สวัสดีครับทุกคน หลังจากโพสกระทู้นี้ไปเกือบหนึ่งเดือน
พ่อบ้านอย่างผมเห็นราคา Model 3 Long Range Rear-Wheel Drive แล้วเครื่องคิดเลขในหัวทำงานทันทีเลย
และแล้วก็อดใจไม่ไหว ก็ตงลงนัดวันกับ Roblox Buddy เอ้ย หมายถึงลูกสาว
ว่าวันนี้แหละ เราต้องหยุดวิ่งหนีกวาง ใน 99 nights in the Forset และไปลอง Test Drive กันเหอะ
สาขาที่ไปลอง Test Drive คือสาขาที่ One Bangkok ครับ
เลยอยากมาเล่าให้อ่าน เผื่อจะเป็นข้อมูลสำหรับใครที่กำลังสนใจ
หลังจอดจอดรถที่ชั้น B1 นั่ง Shuttle Bus ไปที่ Tower 4 ได้เลยครับ หรือจะไปจอดแถวๆ Tower 4 เลยก็ได้
อย่าลืมพกบัตรไปด้วยนะครับ ผมไปสองวันเพราะ วันแรกลืมกระเป๋าตังไว้ที่บ้าน T-T
ลูกสาวผม 9 ขวบ ตัวค่อนข้างโตกว่าเด็กในรุ่นเดียวกันนะครับ แอบเป็นห่วงเรื่องเป็นสาวก่อนวันเหมือนกัน
อ่ะมาเริ่มเกันเลยครับ ถึง Tesla แลเวก็บอกน้อง TA ได้เลยว่านัดไว้ ชื่ออะไรกี่โมง
คือตอนแรกเราคิดแค่ว่ามันก็คงเป็น รถไฟฟ้า ที่เหมือนกับคันที่บ้านนี่แหละ ขับเงียบ ๆ ประหยัด ๆ
แต่พอได้ลองจริง ๆ ต้องบอกเลยว่าความรู้สึกมันต่างจากที่คิดไปโคตรไกล
พอกดคันเร่งครั้งแรกคือหลังติดเบาะเลย แบบฟิ้ว.......... โดนลูกเอ็ดไปหนึ่งคำเบาๆ
ทั้งที่ก่อนหน้านี้เราก็เคยขับ EV
แต่ Tesla แบบควาแรงโคตรจะ ขับแล้วรู้สึกสนุก
ไม่ใช่ EV ที่วิ่งเรื่อย ๆ แต่คือฟีลรถสปอร์ต แล้วตัวจริงก็สวยจริง ลูกสาวผมนะ
อ่ะล้อเล่น ก็สวยทั้งรถทั้งลูกสาวผมแหละ 55555
สิ่งที่เซอร์ไพรส์สุด: OTA Updates
คือสิ่งที่ผมเข้าใจเนี่ย OTA Update ก็เหมือน Update UI แก้ Bug เหมือนรถไฟฟ้าคันที่ใช้อยู่
แต่ตอนที่พนักงานอธิบาย เราถึงได้รู้ว่า Tesla
มันอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตได้
เหมือนมือถือที่มี iOS หรือ Android Update
เจ้าของรถไม่ต้องเข้าศูนย์ให้ยุ่งยาก
ฟีเจอร์ใหม่ ๆ จะถูกส่งตรงเข้ารถ เช่น ระบบช่วยขับ หรือความบันเทิงในจอ
รถมันฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะซื้อไปแล้วหลายปี
ตรงนี้แหละที่ทำให้ผมเข้าใจว่าทำไมคนถึงพูดว่า Tesla
ไม่ใช่แค่ EV แต่มันคือ “ซอฟต์แวร์ที่ขับได้”
แล้วสิ่งที่รู้สึกว่าอยากลองและขาดไม่ได้คือ Autopilot บนทางด่วนยาว ๆ
(แนะนำให้มาก่อนบ่ายสองนะครับ รถบนทางด่วนยังไม่ค่อยติดน้องพาขึ้นทางด่วนได้)
ความรู้สึกเหมือนมีผู้ช่วยมาขับแทนเราเลย รถจัดการเร่ง เบรก และรักษาช่องทางได้เอง
เราเองยังต้องจับพวงมาลัยอยู่ แต่ความเหนื่อยหายไปเกินครึ่ง เรานั่งชิลได้มากกว่าที่คิด
แล้วกล้องรอบคันแปดตัว แทบจะเห็นทุกซอกทุกมุมละ
สรุปเลยละกัน
ก่อนลอง ก็คิดว่ามันต้องดีแหละ แต่มาลองแล้วมันดีกว่าที่คิดเยอะมากอ่ะ
ปล. ไม่ได้ถ่ายรูปตอน Test Drive มานะครับ คิดว่าเค้าไม่น่าอนุญาตเลยไม่ได้ขอ
พ่อบ้านอย่างผมเห็นราคา Tesla Model 3 Long Range Rear-Wheel Drive แล้วใจมันสั่นจนต้องไปลอง Test Drive
พ่อบ้านอย่างผมเห็นราคา Model 3 Long Range Rear-Wheel Drive แล้วเครื่องคิดเลขในหัวทำงานทันทีเลย
และแล้วก็อดใจไม่ไหว ก็ตงลงนัดวันกับ Roblox Buddy เอ้ย หมายถึงลูกสาว
ว่าวันนี้แหละ เราต้องหยุดวิ่งหนีกวาง ใน 99 nights in the Forset และไปลอง Test Drive กันเหอะ
สาขาที่ไปลอง Test Drive คือสาขาที่ One Bangkok ครับ
เลยอยากมาเล่าให้อ่าน เผื่อจะเป็นข้อมูลสำหรับใครที่กำลังสนใจ
หลังจอดจอดรถที่ชั้น B1 นั่ง Shuttle Bus ไปที่ Tower 4 ได้เลยครับ หรือจะไปจอดแถวๆ Tower 4 เลยก็ได้
อย่าลืมพกบัตรไปด้วยนะครับ ผมไปสองวันเพราะ วันแรกลืมกระเป๋าตังไว้ที่บ้าน T-T
ลูกสาวผม 9 ขวบ ตัวค่อนข้างโตกว่าเด็กในรุ่นเดียวกันนะครับ แอบเป็นห่วงเรื่องเป็นสาวก่อนวันเหมือนกัน
อ่ะมาเริ่มเกันเลยครับ ถึง Tesla แลเวก็บอกน้อง TA ได้เลยว่านัดไว้ ชื่ออะไรกี่โมง
คือตอนแรกเราคิดแค่ว่ามันก็คงเป็น รถไฟฟ้า ที่เหมือนกับคันที่บ้านนี่แหละ ขับเงียบ ๆ ประหยัด ๆ
แต่พอได้ลองจริง ๆ ต้องบอกเลยว่าความรู้สึกมันต่างจากที่คิดไปโคตรไกล
พอกดคันเร่งครั้งแรกคือหลังติดเบาะเลย แบบฟิ้ว.......... โดนลูกเอ็ดไปหนึ่งคำเบาๆ
ทั้งที่ก่อนหน้านี้เราก็เคยขับ EV
แต่ Tesla แบบควาแรงโคตรจะ ขับแล้วรู้สึกสนุก
ไม่ใช่ EV ที่วิ่งเรื่อย ๆ แต่คือฟีลรถสปอร์ต แล้วตัวจริงก็สวยจริง ลูกสาวผมนะ
อ่ะล้อเล่น ก็สวยทั้งรถทั้งลูกสาวผมแหละ 55555
สิ่งที่เซอร์ไพรส์สุด: OTA Updates
คือสิ่งที่ผมเข้าใจเนี่ย OTA Update ก็เหมือน Update UI แก้ Bug เหมือนรถไฟฟ้าคันที่ใช้อยู่
แต่ตอนที่พนักงานอธิบาย เราถึงได้รู้ว่า Tesla มันอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตได้
เหมือนมือถือที่มี iOS หรือ Android Update
เจ้าของรถไม่ต้องเข้าศูนย์ให้ยุ่งยาก
ฟีเจอร์ใหม่ ๆ จะถูกส่งตรงเข้ารถ เช่น ระบบช่วยขับ หรือความบันเทิงในจอ
รถมันฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะซื้อไปแล้วหลายปี
ตรงนี้แหละที่ทำให้ผมเข้าใจว่าทำไมคนถึงพูดว่า Tesla
ไม่ใช่แค่ EV แต่มันคือ “ซอฟต์แวร์ที่ขับได้”
แล้วสิ่งที่รู้สึกว่าอยากลองและขาดไม่ได้คือ Autopilot บนทางด่วนยาว ๆ
(แนะนำให้มาก่อนบ่ายสองนะครับ รถบนทางด่วนยังไม่ค่อยติดน้องพาขึ้นทางด่วนได้)
ความรู้สึกเหมือนมีผู้ช่วยมาขับแทนเราเลย รถจัดการเร่ง เบรก และรักษาช่องทางได้เอง
เราเองยังต้องจับพวงมาลัยอยู่ แต่ความเหนื่อยหายไปเกินครึ่ง เรานั่งชิลได้มากกว่าที่คิด
แล้วกล้องรอบคันแปดตัว แทบจะเห็นทุกซอกทุกมุมละ
สรุปเลยละกัน
ก่อนลอง ก็คิดว่ามันต้องดีแหละ แต่มาลองแล้วมันดีกว่าที่คิดเยอะมากอ่ะ
ปล. ไม่ได้ถ่ายรูปตอน Test Drive มานะครับ คิดว่าเค้าไม่น่าอนุญาตเลยไม่ได้ขอ