ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/43747784
ตอนที่ 2
https://pantip.com/topic/43759690
ตอนที่ 3
https://pantip.com/topic/43769052
ตอนที่ 4
https://pantip.com/topic/43781023
ตอนที่ 5
https://pantip.com/topic/43793095
เรื่องของผมที่เล่า เพื่อให้เป็นบทเรียนคนที่คิดทะเยอทะยานแบบผมนี้ อาจจะไม่โชคดีเหมือนผม ความโลภ -ความอยาก ไม่ได้สำเร็จง่าย ๆ
เมื่อผมลาออก ได้บำเน็จเงินก้อนหนึ่ง ผมเอาไปลงที่ตลาดหลักทรัพย์ ..มีความมั่นใจสูงว่าต้องประสปผลสำเร็จ..แต่ล้มเหลวแบบไม่เป็นท่า
ผมเข้าซื้อหุ้น kce 96 บาท(พาร์ 10) ถือ วันหนึ่งเดินเข้าห้องค้า ได้ยินเสียงพูดคุยกันผมเงี่ยหูฟัง ..."fin1 มันลงอะไรกันตั้งแต่สองร้อยกว่า ๆ..เหลือ27แล้ว ใครไม่ซื้อก็บ้าแล้ว" แล้วเขาถามผม ถืออะไรอยู่ พอผมบอก เขาก็พูดว่า "ถือทำไมมันไม่ไปไหนขึ้นนิดหน่อยลงนิดหน่อย ลองเลือกซื้อไฟแนนซ์สักตัวซิ"
ผมตัดสินใจในวันรุ่งขึ้น ขาย kce ออกไป โดดเข้า fin1 ที่ฟลอร์ 24.75 ด้วยความหวังว่าพรุ่งนี้เด้งแล้วขายตามลุงเสียงดังที่คุย และวันนั้น ก็ถูก sp......ลดค่าเงินบาท เปิดเทรดอีกที ผมขายทิ้งได้ราคา 2 บาท ในขณะที่ kce วิ่งไปที่ ห้าร้อยกว่า ๆภายในเดือนสองเดือน.....แทบกลับบ้านไม่ถูก ความท้อแท้ สิ้นหวังประดังประเดเข้ามา ตั้งแต่วันนั้นจนบัดนี้ ผมไม่เชื่อใครอีกแล้วในการลงทุน ผมถอยห่างตลาดหุ้นเพราะไม่มีเงินแล้ว
แฟนผมปลอบใจ ไม่เป็นไร เริ่มใหม่ได้ ผมตัดสินใจเข้าช่วยพี่ดูแลการสร้างบ้าน ช่วงนั้นเขาไม่ไหวเด็ก ๆ มีราว50 + คน สร้างราว ๆสามพื้นที่ ผมดูแลส่วนบ้านเดี่ยว (ผมอ่านเซอร์กิต ซ่อมเครื่องเสียง ทีวีได้ ก็อ่านแปลนได้ ) ดูแลให้เป็นไปตามแบบ ช่วงนั้นผู้รับเหมาล้มหายไปหมด เราไม่ต้องหางาน บ้านเดี่ยววิ่งเข้ามารอคิวให้สร้างให้ เราจะทำบ้านเดี่ยวปีละ 3 หลังเท่านั้น อีกส่วนเป็นพวกหอพัก โครงการบ้านจัดสรรค์ที่เจ้าของเขาขอให้ช่วย จนปี 46 พี่บอกเบื่อตื่นแต่เช้า กลับบ้านมืด เหนื่อย เราหยุดรับเหมาดีไหม? สร้างโรงงานเล็ก ๆ สักหลัง ผมตามใจพี่เขา จากนั้นคัดเลือกคนนางที่ไว้ใจ ชื่อมือว่าวทำได้เก็บไว้ไม่เกิน 7 คน ส่วนคนงานที่ไม่ได้ไปต่อ ส่งต่อให้ผู้รับเหมารายอื่นที่รู้จักกัน
เราสร้างเป็นโกดังเล็ก ๆ เรื่องไฟฟ้า ผมเป็นผู้วางระบบ เดินไฟฟ้าทั้งหลัง เมื่อโรงงานเสร็จจดทะเบียนบริษัท ทำงาน ตัด พับ เจาะ ขึ้นรูปชิ้นงานเล็ก ๆ ตามแต่คู่ค้าต้องการ โดยแบ่งงานความรับผิดชอบ ผมดูแลฝ่ายผลิต-ธุรการ พี่ดูแลการเงิน - การตลาด ช่วงแรก ๆ งานไม่เข้า ท้อเหมือนกัน ทนทำจากปี 47- 50 ทุนเริ่มร่อยหรอ กำลังคิดว่าจะหยุด ไม่งั้นกินทุนหมด แต่โชคเข้าข้างได้คู่ค้าเพิ่ม ทำให้บริษัทเริ่มเป็นบวก (ข้อกำหนด เราไม่รับขาจร รับความเสี่ยงน้อยที่สุด คู่ค้าต้องนำMaterialมาเอง เรารับเฉพาะค่าแรง ประกันความเสียหายไม่เกิน 2 %ถ้าเกินโรงงานออกให้ เศษของMaterialเป็นของโรงงาน)
บริษัทเดินไปด้วยดี จากคู่ค้า1-2 บริษัท ปัจจุบันอยู่ที่ 5 บริษัทแค่นี้ก็พอใจ
ผมเริ่มเข้าตลาดหุ้นอีกครั้งด้วยความระมัดระวังตั้งแต่ปี 52 -ปัจจุบัน ผมไม่ห่วงธุรกิจแล้วส่งต่อให้หลานรับผิดชอบ ส่วนผมเกษียณตัวเองออกมาดูห่าง ๆ บอกตรง ๆ ตอนนี้ผมไม่อยากได้ร้อยล้าน พันล้านอีกแล้ว ขออยู่แบบไม่มีหนี้สิน ลงทุนเล็กน้อยแค่กันสมองฝ่อ.. มีเงินสำรองเพื่อดูแลคู่ชีวิตให้มีความสุขตามอัตภาพก็พอแล้ว เวลาต่อจากนี้มีไว้ให้คู่ชีวิตที่อยู่เคียงข้างเท่านั้น ไม่อยากให้เป็นไปตามคุณปูครับ
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ
กลับสู่ความพอเพียง(ตอนจบของการทำงาน)
ตอนที่ 2 https://pantip.com/topic/43759690
ตอนที่ 3 https://pantip.com/topic/43769052
ตอนที่ 4 https://pantip.com/topic/43781023
ตอนที่ 5 https://pantip.com/topic/43793095
เรื่องของผมที่เล่า เพื่อให้เป็นบทเรียนคนที่คิดทะเยอทะยานแบบผมนี้ อาจจะไม่โชคดีเหมือนผม ความโลภ -ความอยาก ไม่ได้สำเร็จง่าย ๆ
เมื่อผมลาออก ได้บำเน็จเงินก้อนหนึ่ง ผมเอาไปลงที่ตลาดหลักทรัพย์ ..มีความมั่นใจสูงว่าต้องประสปผลสำเร็จ..แต่ล้มเหลวแบบไม่เป็นท่า
ผมเข้าซื้อหุ้น kce 96 บาท(พาร์ 10) ถือ วันหนึ่งเดินเข้าห้องค้า ได้ยินเสียงพูดคุยกันผมเงี่ยหูฟัง ..."fin1 มันลงอะไรกันตั้งแต่สองร้อยกว่า ๆ..เหลือ27แล้ว ใครไม่ซื้อก็บ้าแล้ว" แล้วเขาถามผม ถืออะไรอยู่ พอผมบอก เขาก็พูดว่า "ถือทำไมมันไม่ไปไหนขึ้นนิดหน่อยลงนิดหน่อย ลองเลือกซื้อไฟแนนซ์สักตัวซิ"
ผมตัดสินใจในวันรุ่งขึ้น ขาย kce ออกไป โดดเข้า fin1 ที่ฟลอร์ 24.75 ด้วยความหวังว่าพรุ่งนี้เด้งแล้วขายตามลุงเสียงดังที่คุย และวันนั้น ก็ถูก sp......ลดค่าเงินบาท เปิดเทรดอีกที ผมขายทิ้งได้ราคา 2 บาท ในขณะที่ kce วิ่งไปที่ ห้าร้อยกว่า ๆภายในเดือนสองเดือน.....แทบกลับบ้านไม่ถูก ความท้อแท้ สิ้นหวังประดังประเดเข้ามา ตั้งแต่วันนั้นจนบัดนี้ ผมไม่เชื่อใครอีกแล้วในการลงทุน ผมถอยห่างตลาดหุ้นเพราะไม่มีเงินแล้ว
แฟนผมปลอบใจ ไม่เป็นไร เริ่มใหม่ได้ ผมตัดสินใจเข้าช่วยพี่ดูแลการสร้างบ้าน ช่วงนั้นเขาไม่ไหวเด็ก ๆ มีราว50 + คน สร้างราว ๆสามพื้นที่ ผมดูแลส่วนบ้านเดี่ยว (ผมอ่านเซอร์กิต ซ่อมเครื่องเสียง ทีวีได้ ก็อ่านแปลนได้ ) ดูแลให้เป็นไปตามแบบ ช่วงนั้นผู้รับเหมาล้มหายไปหมด เราไม่ต้องหางาน บ้านเดี่ยววิ่งเข้ามารอคิวให้สร้างให้ เราจะทำบ้านเดี่ยวปีละ 3 หลังเท่านั้น อีกส่วนเป็นพวกหอพัก โครงการบ้านจัดสรรค์ที่เจ้าของเขาขอให้ช่วย จนปี 46 พี่บอกเบื่อตื่นแต่เช้า กลับบ้านมืด เหนื่อย เราหยุดรับเหมาดีไหม? สร้างโรงงานเล็ก ๆ สักหลัง ผมตามใจพี่เขา จากนั้นคัดเลือกคนนางที่ไว้ใจ ชื่อมือว่าวทำได้เก็บไว้ไม่เกิน 7 คน ส่วนคนงานที่ไม่ได้ไปต่อ ส่งต่อให้ผู้รับเหมารายอื่นที่รู้จักกัน
เราสร้างเป็นโกดังเล็ก ๆ เรื่องไฟฟ้า ผมเป็นผู้วางระบบ เดินไฟฟ้าทั้งหลัง เมื่อโรงงานเสร็จจดทะเบียนบริษัท ทำงาน ตัด พับ เจาะ ขึ้นรูปชิ้นงานเล็ก ๆ ตามแต่คู่ค้าต้องการ โดยแบ่งงานความรับผิดชอบ ผมดูแลฝ่ายผลิต-ธุรการ พี่ดูแลการเงิน - การตลาด ช่วงแรก ๆ งานไม่เข้า ท้อเหมือนกัน ทนทำจากปี 47- 50 ทุนเริ่มร่อยหรอ กำลังคิดว่าจะหยุด ไม่งั้นกินทุนหมด แต่โชคเข้าข้างได้คู่ค้าเพิ่ม ทำให้บริษัทเริ่มเป็นบวก (ข้อกำหนด เราไม่รับขาจร รับความเสี่ยงน้อยที่สุด คู่ค้าต้องนำMaterialมาเอง เรารับเฉพาะค่าแรง ประกันความเสียหายไม่เกิน 2 %ถ้าเกินโรงงานออกให้ เศษของMaterialเป็นของโรงงาน)
บริษัทเดินไปด้วยดี จากคู่ค้า1-2 บริษัท ปัจจุบันอยู่ที่ 5 บริษัทแค่นี้ก็พอใจ
ผมเริ่มเข้าตลาดหุ้นอีกครั้งด้วยความระมัดระวังตั้งแต่ปี 52 -ปัจจุบัน ผมไม่ห่วงธุรกิจแล้วส่งต่อให้หลานรับผิดชอบ ส่วนผมเกษียณตัวเองออกมาดูห่าง ๆ บอกตรง ๆ ตอนนี้ผมไม่อยากได้ร้อยล้าน พันล้านอีกแล้ว ขออยู่แบบไม่มีหนี้สิน ลงทุนเล็กน้อยแค่กันสมองฝ่อ.. มีเงินสำรองเพื่อดูแลคู่ชีวิตให้มีความสุขตามอัตภาพก็พอแล้ว เวลาต่อจากนี้มีไว้ให้คู่ชีวิตที่อยู่เคียงข้างเท่านั้น ไม่อยากให้เป็นไปตามคุณปูครับ
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ