ต้องขอเกริ่นก่อนนะคะว่า แม่ๆที่ท้องอาจจะหาข้อมูลมาว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับเราเองแล้วนั้นหนักกว่าปกติมากค่ะ
เราเป็นคนที่ท้องผูกอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนท้อง กินอาหารปกติก็ท้องผูกขับถ่ายยากตั้งแต่เด็กเลยแม่บอก แต่มาหนักขึ้นตอนเราหันมากินคีโตเพื่อลดนน. โดยอึเป็นเหมือนก้อนกระสุนแข็งมากจนเบ่งไม่ออก ต้องรีบไปรพ. ก็ได้รักษาริดสีดวงควบคู่กับรักษาระบบขับถ่าย เราไปหาหมอมาที่นึง หมอวินิจฉัยว่าเป็นลำไส้ขี้เกียจ แล้วให้ยามากิน และก็ต้องเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันโดยต้องตื่นเช้ามาทานอาหารเช้าเสร็จแล้วต้องไปนั่งห้องน้ำประมาณ 5-10 นาที กินนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตทุกวันเช้าเย็น พอเรารักษาอาการเราก็ดีขึ้น หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ไปหาหมออีก เพราะอาการขับถ่ายดีขึ้น และพอเราติดโควิด อาการขับถ่ายก็ยิ่งดีขึ้น ถ้าไม่ถ่ายเกิน 2-3 วัน กินนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตเราก็จะถ่ายเป็นปกติ ซึ่งตอนเป็นโควิดเราก็รักษากับหมอคนเดิม แล้วได้ถามว่าไม่ต้องกินยาแล้วใช่ไหมเพราะอาการขับถ่ายทุกๆ 2-3 วัน ถ้าไม่ถ่ายกินนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตก็ถ่าย หมอบอกได้เลย อย่าลืมกินนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตเติมจุลินทรีย์อยู่ด้วยนะ และทำกิจวัตรประจำวันด้วย เราเลยไม่ได้กินยาแล้วตอนนั้น
จนมาถึง… วันที่เราท้องได้ 8 สัปดาห์ มันกลับมาอีกครั้ง อาการท้องผูกรุนแรงกลับมา เบ่งไม่ออก แข็งมาก ซึ่งจริงๆแล้วห้ามคนท้องห้ามเบ่งอึรุนแรงหรือเบ่งแรงๆ แต่ตอนนั้นเราไม่ไหวอาการมันแย่มากจริงๆก็เบ่งเต็มแรงเลย แต่ก็ยังไม่ออกจนเราเป็นลมในห้องน้ำ ดีที่เราไม่ได้ล๊อคประตูไว้แล้วเลยเรียกให้ญาติมาเปิดประตูห้องน้ำแง้มๆเพื่อจะได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นแต่ก็ไม่ช่วยอะไร เราออกจากห้องน้ำไม่ได้เพราะมันไม่ยอมออกและไม่ยอมกลับเข้าไป เราตั้งสติหยิบมือถือเสิชในเนต อ่านเจอวิธีการช่วยตัวเองคือต้องเอานิ้วแคะออกมา เราก็ต้องทำเพราะเป็นลมไม่ไหว นั่งต่อไม่ไหวแต่ก้อนอึไม่ยอมออกเลยสักนิด มันคาอยู่ที่รูก้นไม่สามารถขมิบเพื่อให้มันกลับเข้าไปหรือออกมาได้เลย หลังจากนั้นก็กินทุกอย่างตามในเนตบอกว่าจะช่วยทั้งยาระบายมะขามแขก มะขาม พรุน น้ำผักปั่นต่างๆ วันรุ่งขึ้นมีอาการปวดอึก็เข้าไปอึ ก็เป็นแบบเดิมอีก คราวนี้ไม่เป็นลมแต่เกือบจะเป็นลม เราก็ต้องช่วยตัวเองก่อนก่อนที่จะเป็นลมอีกรอบ สุดท้ายไม่ไหวจริงๆเราก็ไปหาหมอที่เราเคยรักษาทันที เราได้ยามาเป็นยาชุดเดิมที่คุ้นเคย มียาระบาย Forlax ด้วยที่เราเคยกิน หมอให้เรากินเช้าและเย็น อาการก็ดีขึ้นมาก คนท้องจะมีอาการแน่นท้องร่วมด้วย ถ้ายิ่งเราขับถ่ายไม่ออกมันทำให้ระบบรวนและแน่นท้องมากขึ้น แม่ๆคงสงสัยทำไมไม่กินผักเยอะๆ น้ำผัก พรุน มะขาม ยาระบายมะขามแขก คือเราลองมาหมดแล้วค่ะ แต่ธาตุเราคงหนัก ทั้งหมดที่เราหาในเนตและมาลองคือไม่ช่วยเราเลย สิ่งเดียวที่ช่วยคือไปหาหมอจริงๆค่ะ นอกจากยาชุดเดิมที่เราได้กิน เราก็ต้องกลับมากินนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตแบบเดิม แต่ช่วงแรกกินเช้าเย็นเลยค่ะ นั่งห้องน้ำแบบเดิมแต่เปลี่ยนจากเช้าอย่างเดียวเป็นนั่งเช้าเย็น 5-10 นาที เพิ่มเติมคือแม่ต้องเดินเยอะๆทั้งหลังกินอาหารแต่ละมื้อ และตอนเย็นเดินเพื่อให้ลำไส้ได้ทำงานค่ะ
ในการรักษาของเรายังคงต้องไปพบหมอเป็นประจำ หมอแจ้งว่ายิ่งท้องอายุครรภ์เยอะช่วงไตรมาส 2,3 จะยิ่งท้องผูกหนักขึ้นนะ คงต้องดูแลกันไปจนกว่าจะคลอด หลังคลอดยังมีอาการพวกนี้อยู่ได้ เราได้เจอกันยาวๆแน่คุณแม่ ยังไงถ้าแม่ๆคนไหนเจอแบบเดียวกันกับเราอย่าซื้อยาทานเองนะคะ ควรจะไปพบหมอเพื่อให้หมอวินิจฉัยแล้วรักษาร่วมกันค่ะ เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะไม่ได้ท้องผูกหนักแบบเรา ถ้าเกิดซื้อทานเองแล้วอาจจะท้องเสียหนักแล้วจะกระทบกับเด็กได้นะคะ สุดท้ายนี้ขอส่งกำลังใจให้แม่ๆทุกคน ที่ต้องเผชิญกับอาการท้องผูกรุนแรงและแน่นท้องมากๆจนกินไม่ได้ นน.ลดด้วยนะคะ คุณไม่ได้เป็นคนเดี่ยวไม่โดดเดี่ยวแน่นอนค่ะ อย่างน้อยก็มีเราที่เป็นหนักเป็นเพื่อนอยู่ด้วยนะคะ (ตอนท้องพอมีอาการหนักแบบนี้แล้วรู้สึกโดดเดี่ยวถามรอบตัวไม่มีใครเป็นแบบเราแล้วจิตตกค่ะ)
ปล. อาการท้องผูกดีขึ้น แต่ อาการโพรงจมูกบวมอักเสบ กลับมาแล้วค่ะ ทั้งๆที่เราเคยผ่าตัดผนังกั้นจมูกคดไปแล้ว ทำให้นอนไม่ได้อีกแล้ว หายใจไม่ได้เลย จมูกตันหนักมาก จนเราต้องเข้ารับการรักษา ผ่าตัดเล็กคือจี้โพรงจมูกบวมด้วยคลื่นวิทยุค่ะ ไว้มาเล่าให้ฟังต่อนะคะ
แชร์ประสบการณ์ ท้องผูกหนักมากขณะตั้งครรภ์
เราเป็นคนที่ท้องผูกอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนท้อง กินอาหารปกติก็ท้องผูกขับถ่ายยากตั้งแต่เด็กเลยแม่บอก แต่มาหนักขึ้นตอนเราหันมากินคีโตเพื่อลดนน. โดยอึเป็นเหมือนก้อนกระสุนแข็งมากจนเบ่งไม่ออก ต้องรีบไปรพ. ก็ได้รักษาริดสีดวงควบคู่กับรักษาระบบขับถ่าย เราไปหาหมอมาที่นึง หมอวินิจฉัยว่าเป็นลำไส้ขี้เกียจ แล้วให้ยามากิน และก็ต้องเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันโดยต้องตื่นเช้ามาทานอาหารเช้าเสร็จแล้วต้องไปนั่งห้องน้ำประมาณ 5-10 นาที กินนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตทุกวันเช้าเย็น พอเรารักษาอาการเราก็ดีขึ้น หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ไปหาหมออีก เพราะอาการขับถ่ายดีขึ้น และพอเราติดโควิด อาการขับถ่ายก็ยิ่งดีขึ้น ถ้าไม่ถ่ายเกิน 2-3 วัน กินนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตเราก็จะถ่ายเป็นปกติ ซึ่งตอนเป็นโควิดเราก็รักษากับหมอคนเดิม แล้วได้ถามว่าไม่ต้องกินยาแล้วใช่ไหมเพราะอาการขับถ่ายทุกๆ 2-3 วัน ถ้าไม่ถ่ายกินนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตก็ถ่าย หมอบอกได้เลย อย่าลืมกินนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตเติมจุลินทรีย์อยู่ด้วยนะ และทำกิจวัตรประจำวันด้วย เราเลยไม่ได้กินยาแล้วตอนนั้น
จนมาถึง… วันที่เราท้องได้ 8 สัปดาห์ มันกลับมาอีกครั้ง อาการท้องผูกรุนแรงกลับมา เบ่งไม่ออก แข็งมาก ซึ่งจริงๆแล้วห้ามคนท้องห้ามเบ่งอึรุนแรงหรือเบ่งแรงๆ แต่ตอนนั้นเราไม่ไหวอาการมันแย่มากจริงๆก็เบ่งเต็มแรงเลย แต่ก็ยังไม่ออกจนเราเป็นลมในห้องน้ำ ดีที่เราไม่ได้ล๊อคประตูไว้แล้วเลยเรียกให้ญาติมาเปิดประตูห้องน้ำแง้มๆเพื่อจะได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นแต่ก็ไม่ช่วยอะไร เราออกจากห้องน้ำไม่ได้เพราะมันไม่ยอมออกและไม่ยอมกลับเข้าไป เราตั้งสติหยิบมือถือเสิชในเนต อ่านเจอวิธีการช่วยตัวเองคือต้องเอานิ้วแคะออกมา เราก็ต้องทำเพราะเป็นลมไม่ไหว นั่งต่อไม่ไหวแต่ก้อนอึไม่ยอมออกเลยสักนิด มันคาอยู่ที่รูก้นไม่สามารถขมิบเพื่อให้มันกลับเข้าไปหรือออกมาได้เลย หลังจากนั้นก็กินทุกอย่างตามในเนตบอกว่าจะช่วยทั้งยาระบายมะขามแขก มะขาม พรุน น้ำผักปั่นต่างๆ วันรุ่งขึ้นมีอาการปวดอึก็เข้าไปอึ ก็เป็นแบบเดิมอีก คราวนี้ไม่เป็นลมแต่เกือบจะเป็นลม เราก็ต้องช่วยตัวเองก่อนก่อนที่จะเป็นลมอีกรอบ สุดท้ายไม่ไหวจริงๆเราก็ไปหาหมอที่เราเคยรักษาทันที เราได้ยามาเป็นยาชุดเดิมที่คุ้นเคย มียาระบาย Forlax ด้วยที่เราเคยกิน หมอให้เรากินเช้าและเย็น อาการก็ดีขึ้นมาก คนท้องจะมีอาการแน่นท้องร่วมด้วย ถ้ายิ่งเราขับถ่ายไม่ออกมันทำให้ระบบรวนและแน่นท้องมากขึ้น แม่ๆคงสงสัยทำไมไม่กินผักเยอะๆ น้ำผัก พรุน มะขาม ยาระบายมะขามแขก คือเราลองมาหมดแล้วค่ะ แต่ธาตุเราคงหนัก ทั้งหมดที่เราหาในเนตและมาลองคือไม่ช่วยเราเลย สิ่งเดียวที่ช่วยคือไปหาหมอจริงๆค่ะ นอกจากยาชุดเดิมที่เราได้กิน เราก็ต้องกลับมากินนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตแบบเดิม แต่ช่วงแรกกินเช้าเย็นเลยค่ะ นั่งห้องน้ำแบบเดิมแต่เปลี่ยนจากเช้าอย่างเดียวเป็นนั่งเช้าเย็น 5-10 นาที เพิ่มเติมคือแม่ต้องเดินเยอะๆทั้งหลังกินอาหารแต่ละมื้อ และตอนเย็นเดินเพื่อให้ลำไส้ได้ทำงานค่ะ
ในการรักษาของเรายังคงต้องไปพบหมอเป็นประจำ หมอแจ้งว่ายิ่งท้องอายุครรภ์เยอะช่วงไตรมาส 2,3 จะยิ่งท้องผูกหนักขึ้นนะ คงต้องดูแลกันไปจนกว่าจะคลอด หลังคลอดยังมีอาการพวกนี้อยู่ได้ เราได้เจอกันยาวๆแน่คุณแม่ ยังไงถ้าแม่ๆคนไหนเจอแบบเดียวกันกับเราอย่าซื้อยาทานเองนะคะ ควรจะไปพบหมอเพื่อให้หมอวินิจฉัยแล้วรักษาร่วมกันค่ะ เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะไม่ได้ท้องผูกหนักแบบเรา ถ้าเกิดซื้อทานเองแล้วอาจจะท้องเสียหนักแล้วจะกระทบกับเด็กได้นะคะ สุดท้ายนี้ขอส่งกำลังใจให้แม่ๆทุกคน ที่ต้องเผชิญกับอาการท้องผูกรุนแรงและแน่นท้องมากๆจนกินไม่ได้ นน.ลดด้วยนะคะ คุณไม่ได้เป็นคนเดี่ยวไม่โดดเดี่ยวแน่นอนค่ะ อย่างน้อยก็มีเราที่เป็นหนักเป็นเพื่อนอยู่ด้วยนะคะ (ตอนท้องพอมีอาการหนักแบบนี้แล้วรู้สึกโดดเดี่ยวถามรอบตัวไม่มีใครเป็นแบบเราแล้วจิตตกค่ะ)
ปล. อาการท้องผูกดีขึ้น แต่ อาการโพรงจมูกบวมอักเสบ กลับมาแล้วค่ะ ทั้งๆที่เราเคยผ่าตัดผนังกั้นจมูกคดไปแล้ว ทำให้นอนไม่ได้อีกแล้ว หายใจไม่ได้เลย จมูกตันหนักมาก จนเราต้องเข้ารับการรักษา ผ่าตัดเล็กคือจี้โพรงจมูกบวมด้วยคลื่นวิทยุค่ะ ไว้มาเล่าให้ฟังต่อนะคะ