บัฟเฟตต์ขายไม่หยุด สบโอกาสทำกำไรอีก Berkshire รินขาย Apple หลังราคาพุ่งกว่า 24%

บัฟเฟตต์ขายไม่หยุดสบโอกาสทำกำไรอีกBerkshire รินขาย Apple ​หลังราคาพุ่งกว่า 24%

มีสัญญาณใหม่บ่งชี้ว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ อาจยังคงทยอยลดสัดส่วนการถือครองหุ้น Apple อย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 เบาะแสสำคัญนี้มาจากรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Berkshire Hathaway ซึ่งเปิดเผยว่า "ต้นทุน" (Cost Basis) ในหมวดการลงทุน "หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค" ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือหุ้น Apple ได้ลดลงประมาณ 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า การลดลงของต้นทุนนี้ชี้ให้เห็นอย่างมีนัยสำคัญว่า Berkshire ได้ทำการขายหุ้น Apple เพิ่มเติมในช่วงเวลาดังกล่าว

การตัดสินใจทยอยขายทำกำไรนี้เกิดขึ้นในจังหวะที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา ราคาหุ้น Apple ได้พุ่งสูงขึ้นถึง 24% การปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงนี้ได้มอบโอกาสที่ดี ให้บัฟเฟตต์ในการขายทำกำไร การดำเนินการนี้เป็นการตอกย้ำทิศทางที่บัฟเฟตต์ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดมาตั้งแต่ปี 2024 เมื่อเขาตัดสินใจขายหุ้น Apple ที่ถืออยู่ถึง 2 ใน 3 และยังคงทยอยขายต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

แม้ว่าบัฟเฟตต์จะเคยเปรยว่าการขายหุ้น Apple เป็นไปด้วยเหตุผลด้านภาษี แต่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายต่างคาดการณ์ว่า ขนาดของการขายที่ผ่านมาอาจสะท้อนถึงความกังวลของเขาต่อ "มูลค่า (Valuation) ที่สูงเกินไป" ของ Apple หรืออาจเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการพอร์ต เนื่องจากสัดส่วนของ Apple เคยเติบโตจนมีขนาดใหญ่เกินกว่าครึ่งหนึ่งของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด ท่าทีดังกล่าวสอดคล้องกับภาพรวมของ Berkshire ที่เป็นผู้ขายสุทธิในตลาดหุ้นมานานถึง 12 ไตรมาสติดต่อกัน และสะท้อนความกังวลของบัฟเฟตต์ต่อภาวะตลาดโดยรวมที่ตัวชี้วัดที่เขาชื่นชอบได้พุ่งสูงถึงระดับที่เขาเคยเรียกว่าการเล่นกับไฟ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหุ้น Apple จะถูกทยอยขายออกไป แต่ก็ยังคงเป็นสถานะการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของ Berkshire ณ สิ้นเดือนมิถุนายน นักลงทุนทั่วโลกจะต้องรอการยืนยันตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้ง เมื่อ Berkshire ยื่นรายงานการถือครองหุ้น 13F ต่อสำนักงาน ก.ล.ต สหรัฐฯ ในปลายเดือนนี้ ซึ่งจะเปิดเผยรายละเอียดการซื้อขายทั้งหมดจนถึงวันที่ 30 กันยายน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่