"การเมือง" (Politics) มีผลต่อการ "เลือกใช้คำศัพท์" ในภาษาอังกฤษไหม? (มีครับ)

กระทู้สนทนา
คนที่ identify ตัวเองกับ feminist movement อาจเลือกใช้คำว่า “humankind” แทนคำว่า “mankind” ครับ (แต่ความหมายเดียวกันนั่นแหละ) หรือคนที่ไม่สนับสนุนการทำแท้งอาจเลี่ยงคำว่า “fetus” หรือ “embryo” (ตัวอ่อนในครรภ์) แล้วเลือกใช้คำว่า “unborn baby” (เด็กที่ยังไม่เกิด) ไปเลยเพื่อให้คนฟังเกิดความรู้สึกว่าการทำแท้งมันโหดร้าย

คนที่สนับสนุนนโยบายของรัฐในการช่วยเหลือคนจนอาจใช้คำว่า “social welfare” หรือ “social safety net” (โครงข่ายความปลอดภัยทางสังคม) แต่คนที่ไม่เห็นด้วยอาจเรียกนโยบายเหล่านี้ว่าเป็น “government handouts” (ของแจกจากรัฐบาล) หรือคนที่ชอบรัฐบาลก็จะบอกว่าภาษีคือ “public revenue” (รายได้แผ่นดิน) แต่คนที่ไม่สนับสนุนรัฐบาล (ที่กำลังอยู่ในอำนาจขณะนั้น) อาจเรียกว่าการจ่ายเงินให้รัฐบาลเป็น “tax burden” (ภาระการจ่ายภาษี)
. . . . .

ถ้าเราคุยกับคนที่ไม่ชอบแรงงานต่างด้าว เราอาจได้ยินเขาเรียกคนต่างด้าวว่า “illegal alien” (เคยพูดถึงคำนี้ไปแล้ว) แต่คนทั่วไปที่ไม่มีความรู้สึกด้านลบอะไรก็อาจจะใช้คำว่า “undocumented immigrant” (แรงงานที่ยังไม่มีใบอนุญาต) หรือ “immigrant” เฉย ๆ ก็ได้ หรือการที่มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานเยอะ ๆ สำหรับคนที่ไม่พอใจก็จะบอกว่าแรงงานเหล่านี้กำลัง “flooding the country” (มาอยู่จนล้นเมือง) มากกว่าที่จะใช้คำที่ไม่แสดงความคิดเห็นด้านลบอย่าง “crossing the border” (อพยพข้ามแดน)

แม้กระทั่งคำที่ใช้เรียกผู้ป่วยออทิสติก (การที่แอดใช้คำว่า “ผู้ป่วย” ก็อาจทำให้คนไม่พอใจแล้ว) บางคนที่เขา sensitive อาจเลือกใช้คำว่า “person with autism” ในขณะที่คนทั่วไปอาจใช้คำง่าย ๆ เลยคือ “autistic person” หรือกับคนหูหนวกที่เราอาจจะคิดว่าคำว่า “deaf” (หูหนวก) มันก็ไม่ได้หยาบคายอะไรเลยนะ แต่อาจมีคนแย้งว่าไม่ได้นะอย่าไปเรียกเขาแบบนั้น... ให้เรียกว่า “person with hearing loss” (ผู้สูญเสียความสามารถทางการได้ยิน)
. . . . .

โอเคครับ ตัวอย่างมันมีไม่สิ้นสุด (I could write a whole book on this topic!) ประเด็นของผมก็คือ Politics หรือการเมืองมันมีผลกับการเลือกใช้คำศัพท์เป็นอย่างมากครับ

มันบอกเราได้เลยว่านี่เรากำลังคุยกับอเมริกันที่อยู่ฝั่งซ้าย (democrat) หรือฝั่งขวา (republican)? หรือเรากำลังคุยกับคนอังกฤษที่สนับสนุนรัฐบาลสาย Conservative หรือ Labour? และอื่น ๆ อีกหลายแง่มุม (spectrum ทางการเมืองไม่ได้มีแค่ขวา/ซ้าย/อนุรักษ์นิยม/เสรีนิยม/แรงงาน แต่มันมีตรงกลางบ้าง เอียงไปซ้ายขวาบ้างปน ๆ กันไป) ต่างคนก็ต่างเลือกใช้คำศัพท์(ในการสื่อถึงสิ่งเดียวกัน)ที่ต่างกันไปครับ

เราไม่จำเป็นต้อง get offended (หัวเสียจนเกิดอารมณ์โมโห) หากเราเจอคนที่ใช้คำที่มันไม่ถูกใจหรือคำที่ฟังดูเบาหรือแรงเกินไป ให้เราเข้าใจว่าคำศัพท์ที่แต่ละคนเลือกใช้มันสะท้อนถึงจุดยืนทางการเมืองของเขาเท่านั้นเอง (ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ) มันไม่มีผิดถูกครับ

และเราเองก็มีสิทธิจะเลือกใช้คำที่เราคิดว่ามันเหมาะสมที่สุดเช่นกัน และอย่าเชื่อ AI มากเพราะเราก็ไม่รู้ว่าคนที่ train ภาษาให้ AI เขาก็มีจุดอื่นทางการเมืองอย่างไรบ้าง (แต่เขามีแน่ ๆ) วิธีที่ดีกว่า (แต่อาจจะเหนื่อยหน่อย) คือให้เราอ่านข่าวจากหลาย ๆ สำนัก + หนังสือของนักเขียนที่น่าเชื่อถือ (ทั้งคนที่มีความเห็นทางการเมืองตรงและไม่ตรงกับเรา) จะดีต่อสกิลการ "คิด"คำศัพท์ของเรามากกว่าในระยะยาวครับ เพราะตอนนี้ผมเริ่มเห็นจากนักเรียนหลายคนคือไม่สามารถเขียนภาษาอังกฤษโดยไม่พึ่ง AI แม้กระทั่งในเรื่องที่มันเป็นการแสดงความเห็นของตัวเองล้วน ๆ

(ไว้ในอนาคตผมจะมาพูดถึงประเด็นที่ว่าทำไมพอเป็นเรื่องเกี่ยวกับภาษาแล้ว AI บางทีมันตอบได้มั่วมาก ๆ โดยไปเอา source มาจากไหนก็ไม่รู้)
_______________

"รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน"
JGC.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่