เราอาจไม่รู้ว่าสิ่งที่เราทำอยู่ ส่งผลอะไรในวันข้างหน้า
ถ้าเป็นความดี ก็ได้รับผลตอบแทนความดีนั้น
แต่ถ้าเป็นความไม่ดี ก็จะได้รับผลตอบแทนความไม่ดี
ความผิดหนึ่งของคนยุคนี้ ที่ทำไปโดยอิสระเสรี จนเกินความเหมาะสม
คือการอธรรมต่อคนอื่น เช่น การใส่ร้าย สาปแช่ง
และการใส่ร้ายชาวปาเลสไตน์ อาจส่งผลให้เกิดผลกระทบตามมา
ไม่ใช่กรรมตามสนอง กรรมไม่สามารถทำหน้าที่ของมันเองได้
แต่พระเจ้าที่กำหนดทุกอย่างไว้อย่างเหมาะสม
มีกฎการตอบแทน ใครคิดดีได้ดี ใครคิดไม่ดี ก็ได้รับความไม่ดีนั้นด้วย
ใครใส่ร้ายคนอื่น ก็จะได้รับความทุกข์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
และถ้าใส่ร้ายเป็นวงกว้าง และไม่เตือนกัน คนที่ไม่ได้ทำก็พลอยได้รับผลกระทบด้วย
มองในเรื่องใกล้ตัว 
มีคนหนึ่งถูกนินทา เพราะว่าเขาเคยเม้าท์คนอื่น
หรือคนหนึ่งว่าอีกคนเหมารวมทั้งจังหวัด ต่อมาคนที่ว่าคนอื่นเหมารวม ก็โดนว่าในฐานะตัวแทนคนจังหวัดนั้นด้วย
หรือแม้กระทั่งคนที่ถูกใส่ร้าย เพื่อนคนหนึ่งไม่ชอบ พยายามให้คนอื่นไม่ชอบด้วย
แต่พระเจ้าก็ทรงช่วย ให้คนที่ใส่ร้าย ไม่มีใครชอบเขาเลย จนเขาเลิกทำผิด
ชาวปาเลสไตน์ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย เขาใช้ชีวิตของเขาอย่างปกติสุข
อยู่กันอย่างปลอดภัย ไม่มียาเสพติด ประชาชนมีการศึกษา มีบัตรประชาชน
แต่ถูกอิสราเอลกล่าวว่าพวกเขาเป็นก่อการร้าย
ทั้งๆ ที่ IDF ก่อนจะมาเป็นทหาร ก็เคยถูกประเทศอังกฤษบอกว่าพวกเขาเป็นกลุ่มก่อการร้าย
ตอนนี้ประเทศไทยเจอปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
เป็นปัญหาที่มีการใช้สื่อสร้างภาพลักษณ์ ใส่ร้ายไทย
เหมือนที่อิสราเอลทำกับปาเลสไตน์ ก็ใช้สื่อประโคมข่าวใส่ร้าย 
และสื่อหลักไทยก็นำข้อมูลจากฝั่งอิสราเอลมาเผยแพร่
ตอนนี้ ไทยเจอปัญหาเดียวกัน 
(แต่เหตุการณ์นี้มีข้อดี จะได้เห็นศักยภาพในการรบของไทย และความสามัคคีของคนไทย
และสื่อไทยจะได้ไม่มีเวลา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ใส่ร้ายปาเลสไตน์ โดยไม่รู้ตัว
แต่เอาเวลามาเผยแพร่ความจริง เป็นความดีแทน)
ทหารยิวที่มาพักรบในไทย กว้านซื้อที่ดิน ธุรกิจในไทย
และมีพฤติกรรมไม่ดีกับประชาชนในเขตนั้น
เหมือนที่อิสราเอลกว้านซื้อที่ดินของชาวปาเลสไตน์
แล้วสุดท้ายก็ให้อังกฤษเสนอให้เป็นประเทศ
มีหลายประเทศที่ไม่ยอมให้ทหารอิสราเอลมาพักรบ
เพราะเขาไม่ยอมให้ที่หลบภัยกับผู้ก่อการร้ายตัวจริง ที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์
ตอนนี้คนไทยเห็นกับตาตนเองแล้ว ว่าทหารอิสราเอลเป็นอย่างไร
แต่ก็ยังมีบางคนเชื่อฝั่งอิสราเอล ไม่พอ ยังใส่ร้ายปาเลสไตน์ต่อไป
หากเราไม่เตือนกัน เราอาจเจอแบบเดียวกับปาเลสไตน์
เพราะการใส่ร้ายคนอื่นในวงกว้าง จะทำให้คนอื่นพลอยเดือดร้อนไปด้วย
คนไทย เนื้อแท้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน เชื่อในหลักคุณธรรมความดี และมีหลักคำสอนที่ไม่ให้เชื่อคนง่าย
ดังนั้น อะไรที่เป็นการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ แล้วบอกว่านั่นเป็นสิ่งชอบธรรม
คนไทยก็จะไม่เชื่อสิ่งที่ขัดกับหลักคำสอน ขัดกับหลักมนุษยธรรมแน่นอน
แต่ก็มีบางคนยังหลงเชื่อ เพราะฟังความข้างเดียว 
เพราะฉะนั้น ผู้ที่รู้ความจริง ควรช่วยกันเตือน ก่อนที่จะสายไป
เพราะบทลงโทษนั้น น่ากลัวมาก พระเจ้าทรงบอกไว้ 
เตือนสำทับให้เราห่างไกลจากการใส่ร้าย สาปแช่งคนอื่น
1. ผลของการสาปแช่ง ในโลกนี้ 
สาปแช่งคนอื่น กลับเข้าหาตัว แช่งให้คนอื่นเจอเรื่องไม่ดีอย่างไร โดนเอง ท่านนบีมุฮัมมัดจึงสอนไม่ให้ด่าว่า หรือสาปแช่งใคร
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า "แท้จริงบ่าวนั้น เมื่อได้แช่งด่าสิ่งใดๆ คำแช่งด่านั้น จะขึ้นไปสู่ฟ้าเบื้องบน ประตูฟ้าจะถูกปิดไม่ให้คำแช่งด่านั้นเข้าไป จากนั้นมันจะลงมายังพื้นดิน ประตูของพื้นดินจะถูกปิดไม่ให้มันเข้ามา จากนั้นมันจะมาทางขวาและซ้าย เมื่อไม่พบทางไป มันก็จะกลับไปหาคนที่ถูกแช่งด่า ถ้าหากผู้นั้นควรแก่การถูกแช่งด่า (มันก็จะอยูกับผู้นั้น) และถ้าไม่เช่นนั้น มันก็จะกลับไปหาผู้พูด" (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย อบูดาวูด)
2. ผลของการกล่าวหา ใส่ร้าย ในโลกหน้า
ใส่ร้ายคนอื่น โลกหน้าความดีจะตกไปให้คนที่ถูกใส่ร้าย และเมื่อชดใช้ไม่หมด ความชั่วของคนถูกใส่ร้าย จะมาอยู่ที่เขาแทน
ท่านรอซูลุลลอฮ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า “แท้จริงคนที่ล้มละลายจากประชาชาติของฉัน ก็คือบุคคลที่มาในวันกิยามะห์ ด้วยกับการละหมาด การถือศีลอด การจ่ายซะกาต แต่ว่าเขาด่าทอกล่าวว่า คนนั้น ใส่ร้ายคนนี้ และกินทรัพย์สินที่หะรอม (ต้องห้าม) และละเมิดหลั่งเลือดผู้อื่น ไปตบตีคนนั้น ดังนั้นความดีของเขาก็ถูกเอา และนี่คือความดีของเขา เมื่อความดีของเขาหมดเสียก่อนที่จะชดใช้ ดังนั้นเขาต้องเอาความผิดของพวกเขา(ความผิดของบุคคลที่เขาละเมิด)มาแบกรับไว้ หลังนั้นเขาถูกให้เข้านรก” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 2581)
3. บททดสอบ ภัยพิบัติ ความวุ่นวาย มีสาเหตุเพราะไม่ห้าม ไม่เตือน
จะปล่อยให้ชุมชน สังคม สื่อออนไลน์ ใครจะทำอะไรก็ได้ เรื่องของเขา เราก็ต้องรับผลของการไม่ตักเตือนนั้นด้วย เช่น ในบางสังคมที่ปล่อยให้มีการเสพยาเสรี สุดท้าย แต่ละคนอยู่กลางถนน เมาเสียการเสียงาน มีขโมย มีประท้วง วุ่นวาย
– ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมกล่าวว่า “ฉันขอสาบานต่อผู้ที่ชีวิตของฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ว่า พวกท่านจงสั่งกำชับกันให้ทำความดี และต้องร่วมมือกันห้ามปรามความชั่ว (เพราะถ้าพวกท่านไม่ทำเช่นนั้น ปล่อยปละละเลย) อัลลอฮฺก็จะทรงส่งการลงโทษของพระองค์ลงมายังพวกท่านอย่างเฉียบพลันทันที (เมื่อถึงเวลานั้น) แม้หากพวกท่านจะวิงวอนขอจากพระองค์ พระองค์ก็จะไม่ทรงตอบรับ(คำวิงวอนขอของพวกท่าน)” (หะดีษหะสัน บันทึกโดย ติรฺมีซีย์)
– ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “อุปมาผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺ และผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮฺ อุปมัยดังกลุ่มชนหนึ่งที่อยู่บนเรือลำเดียวกันได้จับสลาก โดยกลุ่มหนึ่งได้อยู่บนเรือ และอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ด้านล่างของเรือ ดังนั้น เมื่อผู้ที่อยู่ด้านล่างต้องการจะใช้น้ำจะต้องเดินผ่านผู้ที่อยู่ด้านบน เขาเหล่านั้น(ผู้ที่อยู่ด้านล่าง) จึงกล่าวขึ้นว่า ‘หากเราเจาะเรือตรงส่วนของเรา(ด้านล่างเพื่อจะเอาน้ำมาใช้) และจะได้ไม่รบกวนผู้ที่อยู่ด้านบน?’ และถ้าหากกลุ่มที่อยู่ด้านบนปล่อยให้กลุ่มที่อยู่ด้านล่างทำตามความต้องการแล้ว พวกเขาจะต้องพินาศ(จมน้ำ) กันทั้งหมด แต่หากว่าเขาเหล่านั้นจับมือ(ห้ามปราม) กลุ่มชนนั้นเอาไว้ก็จะปลอดภัยกันทั้งหมด” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย บุคอรี ติรมิซีย์ และอะห์หมัด)
4. บะลาอฺ บททดสอบเพื่อให้กลับตัว
สึนามิในไทย คือผลกระทบจากการทำบาปมากมาย จนคนที่ไม่ทำก็โดนด้วย ดังนั้น ควรเตือนด้วยวิธีการที่เหมาะสม อย่าปล่อยไว้
– “การบ่อนทำลายได้เกิดขึ้นทั้งทางบกและทางน้ำ (ตัฟซีร: อัลบัยฎอวีย์กล่าวว่า ความหมายของการบ่อนทำลายคือ ความแห้งแล้ง อัคคีภัย อุทักภัย วาตภัย และภัยอื่นๆ ตลอดจนความจำเริญที่ลดน้อยลงนั้น ก็เนื่องมาจากการก่อกรรมทำบาปของมนุษย์นั่นเอง) เนื่องจากสิ่งที่มือของมนุษย์ได้ขวนขวายไว้เพื่อที่พระองค์จะให้พวกเขาลิ้มรสบางส่วนที่พวกเขาประกอบไว้ โดยที่หวังจะให้พวกเขากลับเนื้อกลับตัว” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัรรูม 41 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย)
5. จุดยืนผู้ศรัทธา ท่ามกลางสงคราม และผลของการเห็นชอบบรรดาผู้อธรรม
– “โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย พึงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด และจงอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ที่พูดจริง” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ 119)
– “และพวกท่านอย่าเห็นชอบไปกับบรรดาผู้อธรรม ไฟนรกจะสัมผัสพวกท่านได้ (ตัฟซีร: อย่าเอนเอียงเห็นดีเห็นชอบไปกับบรรดาผู้อธรรม ที่เป็นผู้ปกครองหรือคนอื่นๆ เช่น พวกเสเพล พวกนอกลู่นอกทาง และพวกคนชั่ว แล้วท่านก็จะเป็นคนหนึ่งในพวกนั้น คือไฟนรกจะสัมผัสท่านได้) และสำหรับพวกท่านไม่มีผู้คุ้มครองใดๆ นอกจากอัลลอฮฺ แล้วพวกท่านจะไม่ถูกช่วยเหลือ” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺฮูด 113 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย)
6. ผลของการคิดไม่ดี ก็ได้รับความไม่ดีนั้นด้วย
คิดดีกับตัวเอง และคนอื่น เจอแต่เรื่องดี คิดไม่ดี แถมใส่ร้ายคนอื่น ชีวิตที่ทุกข์ คับแค้น อับอาย จะตามมา วัลอิยาซุบิลลาฮฺ
– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า พระองค์อัลลอฮฺทรงตรัสไว้ว่า “ฉันอยู่ที่ความคิดของบ่าวของฉัน หากเขาคิดดี เขาจะได้รับความดี (แต่) ถ้าเขาคิดไม่ดี เขาก็จะได้รับ ความไม่ดีนั้นด้วย” (หะดีษ (กุดซีย์) เศาะฮีหฺ บันทึกโดยอะหฺมัด เลขที่ 8871)
การพูดความจริง เตือนคนที่ใส่ร้ายชาวปาเลสไตน์ เป็นการรักษาจุดยืน ที่จะไม่หลงเชื่อข่าวลือ และไม่ปล่อยให้ความชั่วนั้นแพร่กระจาย การใส่ร้ายชาวปาเลสไตน์เป็นล้านคน เท่ากับอธรรมผู้อื่นเป็นล้านคน ยิ่งทางโซเชียลมีเดีย ยิ่งเป็นการทำบาปต่อเนื่องตามจำนวนวันที่เผยแพร่ข้อความใส่ร้ายนั้น บาปหลายเท่าทวีคูณ เตือนเพราะสงสารเขาไม่อยากให้ความดีที่เขามีต้องหมดไปชดเชยให้คนที่ถูกใส่ร้าย และสังคมจะได้ไม่เจอกับผลกระทบตามมาของการใส่ร้าย ถ้าเตือนกัน 
ผู้สร้างจะไม่ปล่อยให้ความอธรรม การบ่อนทำลายหน้าแผ่นดินเกิดนาน พระองค์ทรงส่งบททดสอบเป็นระยะ เพื่อให้มนุษย์กลับตัว บางประเทศ เกิดแผ่นดินไหว บางคนคิดได้ว่าตัวเองเอาแต่ทำงาน ทำอิบาดะฮฺ (หน้าที่หลัก) ละหมาดน้อย ใส่ใจครอบครัวน้อย ซึ่งเป็นความรับผิดชอบที่จะต้องถูกสอบสวนในโลกหน้า เขาจึงไม่เสียใจกับอาคารสูงใหญ่ที่เคยก่อสร้าง แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ให้สติเขา ให้เขายังมีชีวิตอยู่ได้ทำความดีชดเชย
ผู้ที่ใคร่ครวญ สังเกตจะเข้าใจ และคนที่เชื่อว่า โลกหน้ามีจริง เป็นโลกแห่งความยุติธรรม มีการตอบแทนผลจากการกระทำของมนุษย์ เขาจะไม่ท้อกับการอธรรมที่เกิดขึ้นในสังคม
วัลอิยาซุบิลลาฮฺ (ขอพระองค์ทรงคุ้มครองให้เราห่างไกลจากสิ่งนั้น)
วัลลอฮุอะอฺลัม (อัลลอฮฺเท่านั้นที่ทรงรู้ดีที่สุด)
																																	  
							 
						
ช่วยกันเตือน หยุดใส่ร้ายชาวปาเลสไตน์ (บททดสอบ ภัยพิบัติ ความวุ่นวาย มีสาเหตุเพราะไม่ห้าม ไม่เตือน)
ถ้าเป็นความดี ก็ได้รับผลตอบแทนความดีนั้น
แต่ถ้าเป็นความไม่ดี ก็จะได้รับผลตอบแทนความไม่ดี
ความผิดหนึ่งของคนยุคนี้ ที่ทำไปโดยอิสระเสรี จนเกินความเหมาะสม
คือการอธรรมต่อคนอื่น เช่น การใส่ร้าย สาปแช่ง
และการใส่ร้ายชาวปาเลสไตน์ อาจส่งผลให้เกิดผลกระทบตามมา
ไม่ใช่กรรมตามสนอง กรรมไม่สามารถทำหน้าที่ของมันเองได้
แต่พระเจ้าที่กำหนดทุกอย่างไว้อย่างเหมาะสม
มีกฎการตอบแทน ใครคิดดีได้ดี ใครคิดไม่ดี ก็ได้รับความไม่ดีนั้นด้วย
ใครใส่ร้ายคนอื่น ก็จะได้รับความทุกข์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
และถ้าใส่ร้ายเป็นวงกว้าง และไม่เตือนกัน คนที่ไม่ได้ทำก็พลอยได้รับผลกระทบด้วย
มองในเรื่องใกล้ตัว
มีคนหนึ่งถูกนินทา เพราะว่าเขาเคยเม้าท์คนอื่น
หรือคนหนึ่งว่าอีกคนเหมารวมทั้งจังหวัด ต่อมาคนที่ว่าคนอื่นเหมารวม ก็โดนว่าในฐานะตัวแทนคนจังหวัดนั้นด้วย
หรือแม้กระทั่งคนที่ถูกใส่ร้าย เพื่อนคนหนึ่งไม่ชอบ พยายามให้คนอื่นไม่ชอบด้วย
แต่พระเจ้าก็ทรงช่วย ให้คนที่ใส่ร้าย ไม่มีใครชอบเขาเลย จนเขาเลิกทำผิด
ชาวปาเลสไตน์ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย เขาใช้ชีวิตของเขาอย่างปกติสุข
อยู่กันอย่างปลอดภัย ไม่มียาเสพติด ประชาชนมีการศึกษา มีบัตรประชาชน
แต่ถูกอิสราเอลกล่าวว่าพวกเขาเป็นก่อการร้าย
ทั้งๆ ที่ IDF ก่อนจะมาเป็นทหาร ก็เคยถูกประเทศอังกฤษบอกว่าพวกเขาเป็นกลุ่มก่อการร้าย
ตอนนี้ประเทศไทยเจอปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
เป็นปัญหาที่มีการใช้สื่อสร้างภาพลักษณ์ ใส่ร้ายไทย
เหมือนที่อิสราเอลทำกับปาเลสไตน์ ก็ใช้สื่อประโคมข่าวใส่ร้าย
และสื่อหลักไทยก็นำข้อมูลจากฝั่งอิสราเอลมาเผยแพร่
ตอนนี้ ไทยเจอปัญหาเดียวกัน
(แต่เหตุการณ์นี้มีข้อดี จะได้เห็นศักยภาพในการรบของไทย และความสามัคคีของคนไทย
และสื่อไทยจะได้ไม่มีเวลา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ใส่ร้ายปาเลสไตน์ โดยไม่รู้ตัว
แต่เอาเวลามาเผยแพร่ความจริง เป็นความดีแทน)
ทหารยิวที่มาพักรบในไทย กว้านซื้อที่ดิน ธุรกิจในไทย
และมีพฤติกรรมไม่ดีกับประชาชนในเขตนั้น
เหมือนที่อิสราเอลกว้านซื้อที่ดินของชาวปาเลสไตน์
แล้วสุดท้ายก็ให้อังกฤษเสนอให้เป็นประเทศ
มีหลายประเทศที่ไม่ยอมให้ทหารอิสราเอลมาพักรบ
เพราะเขาไม่ยอมให้ที่หลบภัยกับผู้ก่อการร้ายตัวจริง ที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์
ตอนนี้คนไทยเห็นกับตาตนเองแล้ว ว่าทหารอิสราเอลเป็นอย่างไร
แต่ก็ยังมีบางคนเชื่อฝั่งอิสราเอล ไม่พอ ยังใส่ร้ายปาเลสไตน์ต่อไป
หากเราไม่เตือนกัน เราอาจเจอแบบเดียวกับปาเลสไตน์
เพราะการใส่ร้ายคนอื่นในวงกว้าง จะทำให้คนอื่นพลอยเดือดร้อนไปด้วย
คนไทย เนื้อแท้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน เชื่อในหลักคุณธรรมความดี และมีหลักคำสอนที่ไม่ให้เชื่อคนง่าย
ดังนั้น อะไรที่เป็นการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ แล้วบอกว่านั่นเป็นสิ่งชอบธรรม
คนไทยก็จะไม่เชื่อสิ่งที่ขัดกับหลักคำสอน ขัดกับหลักมนุษยธรรมแน่นอน
แต่ก็มีบางคนยังหลงเชื่อ เพราะฟังความข้างเดียว
เพราะฉะนั้น ผู้ที่รู้ความจริง ควรช่วยกันเตือน ก่อนที่จะสายไป
เพราะบทลงโทษนั้น น่ากลัวมาก พระเจ้าทรงบอกไว้
เตือนสำทับให้เราห่างไกลจากการใส่ร้าย สาปแช่งคนอื่น
1. ผลของการสาปแช่ง ในโลกนี้
สาปแช่งคนอื่น กลับเข้าหาตัว แช่งให้คนอื่นเจอเรื่องไม่ดีอย่างไร โดนเอง ท่านนบีมุฮัมมัดจึงสอนไม่ให้ด่าว่า หรือสาปแช่งใคร
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า "แท้จริงบ่าวนั้น เมื่อได้แช่งด่าสิ่งใดๆ คำแช่งด่านั้น จะขึ้นไปสู่ฟ้าเบื้องบน ประตูฟ้าจะถูกปิดไม่ให้คำแช่งด่านั้นเข้าไป จากนั้นมันจะลงมายังพื้นดิน ประตูของพื้นดินจะถูกปิดไม่ให้มันเข้ามา จากนั้นมันจะมาทางขวาและซ้าย เมื่อไม่พบทางไป มันก็จะกลับไปหาคนที่ถูกแช่งด่า ถ้าหากผู้นั้นควรแก่การถูกแช่งด่า (มันก็จะอยูกับผู้นั้น) และถ้าไม่เช่นนั้น มันก็จะกลับไปหาผู้พูด" (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดย อบูดาวูด)
2. ผลของการกล่าวหา ใส่ร้าย ในโลกหน้า
ใส่ร้ายคนอื่น โลกหน้าความดีจะตกไปให้คนที่ถูกใส่ร้าย และเมื่อชดใช้ไม่หมด ความชั่วของคนถูกใส่ร้าย จะมาอยู่ที่เขาแทน
3. บททดสอบ ภัยพิบัติ ความวุ่นวาย มีสาเหตุเพราะไม่ห้าม ไม่เตือน
จะปล่อยให้ชุมชน สังคม สื่อออนไลน์ ใครจะทำอะไรก็ได้ เรื่องของเขา เราก็ต้องรับผลของการไม่ตักเตือนนั้นด้วย เช่น ในบางสังคมที่ปล่อยให้มีการเสพยาเสรี สุดท้าย แต่ละคนอยู่กลางถนน เมาเสียการเสียงาน มีขโมย มีประท้วง วุ่นวาย