูแลตัวเอง และตั้งใจคิดเรื่องดนตรี การร้อง การเต้นให้มากขึ้น
ถึงแม้จะไม่สามารถรับประกันอะไรได้ก็ตาม
สุดท้ายสิ่งที่ผมสรุปได้จากใจคือ
ผมอยากตอบแทนความรักที่ได้รับจากพวกคุณให้มากที่สุด
อยากมอบกลับไปให้โดยไม่เหลือความเสียใจหรือเสียดายเลย
ผมรู้ดีว่าทุกช่วงเวลาและความรักที่พวกคุณมอบให้มันไม่ใช่สิ่งง่ายๆ
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพลง เวที หรือสิ่งใดที่ผมมอบให้พวกคุณ
ผมจะทำมันด้วยความจริงใจที่สุด เพื่อมอบให้เป็นของขวัญจากใจจริงๆ
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา พวกเราอาจจะยังไม่โตพอ เคยสร้างปัญหา และมีข้อบกพร่องมากมาย
แต่ขอบคุณจริงๆ ที่ยังรักและอยู่เคียงข้างซูเปอร์จูเนียร์เสมอมา
จากนี้ไปก็ฝากตัวด้วยนะครับ และเรามาสร้างความทรงจำสวยๆ ด้วยกันอีกเยอะๆ เลยนะ
สุดท้ายนี้…
เอลฟ์ของพวกเรา ขอบคุณเสมอ และรักมากจริงๆ ครับ 💙
2025.11.6
อึนฮยอก