บีบีซีไทยสำรวจเกาะพะงัน ในวันที่ชาวอิสราเอลทำให้บางพื้นที่ "กลายเป็นเทลอาวีฟย่อม ๆ"


ป้ายระบุข้อความไม่ต้อนรับชาวอิสราเอลที่ถูกแขวนไว้ที่ร้าน Pun Pun Thai Food เมื่อต้นเดือน ต.ค. 2568 จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผ่านทั้งสื่อภาษาไทยและภาษาฮีบรู


หาดริ้น ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวอิสราเอล ติดไว้หน้าร้าน

ข้อความดังกล่าวส่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในหน้าสื่อไทยและสื่อภาษาฮีบรู (ภาษาหลักที่ชาวอิสราเอลใช้สื่อสาร) แม้การขึ้นป้ายดังกล่าวจะส่งผลให้ร้านของคนไทยร้านนี้ ถูกกระหน่ำให้รีวิวหนึ่งดาวผ่านแพลตฟอร์มกูเกิลรีวิว แต่พวกเขาก็ยืนยันว่าพิจารณาถี่ถ้วนดีแล้ว

"การกระทำในครั้งนี้ของพวกเราไม่ได้มีเจตนาที่เกี่ยวข้องกับสงคราม เชื้อชาติ ศาสนาแต่อย่างใด แต่เพราะทางร้านได้ถูกกระทำมานาน" ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อบัญชีว่า Pai Maytinee ผู้แสดงตนว่าเป็นหนึ่งในเจ้าของร้าน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว และเผยเหตุผลของความไม่พอใจจากการที่ชาวต่างชาติไม่เคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการเข้ามาอยู่อาศัยของบุคคลเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อชุมชน

อันที่จริงก่อนหน้านั้นไม่นานนัก กระแสความไม่พอใจของคนท้องถิ่นที่พุ่งเป้าไปยังผู้มีเชื้อชาติอิสราเอลในเกาะพะงัน ปรากฏขึ้นในโลกออนไลน์ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่กลุ่มเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า "เกาะพะงัน - Koh Phangan" แพลตฟอร์มการสื่อสารของคนท้องถิ่น

4 ต.ค. โพสต์ของบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Kaii Kpg โพสต์ข้อความในกลุ่มเฟซบุ๊กกลุ่มนี้ว่า ชาวอิสราเอลเข้ามา "ยึดครอง" เกาะพะงัน โดยเรียกร้องให้คนท้องถิ่น "ลุกขึ้นมาปกป้องเกาะแห่งนี้จากการถูกกลืนแผ่นดิน" โดยโพสต์ดังกล่าวได้จุดกระแสการถกเถียงในกลุ่มที่มีสมาชิกกว่า 48,000 คน แม้ต้นโพสต์จะถูกลบไป แต่ข้อความดังกล่าวถูกผลิตซ้ำผ่านหน้าแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กผ่านสื่อท้องถิ่นและมีผู้ส่งต่อกว่า 7 พันครั้ง

บีบีซีไทยลงพื้นที่ตรวจสอบข้อกล่าวหานี้ ตลอดจนสำรวจความคิดเห็นของคนในพื้นที่ต่อการเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของชาวอิสราเอล

ส่วนหนึ่งจากเอกสารลงชื่อนักท่องเที่ยวที่จะโดยสารโดยเรือออกจากเกาะพะงันไปยังเกาะอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง วันที่ 16 ต.ค. 2568 พบสัดส่วนของนักท่องเที่ยวอิสราเอลมากกว่าชาติอื่น
คลื่นนักท่องเที่ยวอิสราเอลที่เกาะพะงัน

ระหว่างที่บีบีซีไทยเดินทางออกจากเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยเรือรอบเที่ยงของวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา เราได้เห็นเอกสารลงทะเบียนรายชื่อผู้โดยสารบนเรือจากเกาะพะงันไปยังเกาะอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงในวันดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นเบาะแสหนึ่งที่ชี้ว่ามีคนอิสราเอลมาเดินทางมาเยือนเกาะกลางอ่าวไทยแห่งนี้มากน้อยเพียงใด

จากการลงพื้นที่ของบีบีซีไทย ณ ท่าเรือท้องศาลาบนเกาะพะงัน พบว่าผู้โดยสารของเรือเที่ยวเช้าจากเกาะพะงันไปเกาะสมุย ของวันที่ 16 ต.ค. เป็นนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลกว่า 70%

อันที่จริงเอกสารลงทะเบียนดังกล่าวเป็นเพียงประจักษ์พยานที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่หากใครเดินทางไปยังเกาะพะงันย่อมเห็นสัญญาณหลายอย่างที่บ่งบอกถึงคลื่นนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาจากชาติตะวันออกกลางชาตินี้

ประชาชนผู้อยู่อาศัยในเกาะพะงันชี้ว่าเซ็นบีช (Zen Beach) กลายเป็นแหล่งรวมตัวยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวอิสราเอล

"โซนอิสราเอล" คือชื่อลำลองที่ผู้ประกอบการไทยในพื้นที่หลายคนใช้เรียกบ้านศรีธนู ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของเกาะพะงัน

บีบีซีไทยสำรวจบรรยากาศยามเย็นบริเวณชายหาด "เซน บีช (Zen Beach)" ซึ่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่แม้ดูเผิน ๆ จะเหมือนนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกทั่วไป แต่สิ่งที่เราสังเกตเห็นก็คือ ภาษาฮีบรูเป็นภาษาส่วนใหญ่ที่ถูกใช้ในการสื่อสารระหว่างนักท่องเที่ยวที่จับจองเต็มพื้นที่นั้น

ว่าแต่เหตุใดเกาะพะงันจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของพวกเขา ?

"สะดวกสบายและคุ้นเคย"

ชาวอิสราเอลอย่างน้อยสองคนซึ่งย้ายมาในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโรคระบาดโควิด-19 ยืนยันกับบีบีซีไทยว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลเดินทางมาด้วยการบอกต่อแบบปากต่อปาก

"เกาะพะงันได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความงดงามทางธรรมชาติและความแตกต่างจากภูมิประเทศในอิสราเอลอย่างสิ้นเชิง" ยาอีร์ ชาวอิสราเอลผู้อาศัยอยู่ในประเทศไทยกว่า 15 ปีและพำนักอยู่ในเกาะพะงันมาหลายปีอธิบายให้บีบีซีไทยฟัง

"อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยเลือกเดินทางมายังเกาะแห่งนี้ด้วยเหตุผลที่แตกต่างออกไป นั่นคือการที่เกาะพะงันกลายเป็นสถานที่ที่มีชาวอิสราเอลรวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้พวกเขารู้สึกสะดวกสบายและคุ้นเคย"

ความเห็นของเขาสอดคล้องกับตัวเลขสมาชิกกลุ่มเฟซบุ๊กภาษาฮีบรูที่แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า "In Thailand - Phuket, Koh Samui, Koh Phangan" ซึ่งมีสมาชิกมากกว่าแสนราย ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ไม่น้อยเลยสำหรับภาษาที่มีผู้พูดราว 9-10 ล้านคน

ภายในกลุ่มสังคมออนไลน์กลุ่มนี้ มีการแลกเปลี่ยนเคล็ดลับการท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวอิสราเอล

จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย ซึ่งอ้างอิงข้อมูลของสนามบินนานาชาติเบ็น-กูรีย็อน ประเทศอิสราเอล พบว่าแม้ประเทศไทยไม่ใช่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยว 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวอิสราเอล แต่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่อัตราการเติบโตเร่งตัวขึ้นในปี 2567 โดยนักท่องเที่ยวอิสราเอลที่เดินทางมาประเทศไทยคิดเป็น 4% ของนักท่องเที่ยวอิสราเอลที่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งหมด

มีศูนย์กลางทางศาสนา

ยาอีร์อธิบายว่านักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลจำนวนมากเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เรียกกันว่า "นักท่องเที่ยวต้นแบบ" (model tourists)

"พวกเขามักไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีนัก การได้เดินทางมายังสถานที่ที่มีผู้คนพูดภาษาฮีบรูได้จึงง่ายกว่ามาก"

ในความเห็นของ เดวิด (นามสมมติ) ชาวอิสราเอลอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ไทยตั้งแต่ช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกาะพะงันเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล คือการมีสาขาของ "เบตชาบัด" (Beit Chabad) หรือสถานที่ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกว่า "โบสถ์ยิว" เปิดให้บริการบนเกาะ

ยาอีร์กล่าวตรงกันในข้อนี้และขยายความว่า มีความเชื่อกันว่าจำนวนของนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลในพื้นที่หนึ่ง ๆ มีความสัมพันธ์โดยตรงกับการมีอยู่ของเบตชาบัด

"นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกที่จะรับประทานอาหารเฉพาะที่ศูนย์แห่งนี้ และเดินทางมาร่วมพิธีกรรมทางศาสนาในช่วงสุดสัปดาห์" ชาวอิสราเอลซึ่งอยู่เกาะพะงันมา 6 ปีกล่าวกับบีบีซีไทย

ประเทศไทยมี "เบตชาบัด" หรือ "ศูนย์ชาบัด (Chabad House)" อย่างน้อย 6 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ชาบัดที่ถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ, สุขุมวิท กรุงเทพฯ, อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน, จ.ภูเก็ต ตลอดจนศูนย์ชาบัดที่ อ.เกาะสมุย และ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

ที่เกาะพะงันมีศูนย์ชาบัดใหญ่ที่หมู่บ้านศรีธนู แวดล้อมตัวศาสนสถานมีร้านอาหารอิสราเอล เมื่อข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามจะพบกับร้านรวงมากมาย รวมถึงสตูดิโอพิลาทีสที่ขึ้นป้ายเป็นภาษาฮีบรู ไม่ไกลกันนักพบศูนย์ท่องเที่ยวที่มีอักษรภาษาฮีบรูขนาดใหญ่เขียนว่า "המרכז למטייל תאילנד (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ประเทศไทย)"

ป้ายระบุ "ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว" บริเวณหมู่บ้านศรีธนู ไม่ไกลจากศูนย์ชาบัดนัก


ป้ายหน้าสตูดิโอโยคะ บริเวณใกล้เคียงกับศูนย์ชาบัด หมู่บ้านศรีธนู ซึ่งใช้ภาษาฮีบรูบนป้าย

บีบีซีไทยติดต่อกับศูนย์ชาบัด สาขาเกาะพะงัน ทางโทรศัพท์หลายครั้ง ครึ่งหนึ่งมีผู้รับโทรศัพท์และแจ้งให้เราส่งข้อความผ่านทางแพลตฟอร์มวอตส์แอป (WhatsApp) แทน แต่ข้อความที่บีบีซีไทยส่งไปไม่เคยได้รับการตอบรับ เมื่อเราเดินทางไปที่สาขาดังกล่าว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชี้แจงว่าไม่มีใครอยู่ และไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้

อาหารโคเชอร์

ตามคัมภีร์โทราห์ของศาสนายูดาย อาหารที่ชาวอิสราเอลพึงรับประทานต้องเป็นไปตามหลัก "กัชรุต (Kashrut)" ซึ่งกำหนดประเภทของอาหารที่สามารถบริโภคได้ รวมถึงวิธีการเตรียมอาหารอย่างเคร่งครัด ซึ่งบนเกาะพะงัน นอกจากหมู่บ้านศรีธนูแล้ว อีกหนึ่งพื้นที่ซึ่งมีร้านอาหารที่ระบุโดยเฉพาะเจาะจงว่าเป็นร้านอาหารโคเชอร์ให้บริการ คือ พื้นที่หาดริ้น ต.บ้านใต้

ยาอีร์ชี้ว่าสำหรับผู้เคร่งครัดทางศาสนาอาจเลือกที่จะหลีกเลี่ยงอาหารท้องถิ่นและเลือกรับประทานเพียงร้านอาหารอิสราเอลหรือร้านอาหารที่เชื่อมั่นว่าจะเป็นอาหารโคเชอร์โดยเคร่งครัด
เสียงความกังวลจากคนท้องถิ่น

ความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม วิถีการดำเนินชีวิต ตลอดจนเหตุการณ์กระทบกระทั่งหลายกรณี ต่างถูกสะท้อนออกมาจากเสียงของคนไทยที่อาศัยบนเกาะอยู่ดั้งเดิม

ประดินันท์ สุขสบาย เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งบนเกาะพะงัน กล่าวกับบีบีซีไทยว่ากลุ่มลูกค้าจากอิสราเอลร้องขอหลายอย่างที่ทำให้เขาไม่เข้าใจ

"สั่งข้าวผัดไก่ ต้องไปเอาไก่ให้ดูแล้วคุณต้องล้างต่อหน้า" เขายกตัวอย่าง พร้อมบอกว่านี่เป็นข้อเรียกร้องที่เขารู้สึกว่า "มากเกินไป"

ทั้งนี้ บีบีซีไทยสังเกตว่าเจ้าของร้านอาหารผู้นี้ไม่น่าจะทราบถึงวัฒนธรรมอาหารจำเพาะของศาสนายูดายที่ต้องล้างเลือดออกจากเนื้อสัตว์ก่อน

นอกจากนี้ ยังมีข้อพิพาทอื่นอีกระหว่างร้านอาหารของเขาและลูกค้าชาวอิสราเอลเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนกลับไปกลับมาในเรื่องวัตถุดิบในอาหาร ทำให้ครั้งนั้นเขาตัดสินใจแจ้งตำรวจเพื่อเรียกร้องให้ลูกค้าจ่ายค่าอาหารโดยมีภาพวงจรปิดเป็นหลักฐาน

ประดินันท์ สุขสบาย ผู้เป็นเจ้าของกิจการร้าน Pun Pun Thai Food

เมื่อความไม่พอใจต่อนักท่องเที่ยวอิสราเอลในเกาะพะงันระอุขึ้น ผู้ใช้งานในกลุ่มเฟซบุ๊กท้องถิ่นของเกาะพะงัน ต่างออกมาบอกเล่าเรื่องราวหลายกรณีที่กล่าวหาพุ่งตรงไปที่นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล

สมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊กท้องถิ่นที่ชื่อว่า กลุ่ม "เกาะพะงัน - Koh Phangan" ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะ โดยระบุถึงการจับกุมนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลที่นำธนบัตรปลอมมาแลกเงิน พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการอย่างรวดเร็ว ขณะที่ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน สมาชิกอีกคนหนึ่งในกลุ่มเดียวกันได้แจ้งเหตุรถยนต์ชนแล้วหนี โดยระบุว่าผู้ขับขี่น่าจะเป็นชาวอิสราเอลเช่นกัน

ร้าน Pun Pun Thai Food ที่เป็นผู้ประกอบการแห่งแรกที่แขวนป้ายไม่รับนักท่องเที่ยวอิสราเอลในเกาะพะงันยืนยันว่าการเจาะจงเช่นนั้นไม่ได้เป็นการเลือกปฏิบัติ

"เจตนาที่แท้จริงก็ไม่ได้เกี่ยวกับศาสนาหรือสงครามของคุณ แต่โดนกระทำมาซ้ำ ๆ แล้วก็มันไม่ได้วันเดียว เราก็ทนมาเยอะมาก" โพสต์ของร้านระบุ

เหตุการณ์ความไม่พอใจต่อนักท่องเที่ยวสัญชาติเดียวเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อต้นปี 2568 เคยมีกระแสความกังวลของคนในพื้นที่ต่อจำนวนนักท่องเที่ยวอิสราเอลที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ในลักษณะเดียวกัน ครั้งนั้นสื่ออิสราเอลเตือนว่าพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวอาจบ่อนทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่