เริ่มเรื่องนะครับ
ครอบครัวดั้งเดิมของผม มี พ่อ แม่ พี่ชาย และ ผม
เมื่อก่อนพ่อทำงานคนเดียว 
แม่เป็นแม่บ้านรวยที่ดิน พอไม่มีเงินก็แบ่งที่ขาย 
พี่ชาย ไม่สนใจเรียน จบ ม.3 เท่าที่จำความได้ เดินเข้าออกโรงพักเป็นว่าเล่น ตอนนี้ 40 กว่า ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง รับจ้างขับรถบ้าง ขายของบ้าง
ตัวผม ตอนนี้อายุ 40 ต้น ๆ มีครอบครัวแล้ว มีภรรยา และลูกสาวที่น่ารัก 1 คน
เรื่องมีอยู่ว่า พ่อกับแม่ตามใจพี่ชายมาโดยตลอด ตั้งแต่เล็ก พ่อแม่ส่งพี่ชายเรียนเอกชนมาตลอด ส่วนผมเรียนโรงเรียนรัฐบาล 
ตั้งแต่ผมเรียนจบ (กู้เรียนเองนะครับ) เริ่มทำงาน ผมเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายทุก ๆ อย่างในบ้านทั้งหมด โดยพี่ชายและครอบครัวของเขาไม่เคยช่วยใด ๆ ทั้งสิ้น 
ระหว่างนั้นผมมีแฟนและมีลูกสาว แฟนไม่เคยว่าผม ที่ไม่เคยดูแลเค้ากับลูกเลย เพราะรายได้ของผม หมดไปกับที่บ้าน
ผมถูกบังคับให้กู้เงินซื้อบ้านอีก 1 หลัง ด้วยเหตุผลว่า เดี๋ยวตรงนี้ที่อยู่ปัจจุบัน อาจโดนเวรคืน และรับผิดชอบผ่อนมาคนเดียวเดือนละ 2 หมื่น จนตอนนี้ผ่านมา 10 ปีแล้ว
และเรื่องราวก็เกิดขึ้น พ่อล้มป่วย เป็นผู้ป่วยติดเตียง พี่ชายเลิกกับภรรยา และไปได้ภรรยาใหม่ พี่ชายเอารถพ่อไปจำนำ สุดท้ายรถตอนนี้หายไปไหนไม่มีใครรู้ (รถยังติดไฟแนนซ์อยู่) ตอนนี้ถูกไฟแนนซ์ฟ้องร้อง 
ปัญหาคือ แม่บังคับให้ผมขายบ้านเพื่อเอามาจ่ายเงินให้ไฟแนนซ์ เพื่อที่พ่อและพี่ชายจะได้รอดจากการฟ้องร้อง
ผมหนักใจมากครับ ที่ผ่านมาภรรยาผมและลูกไม่เคยได้รับอะไรใด ๆ จากผมเลย ผมคิดว่าจะผ่อนบ้านหลังนี้ให้เป็นของพวกเค้า
แต่สุดท้ายเกิดปัญหานี้ขึ้น
1.คนรอบตัวชอบพูดกับผมว่า แม่มีคนเดียวนะ ทำอะไรให้คิดถึงแม่เยอะ ๆ (เสียงในหัวบอกว่า ให้ขายแล้วก็หนีไปเลยดีมั้ย เราแบกมาตลอด 20 ปีละ)
2.อีกด้านนึงผมก็คิดว่า ตอนนี้ผมก็มีครอบครับของผมแล้ว ผมควรสร้างบางอย่างให้พวกเขา ผมไม่อยากให้พวกเขา ต้องเป็นเหมือนผม ที่พ่อกับแม่ไม่เคยสร้างอะไรให้เลย
มีคนบอกว่า พี่ชายกตัญญูไม่ทิ้งพ่อแม่ แต่ผมอกตัญญู ผมไม่ตอบโต้ เพราะตัวผมเองรู้ดีที่สุด พี่ชายให้ 200 พ่อกับแม่คุยรู้กันทั้งซอย แต่ตัวผมเองไม่เคยได้รับคำชมใด ๆ เพราะพ่อกับแม่ไม่เคยไปพูดว่าทุกอย่างในบ้านผมรับผิดชอบหมด
ขอบคุณที่รับฟังครับ																																	
  
							 
						
ปัญหาชีวิตของผม
ครอบครัวดั้งเดิมของผม มี พ่อ แม่ พี่ชาย และ ผม
เมื่อก่อนพ่อทำงานคนเดียว
แม่เป็นแม่บ้านรวยที่ดิน พอไม่มีเงินก็แบ่งที่ขาย
พี่ชาย ไม่สนใจเรียน จบ ม.3 เท่าที่จำความได้ เดินเข้าออกโรงพักเป็นว่าเล่น ตอนนี้ 40 กว่า ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง รับจ้างขับรถบ้าง ขายของบ้าง
ตัวผม ตอนนี้อายุ 40 ต้น ๆ มีครอบครัวแล้ว มีภรรยา และลูกสาวที่น่ารัก 1 คน
เรื่องมีอยู่ว่า พ่อกับแม่ตามใจพี่ชายมาโดยตลอด ตั้งแต่เล็ก พ่อแม่ส่งพี่ชายเรียนเอกชนมาตลอด ส่วนผมเรียนโรงเรียนรัฐบาล
ตั้งแต่ผมเรียนจบ (กู้เรียนเองนะครับ) เริ่มทำงาน ผมเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายทุก ๆ อย่างในบ้านทั้งหมด โดยพี่ชายและครอบครัวของเขาไม่เคยช่วยใด ๆ ทั้งสิ้น
ระหว่างนั้นผมมีแฟนและมีลูกสาว แฟนไม่เคยว่าผม ที่ไม่เคยดูแลเค้ากับลูกเลย เพราะรายได้ของผม หมดไปกับที่บ้าน
ผมถูกบังคับให้กู้เงินซื้อบ้านอีก 1 หลัง ด้วยเหตุผลว่า เดี๋ยวตรงนี้ที่อยู่ปัจจุบัน อาจโดนเวรคืน และรับผิดชอบผ่อนมาคนเดียวเดือนละ 2 หมื่น จนตอนนี้ผ่านมา 10 ปีแล้ว
และเรื่องราวก็เกิดขึ้น พ่อล้มป่วย เป็นผู้ป่วยติดเตียง พี่ชายเลิกกับภรรยา และไปได้ภรรยาใหม่ พี่ชายเอารถพ่อไปจำนำ สุดท้ายรถตอนนี้หายไปไหนไม่มีใครรู้ (รถยังติดไฟแนนซ์อยู่) ตอนนี้ถูกไฟแนนซ์ฟ้องร้อง
ปัญหาคือ แม่บังคับให้ผมขายบ้านเพื่อเอามาจ่ายเงินให้ไฟแนนซ์ เพื่อที่พ่อและพี่ชายจะได้รอดจากการฟ้องร้อง
ผมหนักใจมากครับ ที่ผ่านมาภรรยาผมและลูกไม่เคยได้รับอะไรใด ๆ จากผมเลย ผมคิดว่าจะผ่อนบ้านหลังนี้ให้เป็นของพวกเค้า
แต่สุดท้ายเกิดปัญหานี้ขึ้น
1.คนรอบตัวชอบพูดกับผมว่า แม่มีคนเดียวนะ ทำอะไรให้คิดถึงแม่เยอะ ๆ (เสียงในหัวบอกว่า ให้ขายแล้วก็หนีไปเลยดีมั้ย เราแบกมาตลอด 20 ปีละ)
2.อีกด้านนึงผมก็คิดว่า ตอนนี้ผมก็มีครอบครับของผมแล้ว ผมควรสร้างบางอย่างให้พวกเขา ผมไม่อยากให้พวกเขา ต้องเป็นเหมือนผม ที่พ่อกับแม่ไม่เคยสร้างอะไรให้เลย
มีคนบอกว่า พี่ชายกตัญญูไม่ทิ้งพ่อแม่ แต่ผมอกตัญญู ผมไม่ตอบโต้ เพราะตัวผมเองรู้ดีที่สุด พี่ชายให้ 200 พ่อกับแม่คุยรู้กันทั้งซอย แต่ตัวผมเองไม่เคยได้รับคำชมใด ๆ เพราะพ่อกับแม่ไม่เคยไปพูดว่าทุกอย่างในบ้านผมรับผิดชอบหมด
ขอบคุณที่รับฟังครับ