ล่าสุด กรมศุลกากรประกาศชัดครับ ตั้งแต่วันที่
1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป
สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ
จะถูกจัดเก็บภาษีศุลกากรและ VAT ทุกชิ้น! ไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่มูลค่า “หลักสิบบาท
ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น?
ที่ผ่านมา ถ้าเราซื้อของจากต่างประเทศผ่าน Shopee / Lazada / Temu / AliExpress
แล้วราคาสินค้าต่ำกว่า
1,500 บาทจะไม่ต้องเสียภาษีและ VATเพราะอยู่ภายใต้ข้อยกเว้นที่เรียกว่า
“De Minimis Value” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสินค้าราคาถูกหรือพัสดุส่วนบุคคล
แต่ปัญหาคือ...ระบบนี้ทำให้สินค้า “ราคาถูกจากต่างประเทศ” ทะลักเข้ามาแข่งกับผู้ค้าภายในประเทศที่ต้องเสียภาษีเต็ม ๆ กลายเป็นการค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อ SME ไทย
ศุลกากรเลยตัดสินใจ “ยกเลิกเพดานขั้นต่ำ”
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร ระบุว่า “เริ่ม 1 ม.ค. 69 สินค้าที่มีมูลค่าเกิน 1 บาท ก็ต้องเสียภาษีแล้วครับ” พูดง่าย ๆ คือ...
ไม่มีของฟรีภาษีอีกต่อไป!
คาดว่าจะจัดเก็บรายได้เพิ่มเข้ารัฐได้กว่า
3,000 ล้านบาทต่อปี
โดยมีอัตราเฉลี่ย
อากรนำเข้า (Import Duty) ราว 10%
/ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อีก 7%
จะกระทบยังไงกับคนทั่วไป?
1. คนที่ชอบสั่งของจากต่างประเทศ (จีน / เกาหลี / อเมริกา)
→ ของทุกชิ้นจะมีภาษีเพิ่ม ไม่ว่าราคาจะเท่าไหร่
→ โดยเฉพาะของเล็ก ๆ เช่น เคสมือถือ, ถุงเท้า, ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ
2. ร้านค้าไทย (SME / แม่ค้าออนไลน์)
→ จะได้เปรียบมากขึ้น เพราะสินค้าจากต่างประเทศจะไม่สามารถ “ขายราคาต่ำจนตัดตลาด” ได้เหมือนเดิม
3. แพลตฟอร์ม E-commerce ใหญ่
→ Shopee / Lazada / Temu / AliExpress
จะต้องส่ง “ข้อมูลสินค้าและมูลค่า” ให้กรมศุลกากรตรวจสอบ เพื่อคำนวณภาษีอัตโนมัติ (กำลังจะมีการประชุมร่วมวันที่ 7 พ.ย. นี้)
แล้วจะคำนวณยังไง?
สมมติสั่งของ 500 บาท จากจีน อากรนำเข้า 10% = 50 บาท VAT 7% ของ (500+50) = 38.5 บาท
รวมทั้งหมด =
588.50 บาท
ที่มา
bangkokbiznews
สินค้านำเข้าทุกชิ้น! ต้องเสียภาษี ‘ศุลกากร’ เริ่ม 1 ม.ค.69 — สั่งของจากจีนเตรียมจ่ายเพิ่ม?
สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ จะถูกจัดเก็บภาษีศุลกากรและ VAT ทุกชิ้น! ไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่มูลค่า “หลักสิบบาท
ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น?
ที่ผ่านมา ถ้าเราซื้อของจากต่างประเทศผ่าน Shopee / Lazada / Temu / AliExpress
แล้วราคาสินค้าต่ำกว่า 1,500 บาทจะไม่ต้องเสียภาษีและ VATเพราะอยู่ภายใต้ข้อยกเว้นที่เรียกว่า “De Minimis Value” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสินค้าราคาถูกหรือพัสดุส่วนบุคคล
แต่ปัญหาคือ...ระบบนี้ทำให้สินค้า “ราคาถูกจากต่างประเทศ” ทะลักเข้ามาแข่งกับผู้ค้าภายในประเทศที่ต้องเสียภาษีเต็ม ๆ กลายเป็นการค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อ SME ไทย
ศุลกากรเลยตัดสินใจ “ยกเลิกเพดานขั้นต่ำ”
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร ระบุว่า “เริ่ม 1 ม.ค. 69 สินค้าที่มีมูลค่าเกิน 1 บาท ก็ต้องเสียภาษีแล้วครับ” พูดง่าย ๆ คือ...
ไม่มีของฟรีภาษีอีกต่อไป!
คาดว่าจะจัดเก็บรายได้เพิ่มเข้ารัฐได้กว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี
โดยมีอัตราเฉลี่ย อากรนำเข้า (Import Duty) ราว 10% / ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อีก 7%
จะกระทบยังไงกับคนทั่วไป?
1. คนที่ชอบสั่งของจากต่างประเทศ (จีน / เกาหลี / อเมริกา)
→ ของทุกชิ้นจะมีภาษีเพิ่ม ไม่ว่าราคาจะเท่าไหร่
→ โดยเฉพาะของเล็ก ๆ เช่น เคสมือถือ, ถุงเท้า, ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ
2. ร้านค้าไทย (SME / แม่ค้าออนไลน์)
→ จะได้เปรียบมากขึ้น เพราะสินค้าจากต่างประเทศจะไม่สามารถ “ขายราคาต่ำจนตัดตลาด” ได้เหมือนเดิม
3. แพลตฟอร์ม E-commerce ใหญ่
→ Shopee / Lazada / Temu / AliExpress
จะต้องส่ง “ข้อมูลสินค้าและมูลค่า” ให้กรมศุลกากรตรวจสอบ เพื่อคำนวณภาษีอัตโนมัติ (กำลังจะมีการประชุมร่วมวันที่ 7 พ.ย. นี้)
แล้วจะคำนวณยังไง?
สมมติสั่งของ 500 บาท จากจีน อากรนำเข้า 10% = 50 บาท VAT 7% ของ (500+50) = 38.5 บาท
รวมทั้งหมด = 588.50 บาท
ที่มา bangkokbiznews