แชร์ประสบการณ์ออกรถไฟฟ้าคันแรกครับหลังใช้มา 1 ปีครับ และเหตุผลที่เลือกคันนี้

จริงๆต้องบอกว่าช่วงรถไฟฟ้าออกใหม่ๆ ผมไม่ได้สนใจเลยนะครับ เพราะราคาช่วงเปิดตัวประมาณปี 64-65 ของหลายๆยี่ห้อ นั้นแพงระดับ 1 ล้านอัพทั้งนั้น ซึ่งราคามันสูงมากไป แต่มาเริ่มสนใจรถไฟฟ้าจริงๆตอนกลางปี 2567 เนื่องจากรถคันเก่าคันนึง คือวีออสที่ซื้อตั้งแต่ปี 2554 ค่อนข้างเก่าและกินน้ำมัน ประกอบกับรถไฟฟ้ามีหลายยี่ห้อเริ่มลดราคาขายลงครับ ตอนนั้นมองหารถขนาดกลาง ที่ราคาลงมาอยู่ในช่วง 600,000 - 900,000 บาท จะมี Ora good cat, BYD atto3, BYD dolphin, Neta X และ MG4 ที่มองเอาไว้ครับ  และผมมีข้อตัดสินใจดังนี้ครับ

1. อยากได้ราคาไม่แพง เพราะรู้ว่าราคาขายต่อจะลดลงกว่ารถน้ำมันแน่ๆอยู่แล้ว อีกทั้งค่าประกันภัยก็สูงกว่า ถ้าเราได้รถที่ราคาไม่แพงก็น่าจะทำให้ส่วนต่างอื่นๆถูกลงครับ ใจจริงถ้ารถไฟฟ้าล้วนเป็นตลาดทั่วไปแบบรถน้ำมันที่ราคาขายต่อไม่ลดมาก ประกันไม่แพง ก็อยากออก Tesla หรือ Deepal S07 ไปเลยครับ

2. อยากได้ยี่ห้อและรุ่นรถที่มีการเปิดตัวรถมาซักพักแล้ว อันนี้เพื่อป้องกันเรื่อง defect จากรถที่เปิดตัวใหม่ๆ อาจมีอะไรที่คาดไม่ถึง และยังไม่ได้แก้ไขปัญหา   ทำให้ตอนนั้นตัดตัวเลือกอย่าง Neta X ออกครับ เพราะเป็นช่วงที่พึ่งเปิดตัวใหม่พอดี

3. ศูนย์บริการมีการเปิดตัวมาซักระยะ มีโรงงานในไทยแล้ว ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่เลือก 4 ยี่ห้อด้านบน ซึ่งข้อนี้ก็ผิดพลาดนิดนึงตรงที่มี Neta ในตัวเลือกครับ เพราะตอนนั้นมีโรงงานประกอบในไทยแล้ว แต่ไม่คิดว่าบริษัทแม่ที่จีนจะมีปัญหาหนัก ซึ่งตอนนั้นไม่ได้มองเรื่องบริษัทแม่เลยครับ อันนี้อาจจะต้องเพิ่มเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจด้วย

สรุปทำให้ตอนนั้นผมตัดสินใจเลือก Ora good cat pro ครับ ซึ่งในตัวเลือกทั้งหมดนั้น คันนี้ได้ระยะแบตสูงสุดในราคาถูกที่สุดด้วยครับ ได้ระยะแบต 480 km ในราคา 629,000 บาทครับ เป็นราคาตอนเดือน กย 2567 ครับ ยี่ห้ออื่นอย่าง BYD ทั้ง dolphin, atto3 ที่เป็น extended range และ MG4 long range ราคาจะสูงกว่าหมดเลย และตอนนั้นไม่ได้คิดเรื่อง option อะไรเป็นหลักด้วยครับ

คราวนี้มารีวิวหลังใช้มาครบ 1 ปีนะครับ ต้องบอกว่าการใช้งานผม 1 ปีที่ผ่านมา วิ่งไปแค่ 20,000 กว่า km ครับ ปัญหาการใช้งานรถยังไม่มีเลยครับ และเป็นการวิ่งไปทำงานส่วนตัวเป็นหลัก เนื่องจากมีรถน้ำมันที่บ้านเป็นปาเจโร่อีกคัน ซึ่งเอาไว้ใช้เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดครับ เพราะพาครอบครัวไปใช้รถขนาดใหญ่ และไม่อยากเสียเวลากับการชาร์จระหว่างทางครับ อันนี้ก็ยังรู้สึกว่าเรายังใช้รถไฟฟ้าวิ่งน้อยไปไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ครับ

ในช่วง 1 ปีที่ใช้ มีการเคลมซ่อม 1 ครั้ง เป็นกันชนหน้าแตกครับ มีการเบิกเปลี่ยนอะไหล่ใหม่บางส่วน ซึ่งทางศูนย์ GWM เรื่องการประสานงานตามงานซ่อมให้ดีพอสมควรเลยครับ แต่การใช้เวลาซ่อมรู้สึกนานไปหน่อย เพราะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ในการจอดซ่อมเลย แต่รวมๆถือว่า ok ครับ

การใช้งานชาร์จ ต้องบอกว่าผมไม่ได้ใช้ wall charge นะครับ เพราะด้วยการใช้งานผมต้องไปทำงานต่างจังหวัดและวิ่งกลับบ้านเวลาวันหยุด ไม่ค่อยสะดวกติดที่ชาร์จ 2 ที่ เลยใช้การชาร์จตามตู้ชาร์จนอกล้วนเลย ซึ่งอันนี้ไม่ค่อยมีปัญหาครับ เพราะก่อนซื้อรถ ทำการสำรวจจุดชาร์จรอบๆที่อยู่ ที่ทำงาน และระหว่างเส้นทางการเดินทางไว้แล้ว ซึ่งตรงนี้แนะนำว่าควรศึกษาให้ดีก่อน และบริเวณรอบๆควรมีจุดชาร์จให้เลือกมากกว่า 1 จุดครับ

มาส่วนของประกันรถ ล่าสุดต่อมาชั้น 1 อยู่ประมาณ 22,000 บาท ครับ ก็แพงนิดๆครับ ถ้ารถน้ำมันคงอยู่ประมาณต่ำกว่า 20,000 แน่ๆ

สรุปโดยรวมๆถือว่าพอใจ แต่ยังไม่สุดครับ ส่วนที่พอใจก็คือยังไม่เจอปัญหาการใช้งานรถ และได้อัตราเร่งรถที่ถือว่าดีกว่ารถน้ำมันไซส์เล็กเลย พวกค่าน้ำมันก็ถูกไปเยอะครับ แต่ยังไม่ถึงที่สุดตรงที่ยังรู้สึกใช้รถน้อยไปหน่อยครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่