มูเตลู เป็นเรื่องที่หนักไปทางความเชื่อไหม ?
ศาสนาพุทธ ไม่มีเรื่องของความเชื่อนะครับ
ศาสนานี้ มีแต่ "ความจริงเท่านั้น"
ความเชื่อ กับ ความจริง....คือสองสิ่งที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกันได้เลย จริงไหม
เพราะความเชื่อ อาจจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ได้
หากได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามันเป็นความจริง
ความเชื่ออันนั้นก็จะถูกเปลี่ยนสถานะเป็น "ความจริง" ทันที
แต่ความจริงก็คือความจริงนะครับ มันเปลี่ยนแปลงไปไหนอีกไม่ได้ เพราะมันเป็นของมันอยู่เช่นนั้น
ฝันเห็นงูแปลว่าจะมีภัย เป็นได้แค่ความเชื่อครับ (อาจจะจริงก็ได้)
ทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกนี้ ล้วนมีวันหมดอายุขัย...นี่เป็นความจริงแล้วนะครับ ไม่ใช่ความเชื่อแล้ว
กรณีของความฝัน มักจะมีคนถามมาเยอะว่ามันจะเป็นจริงไหม
เยื้องต้น ขอบอกก่อนว่าความฝันนั้นจะมี 2 แบบครับ
1. ฝันที่รู้สึกคลุมเครือ ไม่ค่อยชัด ไม่ค่อยเป็นเรื่องปะติดปะต่อกันยาก
เป็นฝันเพ้อเจ้อครับ ตื่นคือจบ
2. ฝันที่เหมือนจริงหมด ชัดเจน วิ่งหกล้มก็เจ็บจริง โดนแดดก็ร้อนจริง
แบบนี้เป็นนิมิตร ไม่ใช่ฝันแล้วนะ
เรื่องของการบูชาเทวดา รูปสักการะและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
เป็นเรื่องของความเชื่อแทบจะล้วน ๆ
แม้จะมีบ้างที่ให้ผลได้จริง แต่ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ แถมพิสูจน์ไม่ได้อีกแน่ะ
ฝากข้อคิดทิ้งท้าย แม้แต่เหล่าเทวดายังมากราบสักการะพร้อมขอสนทนาธรรมกับพระศาสดาของเราเลยนะ
แบบนี้มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องไปกราบไหว้เทวดาล่ะ
สู้กลับมากราบไหว้พระศาสดาของเราเองสิ
.....พระธรรมนั้นแล คือคำสอนที่พระศาสดาทิ้งไว้ให้ แต่เรากลับไม่เคยเหลียวแล แล้วกลับไปกราบไหว้เทิดทูนเทวดาแทน
ฝากรบกวนพุทธศาสนิกชนที่สนใจเรื่องมูเตลูด้วย โปรดใช้จักรยานในการพิจารณาเพิ่มขึ้น
ศาสนาพุทธ ไม่มีเรื่องของความเชื่อนะครับ
ศาสนานี้ มีแต่ "ความจริงเท่านั้น"
ความเชื่อ กับ ความจริง....คือสองสิ่งที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกันได้เลย จริงไหม
เพราะความเชื่อ อาจจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ได้
หากได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามันเป็นความจริง
ความเชื่ออันนั้นก็จะถูกเปลี่ยนสถานะเป็น "ความจริง" ทันที
แต่ความจริงก็คือความจริงนะครับ มันเปลี่ยนแปลงไปไหนอีกไม่ได้ เพราะมันเป็นของมันอยู่เช่นนั้น
ฝันเห็นงูแปลว่าจะมีภัย เป็นได้แค่ความเชื่อครับ (อาจจะจริงก็ได้)
ทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกนี้ ล้วนมีวันหมดอายุขัย...นี่เป็นความจริงแล้วนะครับ ไม่ใช่ความเชื่อแล้ว
กรณีของความฝัน มักจะมีคนถามมาเยอะว่ามันจะเป็นจริงไหม
เยื้องต้น ขอบอกก่อนว่าความฝันนั้นจะมี 2 แบบครับ
1. ฝันที่รู้สึกคลุมเครือ ไม่ค่อยชัด ไม่ค่อยเป็นเรื่องปะติดปะต่อกันยาก
เป็นฝันเพ้อเจ้อครับ ตื่นคือจบ
2. ฝันที่เหมือนจริงหมด ชัดเจน วิ่งหกล้มก็เจ็บจริง โดนแดดก็ร้อนจริง
แบบนี้เป็นนิมิตร ไม่ใช่ฝันแล้วนะ
เรื่องของการบูชาเทวดา รูปสักการะและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
เป็นเรื่องของความเชื่อแทบจะล้วน ๆ
แม้จะมีบ้างที่ให้ผลได้จริง แต่ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ แถมพิสูจน์ไม่ได้อีกแน่ะ
ฝากข้อคิดทิ้งท้าย แม้แต่เหล่าเทวดายังมากราบสักการะพร้อมขอสนทนาธรรมกับพระศาสดาของเราเลยนะ
แบบนี้มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องไปกราบไหว้เทวดาล่ะ
สู้กลับมากราบไหว้พระศาสดาของเราเองสิ
.....พระธรรมนั้นแล คือคำสอนที่พระศาสดาทิ้งไว้ให้ แต่เรากลับไม่เคยเหลียวแล แล้วกลับไปกราบไหว้เทิดทูนเทวดาแทน