ชีวประวัติ นักบุญโบนาเวนตูราแห่งบันโญเรจิโอ (Saint Bonaventure of Bagnoregio - San Bonaventura da Bagnoregio)



     นักบุญโบนาเวนตูราแห่งบันโญเรจิโอ เกิดประมาณปีค.ศ. 1217 บ้างก็ว่า ท่านเกิดเมื่อปีค.ศ. 1221 ที่เมืองบันโญเรจิโอ (Bagnoregio) เมืองทางตอนเหนือของกรุงโรม ประเทศอิตาลี ชื่อในโปรดศีลล้างบาปของท่าน คือ “จิโอวานนี (Giovanni)” เช่นเดียวกับบิดาของท่าน คือ “จิโอวานนี ฟิดันซา (Giovanni Fidanza)” ไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับวัยเด็กของท่าน นอกจากข้อเท็จจริงที่ว่า ท่านได้รับการรักษาจากโรคร้ายแรงโดยการเร้าวิงวอนของนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี (Saint Francis of Assisi) ดังที่ท่านเล่าไว้ในบทนำของตำนานนักบุญฟรังซิส ในปีค.ศ. 1236 ท่านย้ายไปกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อศึกษาต่อ ในปีค.ศ. 1243 หลังจากได้รับปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต ท่านตัดสินใจรับบวชเป็นภราดาน้อย โดยได้รับมอบหมายให้เป็นสมาชิกในแคว้นโรมัน และใช้ศาสนนามว่า “โบนาเวนตูรา (Bonaventura)” ระหว่างปีค.ศ. 1243 ถึง ค.ศ. 1248 ท่านสำเร็จการศึกษาด้านเทววิทยาภายใต้การดูแลของ “อเล็กซานเดอร์แห่งเฮลส์ (Alexander of Hales)” ภราน้อยคณะฟรังซิสกัน (Franciscan - OFM) หลังจากอเล็กซานเดอร์เสียชีวิตในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1245 ท่านยังคงศึกษาต่อภายใต้การชี้นำของ “เออเดส ริโกลด์ (Eudes Rigauld หรือ Odo Rigaud)” อาร์คบิชอปแห่งรูอ็อง (Archbishop of Rouen) คณะฟรังซิสกัน และ “วิลเลียมแห่งเมลิโทนา (William of Melitona)” คณะฟรังซิสกัน ในปีค.ศ. 1248 ท่านได้รับตำแหน่ง “bacalarius biblicus ordinarius (ปริญญาตรีพระคัมภีร์ธรรมดา)” โดยเริ่มวิจารณ์พระคัมภีร์ทั้งพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ ระหว่างปีค.ศ. 1250 ถึง ค.ศ. 1252 ท่านได้อ่านและอธิบายประโยคต่างๆโดยตำแหน่ง “bacalarius sententiarus (ปริญญาตรีแห่งความคิดเห็น)”


“นักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี (Saint Francis of Assisi)” เร้าวิงวอนให้ “นักบุญโบนาเวนตูร่าแห่งบันโญเรจิโอ (Saint Bonaventure of Bagnoregio - San Bonaventura da Bagnoregio)” ได้รับการรักษาจากโรคร้ายแรง


“อเล็กซานเดอร์แห่งเฮลส์ (Alexander of Hales)” ภราน้อยคณะฟรังซิสกัน (Franciscan - OFM) ผู้สอนเทววิทยาให้ “นักบุญโบนาเวนตูร่าแห่งบันโญเรจิโอ (Saint Bonaventure of Bagnoregio - San Bonaventura da Bagnoregio)”


โลโก้ คณะฟรังซิสกัน (Franciscan - OFM)


เครื่องแบบ คณะฟรังซิสกัน (Franciscan - OFM)


“เออเดส ริโกลด์ (Eudes Rigauld หรือ Odo Rigaud)” อาร์คบิชอปแห่งรูอ็อง (Archbishop of Rouen) คณะฟรังซิสกัน ผู้ให้การศึกษาแก่ “นักบุญโบนาเวนตูร่าแห่งบันโญเรจิโอ (Saint Bonaventure of Bagnoregio - San Bonaventura da Bagnoregio)”

     ช่วงปลายปีค.ศ. 1253 หรือต้นปีค.ศ. 1254 ท่านได้รับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ โดยทำหนังสือ “คำถามถกเถียงเกี่ยวกับความรู้ของพระคริสต์ (Disputed Questions on the Knowledge of Christ)” แล้วต่อมาก็ทำหนังสือ “คำถามถกเถียงเกี่ยวกับพระธรรมล้ำลึกของพระตรีเอกภาพ (Disputed Questions on the Mystery of the Trinity)” ในปีค.ศ. 1254 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นอาจารย์ใหญ่ประจำโรงเรียนของภราดา แต่ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1257 ท่านจึงได้รับการรับรองเป็น Magister Cathedratus โดยเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย ร่วมกับ “นักบุญโทมัส อไควนัส (Saint Thomas Aquinas)” คณะดอมินิกัน (Dominican Order หรือ Order of Preachers - OP) สำหรับนักบุญโบนาเวนตูร่าแล้ว การศึกษาและการสอนที่กรุงปารีสในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของท่านมีผลงานมากมาย อันที่จริง ในช่วงเวลานี้ บทอธิบายพระคัมภีร์ของท่าน ได้แก่ คำอธิบายหนังสือปัญญาจารย์ (Commentary on Eccleisastes) , คำอธิบายพระวรสารลูกา (Commentary on the Gospel of Luke) และคำอธิบายพระวรสารยอห์น (Commentary on the Gospel of John) เสร็จสมบูรณ์ก่อนปีค.ศ. 1257 ระหว่างปีค.ศ. 1254 ถึง ค.ศ. 1255 ท่านได้เขียนหนังสือ “การลดทอนศิลปะสู่เทววิทยา (On the Reduction on the Arts to Theology)” หลังจากนั้นท่านจึงเริ่มทำหนังสือ “Breviloquium” ซึ่งเป็นผลงานที่ท่านทำเสร็จในปีค.ศ. 1257


หนังสือ “คำถามถกเถียงเกี่ยวกับความรู้ของพระคริสต์ (Disputed Questions on the Knowledge of Christ)” เขียนโดย “นักบุญโบนาเวนตูร่าแห่งบันโญเรจิโอ (Saint Bonaventure of Bagnoregio - San Bonaventura da Bagnoregio)”


หนังสือ “คำถามถกเถียงเกี่ยวกับพระธรรมล้ำลึกของพระตรีเอกภาพ (Disputed Questions on the Mystery of the Trinity)” เขียนโดย “นักบุญโบนาเวนตูร่าแห่งบันโญเรจิโอ (Saint Bonaventure of Bagnoregio - San Bonaventura da Bagnoregio)”


“นักบุญโทมัส อไควนัส (Saint Thomas Aquinas)” คณะดอมินิกัน (Dominican Order หรือ Order of Preachers - OP) ผู้เป็นเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย ร่วมกับ “นักบุญโบนาเวนตูร่าแห่งบันโญเรจิโอ (Saint Bonaventure of Bagnoregio - San Bonaventura da Bagnoregio)”


หนังสือ “คำอธิบายหนังสือปัญญาจารย์ (Commentary on Eccleisastes)” เขียนโดย “นักบุญโบนาเวนตูร่าแห่งบันโญเรจิโอ (Saint Bonaventure of Bagnoregio - San Bonaventura da Bagnoregio)”


หนังสือ “คำอธิบายพระวรสารลูกา (Commentary on the Gospel of Luke)” เขียนโดย “นักบุญโบนาเวนตูร่าแห่งบันโญเรจิโอ (Saint Bonaventure of Bagnoregio - San Bonaventura da Bagnoregio)”


หนังสือ “คำอธิบายพระวรสารยอห์น (Commentary on the Gospel of John)” เขียนโดย “นักบุญโบนาเวนตูร่าแห่งบันโญเรจิโอ (Saint Bonaventure of Bagnoregio - San Bonaventura da Bagnoregio)”


หนังสือ “การลดทอนศิลปะสู่เทววิทยา (On the Reduction on the Arts to Theology)” เขียนโดย “นักบุญโบนาเวนตูร่าแห่งบันโญเรจิโอ (Saint Bonaventure of Bagnoregio - San Bonaventura da Bagnoregio)”


หนังสือ “Breviloquium” เขียนโดย “นักบุญโบนาเวนตูร่าแห่งบันโญเรจิโอ (Saint Bonaventure of Bagnoregio - San Bonaventura da Bagnoregio)”

     เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1257 ขณะที่ท่านประทับอยู่ที่กรุงปารีส ท่านได้รับเลือกเป็นผู้ดูแลประจำคณะที่กรุงโรม โดยมีพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 4 (Pope Alexander IV) เป็นประธาน ขณะนั้นท่านมีอายุประมาณ 40 ปี งานสำคัญประการหนึ่งที่นักบุญโบนาเวนตูราได้ริเริ่มขึ้นตามคำสั่งที่ได้รับจากคณะผู้ดูแล คือ การร่างร่างกฎหมายโดยอ้างอิงจากกฎระเบียบและความคิดเห็นต่างๆที่พัฒนาขึ้นก่อนหน้านี้ในคณะ ได้รับการอนุมัติจากคณะผู้ดูแลแห่งนาร์บอนน์ (General Chapter of Narbonne) ในปีค.ศ. 1260 ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ธรรมนูญทั่วไปแห่งนาร์บอนน์ (General Constitutions of Narbonne)” ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อพระวินัยของคณะฟรังซิสกันในเวลาต่อมา บทนี้มอบหมายให้ท่านเขียน “ตำนาน (Legenda)” ฉบับใหม่เกี่ยวกับนักบุญฟรังซิส ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบที่ขาดหายไปในฉบับก่อนหน้า และด้วยเหตุนี้ จึงสามารถเชื่อมโยงวรรณกรรมมากมายที่เผยแพร่เกี่ยวกับท่านเข้าด้วยกันได้ ด้วยเหตุนี้ ในการประชุมใหญ่ครั้งต่อไปที่เมืองปิซา (Pisa) ประเทศอิตาลี ในปีค.ศ. 1263 ท่านจึงได้นำเสนอ “ตำนานนักบุญฟรานซิส (Legenda Maior)” แก่บรรดาภราดาที่มาประชุม ณ ที่นั้น และต่อมาก็ได้นำเสนองานเขียนสั้นๆของท่านชื่อ “ตำนานนักบุญ (Legenda Minor)” ซึ่งมีไว้สำหรับใช้ในพิธีกรรม ซึ่งได้รับการยอมรับและเผยแพร่ไปยังแขวงต่างๆ ทันที นักวิชาการบางคนระบุว่า การอนุมัติธรรมนูญทั่วไปดังกล่าวข้างต้น และการร่างตำนานนักบุญ (Legenda Maior) ถือเป็นองค์ประกอบพื้นฐาน 2 ประการของโครงการปรับโครงสร้างชีวิตของบรรดานักบุญของนักบุญโบนาเวนตูรา ทั้งในระดับนิติศาสตร์-สถาบัน และระดับเทววิทยา-ชีวประวัติของนักบุญ


พระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 4 (Pope Alexander IV)


หนังสือ “ตำนานนักบุญฟรานซิส (Legenda Maior)” เขียนโดย “นักบุญโบนาเวนตูร่าแห่งบันโญเรจิโอ (Saint Bonaventure of Bagnoregio - San Bonaventura da Bagnoregio)”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่