*คำเตือน* กระทู้นี้อาจยาวกว่าจะเข้าคำถาม แต่อยากเล่าเรื่องราวชีวิตของเรา เผื่อจะช่วยประกอบการให้คำแนะนำกับทุกๆท่านได้ค่ะ
สวัสดีค่ะ นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ได้ที่กลับมาเขียนกระทู้ ลองย้อนอ่านกระทู้เก่าๆที่ตัวเองเคยเขียนหรือตั้งคำถามแล้วก็รู้สึกว่าเราก็โตขึ้นมานิดนึงแล้วนะ จากเด็กที่ยังเรียนมัธยม สู่ช่วงกำลังเตรียมเข้ามหาลัย การเลือกคณะ จนมาสู่ช่วงที่กำลังหางานทำ
ตอนนี้เราก็ทำงานมาได้ 3ปีกว่าแล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่างานแรกที่เราได้ทำหลังจากเรียนจบจะสามารถทำมาได้นานขนาดนี้ ที่ทำงานที่เราทำมันก็มีทั้งข้อดี และ ข้อเสีย (บางทีอาจจะข้อเสียกว่าด้วยซ้ำ)
เล่าก่อนว่าบริษัทเราเป็นบริษัทเอกชนเล็กๆ แนว home office มีพนักงานทั้งหมดรวมเจ้าของบริษัทด้วยก็ประมาณ 10 คน เป็นบริษัทขนาดเล็กจริงๆ หน้างานทำเกี่ยวกับการขายอะไฟล่แต่งรถ ทางแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์หลากหลายแพลตฟอร์ม และมีหน้าร้านบ้างปะปลาย เพราะเน้นทางออนไลน์มากกว่า ขายได้ต่อวันก็ประมาณ 300+ ออเดอร์ บางทีช่วงหยุดยาวก็มีประมาณ 400-500 ออเดอร์ ต่อวัน
เราเรียนจบด้วยวุฒิ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) การบัญชี ด้วยเกรดเฉลี่ย 2.68 เป็นคนเรียนไม่เก่ง แต่ก็พยายามจนเรียนจบมาได้ หลังเรียนจบได้ประมาณ 2 เดือน เราก็ได้เข้าทำงานที่บริษัทแห่งนี้ ทำงานมาได้เข้าสู่ปีที่ 2 เราก็สมัครเรียนเพิ่มวุฒิ ปริญญาตรี
ข้อดีของการทำงานที่นี่
1.ใกล้บ้านมากๆ เราเดินทางไม่ถึง 5 นาที
2.เราไม่ต้องเสียค่าที่พัก เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้
3.จำนวนพนักงานน้อย แม้จะมีความกดดันอยู่บ้างต่อเพื่อนร่วมงาน แต่ด้วยความที่จำนวนน้อย จึงไม่ได้เป็นปัญหาในเรื่องการขัดแย้งในที่ทำงาน หรือความเห็นไม่ตรงกันมากนัก
4.แรงกดดัน เราสามารถทนรับแรงกดดันจากหัวหน้างาน หรือ จากงานได้พอสมควร เนื่องจากเป็นบริษัทเล็กๆ จึงไม่ได้มีปัญหาอะไรใหม่ๆเข้ามามากนัก
5.เราค่อนข้างสนิท และมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันกับพนักงานยคนอื่นๆที่นี่
6.สามารถลาสอบได้
ข้อเสียของการทำงานที่นี่
1.สวัสดิการ
1.1 การลาหยุด ลาพักร้อน ไม่มี การจะลาแต่ละทีขึ้นอยู่กับการได้รับออนุญาติจากเจ้านายอีกที (เนื่องจากเราบอกเขาแต่เนิ่นๆเรื่องการขอลาสอบ เขาก็ไม่ได้ติดขัดอะไร แต่ทุกครั้งที่จะลา เขาจะมีท่าทีเหมือนกับว่าลาบ่อยจัง ลาอีกแล้ว ยังเรียนไม่จบอีกหรอ ทั้งที่เราพึ่งเรียนมาได้ 2 ปีเอง และด้วยความเราไม่อยากลาเยอะ ลาบ่อย ลาถี่ในแต่ละเทอม เราจะพยายามจัดตารางลงสอบให้ไม่เกินเทอมละ 2 วัน เหตุเพราะด้วยความที่บริษัทมีพนักงานพอดีตำแหน่ง เมื่อไหร่ที่เราลา เท่ากับตำแหน่งงานเราตอนนั้นต้องหยุดชะงักไปด้วย เราจึงสามารถลงสอบ/เรียน ต่อเทอมได้น้อย จึงทำให้คาดเดาว่าอาจใช้เวลาในการเรียนกว่าจะจบอาจจะยืดยาวหน่อย อาจไม่ตรงตามหลักสูตร 4 ปี)
1.2 การปรับเลื่อนเงินเดือน ตามแต่เจ้านาย ทำมา 3 ปี เราเงินเดือนปัจจุบัน 13,000 บาท พึ่งได้เงินเดือนขึ้นปีที่ 2 มา 1,000 ปีที่ 3 ไม่มีการปรับเงินเดือน และคาดว่าจะไม่มีอีกแล้ว (หรือมันคือปกติ อันนี้เราไม่แน่ใจ ใครมีประสบการณ์รบกวนชี้แนะให้หน่อยนะคะ)
1.3 โบนัสปลายปี เราทำงานมา 3 ปี โบนัสยังได้ไม่ถึง 1 เดือนเลย (หรืออันนี้ก็เรื่องปกติหรือเปล่า)
2. ความก้าวหน้าในฝีมือ หรือทักษะการทำงาน บริษัทแห่งนี้ไม่มีระบบใดๆเลย เราทำงานกันอย่างไม่เป็นขั้นตอนมากนัก และไม่ค่อยเป็นระบบ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการทำงานอย่างเป็นระบบคืออะไร รู้แค่ว่าเจ้านายสั่งให้ทำอะไรก็ทำ
2.1 เราสมัครเข้ามาตำแหน่งพนักงานฝ่ายบัญชี แต่พอเริ่มงานจริงเราต้องไปคอยปริ้นออเดอร์ลูกค้าที่สั่งมาทางออนไลน์
2.2 บางทีแพ็คไม่ทันคนไม่พอก็ต้องไปทำงานแพ็ค
2.3 งานหลักก็คือการตอบแชทลูกค้าที่สอบถามเรื่องสินค้า ประสานงานกับsupplier บางเจ้า คอยทำจัดซื้อpacking วางplan produce ทำเอกสารค่าใช้จ่ายส่งให้บัญชีบริษัทเอกชนอีกที คอยเช็ค stock-in เมื่อมีของเข้า คอยตรวจสอบรายการสินค้าของ link ในแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำโปรโมชั่นแพลตฟอร์ม คอยดูปัญหาเมื่อลูกค้าพบสินค้ามีปัญหา คอนออกเอกสารสำคัญ เช่น ใบกำกับภาษี ใบแจ้งหนี้ ใบลดหนี้ ใบเสนอราคา คอยเช็คราคาmaterial และจิปาถะอีกมากมาย
2.4 ถึงเราจะทำในหลายๆหน้าที่ แต่เราก็รู้สึกว่าเราไปไม่สุดสักอย่าง ตอนแรกก็คอยมองเป็นข้อดีว่ามันก็ไม่น่าเบื่อดี แต่พองานเยอะ หรืองานเข้ามาพร้อมกันทีเดียวหลายๆอย่าง บอกตามตรงเรารู้สึกว่าเรายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างดี
3. การพัฒนาตัวเอง ตอนนี้เราทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ 8-10 ชม. ต่อวัน (โดยส่วนใหญ่จะ 10 ชม ต่อวัน เนื่องจากงานเยอะ บางงานต้องเคลียร์ให้เสร็จภายในวัน) ทุกวันนี้เหมือนทำงานเสร็จ เลิกงาน 2 ทุ่ม กลับมาให้เวลาตัวเองและครอบครัว แล้วก็เป็นกิจวัตรวนไปแบบนี้เรื่อยๆ วันหยุดไม่ค่อยมี แต่มีทีก็ไปเที่ยวกับครอบครัวบ้าง ไปกับเพื่อนบ้าง ช่วงไหนที่ต้องสอบ ก็หลังเลิกงาน 2 ทุ่ม เตรียมตัวอะไรเสร็จ ก็นั่งอ่านหนังสือยาวถึงเที่ยงคืน เป็นช่วงเวลา 1-2 เดือนก่อนสอบ
เราไม่ได้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรือถนัดอะไร อะไรคือสิ่งที่เราทำได้ดี หรือควรพัฒนาอะไรต่อ ตอนนี้จึงเหมือนยืนเคว้งอยู่คนเดียว ใครจะมาจับให้ไปทำอะไร หรืออยู่ตรงไหนก็ได้
ถ้าถามว่าแล้วทำไมยังไม่เปลี่ยนงานล่ะ คงเพราะตอนแรกเราวางแผนว่าคงเปลี่ยนงานตอนเรียนจบ ป.ตรี จะได้มีวุฒิไปยื่นเข้าทำงานได้ง่ายขึ้น อาจไม่ต้องเป็นบริษัทใหญ่โต แต่ขอแค่เป็นบริษัทที่ทำงานเป็นระบบกว่าที่นี้ ได้ประสบการณืมากกว่านี้ เงินเดือนขึ้นกว่านี้ สวัสดิการดีกว่านี้หน่อย
และอาจรวมถึงเศรษฐกิจไทยในตอนนี้ด้วย เลยไม่คิดว่าการจะเปลี่ยนงานตอนนี้มันจะเป็นความคิดที่เหมาะสมมากนัก อีกอย่างเรายังทนได้กับงาน และกับคน เลยอยากใช้ความอดทนในตอนนี้ใช้กับการทำงานในตอนนี้ให้ได้มากที่สุด
สิ่งเดียวที่เราคิดได้ในเรื่องการวางแผนในอนาคตของเราคงหนีไม่พ้นการวางแผนการเงิน เรามีเงินเดือนที่ 13,000 ถ้าขยันทำOT หน่อยก็อยู่ที่ 15,000-16,000 แต่ค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็เกินครึ่งของเงินเดือนไปแล้ว เหลือใช้ต่อเดือนบางที่ 4,000 (อันนี้หักค่าใช้จ่าย และเงินเก็บสำรองของเราแล้ว) แต่เพราะที่บ้านเราก็ยังมีพ่อที่ส่งเงินมาคอยซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายต่ออาทิตย์บ้าง (อันนี้พ่อเราเป็นชาวสวน เรากับพ่ออยู่คนละจังหวัดกัน เขาเป็นคนเสนอตัวที่จะรับผิดชอบตรงนี้อย่างเต็มใจเอง ส่วนเราก็รับผิดชอบเป็นคนจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ตบ้าน หรืออาหารบางมื้อเท่าที่จะทำได้)
ตอนนี้เราทำประกันสะสมทรัพย์กับธนาคารแห่งหนึ่ง เป็นระยะยาว 15 ปี ตอนนั้นน่าจะอายุเกือบ 40 คงมีเงินสักก้อนนึงในตอนนั้นอาจจะไม่ได้มากมาย แค่คิดว่าเป็นเงินอนาคตที่วางไว้ ตอนช่วงอายุตอนนั้นคงพอเอามาทำอะไรได้บ้าง
เราเป็นคนเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ เหมือนเป็นคนชอบซื้อ ชอบจ่าย เวลาคนที่บ้านอยากกินอะไร หรืออยากได้อะไร หลายๆครั้งมักจะใช้เงินจนติดลบเลยล่ะ เราเลยอยากได้คำแนะนำจากทุกๆคน เรื่องการวางแผนการเงิน การวางแผนชีวิตให้ดีขึ้น เพื่อตัวเราในอนาคต เราควรเริ่มจากอะไรดี อะไรที่มีความเสี่ยงน้อย แต่ผลตอบแทนมั่นคง ไม่ต้องมาก แต่ขอแค่มีความมั่นคงในอนาคต เราเชื่อว่าลำบากตอนนี้ วันหน้าก็คงดีขึ้น
ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำนะคะ
X รบกวนไม่เสนอช่องทางการพนันใดๆ หรือการชักจูงการลงทุนที่เป็นการขายฝัน ขอให้กระทู้นี้เป็นพื้นที่สำหรับคนมีความคิด หรือมีประสบการณ์ที่อยากจะแบ่งปันจริงๆนะคะ X
อายุ 24 ปี ควรวางแผนชีวิตยังไงดี
สวัสดีค่ะ นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ได้ที่กลับมาเขียนกระทู้ ลองย้อนอ่านกระทู้เก่าๆที่ตัวเองเคยเขียนหรือตั้งคำถามแล้วก็รู้สึกว่าเราก็โตขึ้นมานิดนึงแล้วนะ จากเด็กที่ยังเรียนมัธยม สู่ช่วงกำลังเตรียมเข้ามหาลัย การเลือกคณะ จนมาสู่ช่วงที่กำลังหางานทำ
ตอนนี้เราก็ทำงานมาได้ 3ปีกว่าแล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่างานแรกที่เราได้ทำหลังจากเรียนจบจะสามารถทำมาได้นานขนาดนี้ ที่ทำงานที่เราทำมันก็มีทั้งข้อดี และ ข้อเสีย (บางทีอาจจะข้อเสียกว่าด้วยซ้ำ)
เล่าก่อนว่าบริษัทเราเป็นบริษัทเอกชนเล็กๆ แนว home office มีพนักงานทั้งหมดรวมเจ้าของบริษัทด้วยก็ประมาณ 10 คน เป็นบริษัทขนาดเล็กจริงๆ หน้างานทำเกี่ยวกับการขายอะไฟล่แต่งรถ ทางแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์หลากหลายแพลตฟอร์ม และมีหน้าร้านบ้างปะปลาย เพราะเน้นทางออนไลน์มากกว่า ขายได้ต่อวันก็ประมาณ 300+ ออเดอร์ บางทีช่วงหยุดยาวก็มีประมาณ 400-500 ออเดอร์ ต่อวัน
เราเรียนจบด้วยวุฒิ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) การบัญชี ด้วยเกรดเฉลี่ย 2.68 เป็นคนเรียนไม่เก่ง แต่ก็พยายามจนเรียนจบมาได้ หลังเรียนจบได้ประมาณ 2 เดือน เราก็ได้เข้าทำงานที่บริษัทแห่งนี้ ทำงานมาได้เข้าสู่ปีที่ 2 เราก็สมัครเรียนเพิ่มวุฒิ ปริญญาตรี
ข้อดีของการทำงานที่นี่
1.ใกล้บ้านมากๆ เราเดินทางไม่ถึง 5 นาที
2.เราไม่ต้องเสียค่าที่พัก เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้
3.จำนวนพนักงานน้อย แม้จะมีความกดดันอยู่บ้างต่อเพื่อนร่วมงาน แต่ด้วยความที่จำนวนน้อย จึงไม่ได้เป็นปัญหาในเรื่องการขัดแย้งในที่ทำงาน หรือความเห็นไม่ตรงกันมากนัก
4.แรงกดดัน เราสามารถทนรับแรงกดดันจากหัวหน้างาน หรือ จากงานได้พอสมควร เนื่องจากเป็นบริษัทเล็กๆ จึงไม่ได้มีปัญหาอะไรใหม่ๆเข้ามามากนัก
5.เราค่อนข้างสนิท และมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันกับพนักงานยคนอื่นๆที่นี่
6.สามารถลาสอบได้
ข้อเสียของการทำงานที่นี่
1.สวัสดิการ
1.1 การลาหยุด ลาพักร้อน ไม่มี การจะลาแต่ละทีขึ้นอยู่กับการได้รับออนุญาติจากเจ้านายอีกที (เนื่องจากเราบอกเขาแต่เนิ่นๆเรื่องการขอลาสอบ เขาก็ไม่ได้ติดขัดอะไร แต่ทุกครั้งที่จะลา เขาจะมีท่าทีเหมือนกับว่าลาบ่อยจัง ลาอีกแล้ว ยังเรียนไม่จบอีกหรอ ทั้งที่เราพึ่งเรียนมาได้ 2 ปีเอง และด้วยความเราไม่อยากลาเยอะ ลาบ่อย ลาถี่ในแต่ละเทอม เราจะพยายามจัดตารางลงสอบให้ไม่เกินเทอมละ 2 วัน เหตุเพราะด้วยความที่บริษัทมีพนักงานพอดีตำแหน่ง เมื่อไหร่ที่เราลา เท่ากับตำแหน่งงานเราตอนนั้นต้องหยุดชะงักไปด้วย เราจึงสามารถลงสอบ/เรียน ต่อเทอมได้น้อย จึงทำให้คาดเดาว่าอาจใช้เวลาในการเรียนกว่าจะจบอาจจะยืดยาวหน่อย อาจไม่ตรงตามหลักสูตร 4 ปี)
1.2 การปรับเลื่อนเงินเดือน ตามแต่เจ้านาย ทำมา 3 ปี เราเงินเดือนปัจจุบัน 13,000 บาท พึ่งได้เงินเดือนขึ้นปีที่ 2 มา 1,000 ปีที่ 3 ไม่มีการปรับเงินเดือน และคาดว่าจะไม่มีอีกแล้ว (หรือมันคือปกติ อันนี้เราไม่แน่ใจ ใครมีประสบการณ์รบกวนชี้แนะให้หน่อยนะคะ)
1.3 โบนัสปลายปี เราทำงานมา 3 ปี โบนัสยังได้ไม่ถึง 1 เดือนเลย (หรืออันนี้ก็เรื่องปกติหรือเปล่า)
2. ความก้าวหน้าในฝีมือ หรือทักษะการทำงาน บริษัทแห่งนี้ไม่มีระบบใดๆเลย เราทำงานกันอย่างไม่เป็นขั้นตอนมากนัก และไม่ค่อยเป็นระบบ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการทำงานอย่างเป็นระบบคืออะไร รู้แค่ว่าเจ้านายสั่งให้ทำอะไรก็ทำ
2.1 เราสมัครเข้ามาตำแหน่งพนักงานฝ่ายบัญชี แต่พอเริ่มงานจริงเราต้องไปคอยปริ้นออเดอร์ลูกค้าที่สั่งมาทางออนไลน์
2.2 บางทีแพ็คไม่ทันคนไม่พอก็ต้องไปทำงานแพ็ค
2.3 งานหลักก็คือการตอบแชทลูกค้าที่สอบถามเรื่องสินค้า ประสานงานกับsupplier บางเจ้า คอยทำจัดซื้อpacking วางplan produce ทำเอกสารค่าใช้จ่ายส่งให้บัญชีบริษัทเอกชนอีกที คอยเช็ค stock-in เมื่อมีของเข้า คอยตรวจสอบรายการสินค้าของ link ในแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำโปรโมชั่นแพลตฟอร์ม คอยดูปัญหาเมื่อลูกค้าพบสินค้ามีปัญหา คอนออกเอกสารสำคัญ เช่น ใบกำกับภาษี ใบแจ้งหนี้ ใบลดหนี้ ใบเสนอราคา คอยเช็คราคาmaterial และจิปาถะอีกมากมาย
2.4 ถึงเราจะทำในหลายๆหน้าที่ แต่เราก็รู้สึกว่าเราไปไม่สุดสักอย่าง ตอนแรกก็คอยมองเป็นข้อดีว่ามันก็ไม่น่าเบื่อดี แต่พองานเยอะ หรืองานเข้ามาพร้อมกันทีเดียวหลายๆอย่าง บอกตามตรงเรารู้สึกว่าเรายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างดี
3. การพัฒนาตัวเอง ตอนนี้เราทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ 8-10 ชม. ต่อวัน (โดยส่วนใหญ่จะ 10 ชม ต่อวัน เนื่องจากงานเยอะ บางงานต้องเคลียร์ให้เสร็จภายในวัน) ทุกวันนี้เหมือนทำงานเสร็จ เลิกงาน 2 ทุ่ม กลับมาให้เวลาตัวเองและครอบครัว แล้วก็เป็นกิจวัตรวนไปแบบนี้เรื่อยๆ วันหยุดไม่ค่อยมี แต่มีทีก็ไปเที่ยวกับครอบครัวบ้าง ไปกับเพื่อนบ้าง ช่วงไหนที่ต้องสอบ ก็หลังเลิกงาน 2 ทุ่ม เตรียมตัวอะไรเสร็จ ก็นั่งอ่านหนังสือยาวถึงเที่ยงคืน เป็นช่วงเวลา 1-2 เดือนก่อนสอบ
เราไม่ได้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรือถนัดอะไร อะไรคือสิ่งที่เราทำได้ดี หรือควรพัฒนาอะไรต่อ ตอนนี้จึงเหมือนยืนเคว้งอยู่คนเดียว ใครจะมาจับให้ไปทำอะไร หรืออยู่ตรงไหนก็ได้
ถ้าถามว่าแล้วทำไมยังไม่เปลี่ยนงานล่ะ คงเพราะตอนแรกเราวางแผนว่าคงเปลี่ยนงานตอนเรียนจบ ป.ตรี จะได้มีวุฒิไปยื่นเข้าทำงานได้ง่ายขึ้น อาจไม่ต้องเป็นบริษัทใหญ่โต แต่ขอแค่เป็นบริษัทที่ทำงานเป็นระบบกว่าที่นี้ ได้ประสบการณืมากกว่านี้ เงินเดือนขึ้นกว่านี้ สวัสดิการดีกว่านี้หน่อย
และอาจรวมถึงเศรษฐกิจไทยในตอนนี้ด้วย เลยไม่คิดว่าการจะเปลี่ยนงานตอนนี้มันจะเป็นความคิดที่เหมาะสมมากนัก อีกอย่างเรายังทนได้กับงาน และกับคน เลยอยากใช้ความอดทนในตอนนี้ใช้กับการทำงานในตอนนี้ให้ได้มากที่สุด
สิ่งเดียวที่เราคิดได้ในเรื่องการวางแผนในอนาคตของเราคงหนีไม่พ้นการวางแผนการเงิน เรามีเงินเดือนที่ 13,000 ถ้าขยันทำOT หน่อยก็อยู่ที่ 15,000-16,000 แต่ค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็เกินครึ่งของเงินเดือนไปแล้ว เหลือใช้ต่อเดือนบางที่ 4,000 (อันนี้หักค่าใช้จ่าย และเงินเก็บสำรองของเราแล้ว) แต่เพราะที่บ้านเราก็ยังมีพ่อที่ส่งเงินมาคอยซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายต่ออาทิตย์บ้าง (อันนี้พ่อเราเป็นชาวสวน เรากับพ่ออยู่คนละจังหวัดกัน เขาเป็นคนเสนอตัวที่จะรับผิดชอบตรงนี้อย่างเต็มใจเอง ส่วนเราก็รับผิดชอบเป็นคนจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ตบ้าน หรืออาหารบางมื้อเท่าที่จะทำได้)
ตอนนี้เราทำประกันสะสมทรัพย์กับธนาคารแห่งหนึ่ง เป็นระยะยาว 15 ปี ตอนนั้นน่าจะอายุเกือบ 40 คงมีเงินสักก้อนนึงในตอนนั้นอาจจะไม่ได้มากมาย แค่คิดว่าเป็นเงินอนาคตที่วางไว้ ตอนช่วงอายุตอนนั้นคงพอเอามาทำอะไรได้บ้าง
เราเป็นคนเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ เหมือนเป็นคนชอบซื้อ ชอบจ่าย เวลาคนที่บ้านอยากกินอะไร หรืออยากได้อะไร หลายๆครั้งมักจะใช้เงินจนติดลบเลยล่ะ เราเลยอยากได้คำแนะนำจากทุกๆคน เรื่องการวางแผนการเงิน การวางแผนชีวิตให้ดีขึ้น เพื่อตัวเราในอนาคต เราควรเริ่มจากอะไรดี อะไรที่มีความเสี่ยงน้อย แต่ผลตอบแทนมั่นคง ไม่ต้องมาก แต่ขอแค่มีความมั่นคงในอนาคต เราเชื่อว่าลำบากตอนนี้ วันหน้าก็คงดีขึ้น
ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำนะคะ
X รบกวนไม่เสนอช่องทางการพนันใดๆ หรือการชักจูงการลงทุนที่เป็นการขายฝัน ขอให้กระทู้นี้เป็นพื้นที่สำหรับคนมีความคิด หรือมีประสบการณ์ที่อยากจะแบ่งปันจริงๆนะคะ X