คนละครึ่งพลัสใช้จ่ายวันไหน ซื้ออะไรได้บ้าง
ดีเดย์ 29 ต.ค.นี้ เริ่มใช้จ่ายวันแรก เช็กเงื่อนไข ซื้ออะไรได้บ้าง เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ของกินของใช้ นวด สปา ขณะที่สินค้าบางประเภทไม่สามารถใช้สิทธิในโครงการได้ เช่น สลากกินแบ่งรัฐบาล เหล้า-เบียร์ บุหรี่ เช็กเงื่อนไข-รายละเอียดทั้งหมดที่นี่
“ประชาชาติธุรกิจออนไลน์” ยังเกาะติดโครงการ คนละครึ่งพลัส มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดแรกของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ภายใต้แนวคิด Quick Big Win วงเงินงบประมาณ 44,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจฐานราก และช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมากและใช้สิทธิลงทะเบียนจนเต็มจำนวน 20 ล้านสิทธิในเวลาอันรวดเร็วในวันแรกที่เปิดลงทะเบียน
สำหรับขั้นตอนหลังจากลงทะเบียนคนละครึ่งพลัสผ่านแอปเป๋าตัง และได้รับสิทธิเรียบร้อยแล้ว ก่อนใช้สิทธิคนละครึ่งพลัส ประชาชนผู้ได้รับสิทธิจะต้องเติมเงินเข้า G Wallet ในแอปเป๋าตัง เพื่อใช้จ่ายเงินร่วมกับรัฐบาล
และสามารถเริ่มซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง 2568 ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.
สิทธิที่ได้รับ คนละครึ่งพลัส
– กลุ่มประชาชนผู้เสียภาษี ได้รับ 2,400 บาทต่อคน ตลอดโครงการ
– กลุ่มประชาชนทั่วไป ได้รับ 2,000 บาทต่อคน ตลอดโครงการ
– ใช้สิทธิไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน
ซื้ออะไรได้บ้าง
สำหรับสินค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการ ประชาชนสามารถใช้สิทธิจ่ายผ่านแอป “เป๋าตัง” ได้กับร้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วไป ร้านขายของใช้จำเป็น สินค้าทั่วไป รวมถึงบริการนวด สปา ทำเล็บ และทำผม
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้สิทธิกับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ อาทิ รถไฟฟ้า รถไฟ รถโดยสารประจำทาง และเรือโดยสาร รวมถึงขนส่งสาธารณะที่ไม่ใช่นิติบุคคล เช่น แท็กซี่ รถตู้ รถสองแถว รถจักรยานยนต์รับจ้าง และรถสามล้อถีบ
อย่างไรก็ตาม สินค้าบางประเภทไม่สามารถใช้สิทธิในโครงการได้ เช่น สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (เหล้า-เบียร์) ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล หรือบัตรเงินสด รวมถึงบริการที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า ซึ่งถูกจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าต้องห้ามตามเงื่อนไขของโครงการ
โดยกระทรวงการคลังแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการผ่านแอป “เป๋าตัง” ก่อนการใช้สิทธิทุกครั้ง เพื่อป้องกันการใช้สิทธิผิดประเภท ซึ่งอาจส่งผลให้ถูกระงับสิทธิได้
เงื่อนไขการใช้สิทธิ
ประชาชนที่ได้รับสิทธิ ต้องมีการใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. 68 ภายในเวลา 23.00 น. เพื่อมิให้ถูกยกเลิกสิทธิ คนละครึ่งพลัส
สามารถใช้สิทธิ ณ ร้านค้าที่ร่วมโครงการได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ของทุกวัน โดยชำระเงินผ่าน G WALLET ในแอป เป๋าตัง
เริ่มใช้สิทธิ ฟู้ดดีลิเวอรี่ ในแอป เป๋าตัง วันที่ 7 พ.ย. 68-31 ธ.ค. 68 (เวลา 06.00-21.00 น. ของทุกวัน)
กรณีซื้ออาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่
การใช้สิทธิผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่จะต้องเป็นการซื้อขายสินค้าเฉพาะประเภทอาหาร/เครื่องดื่มโดยประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการเท่านั้น
รัฐจะสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหาร/เครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่น
ใช้สิทธิตามโครงการเพื่อสั่งอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่ได้ตั้งแต่ 06.00-21.00 น. ของทุกวัน
ห้ามมีการรับหรือเรียกเงินทอนเป็นเงินสด หรือประโยชน์รูปแบบอื่นนอกจากการสั่งอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่ ไม่ว่ากรณีใด
การซื้อ-ขายอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่จะต้องเป็นการซื้อ-ขายกันจริง โดยผู้ซื้อและผู้ขายไม่ได้อยู่สถานที่เดียวกันหรือเป็นบุคคลเดียวกัน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/general/news-1906597
คนละครึ่งพลัส ใช้จ่ายวันไหน ซื้ออะไรได้บ้าง เช็กเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่
“ประชาชาติธุรกิจออนไลน์” ยังเกาะติดโครงการ คนละครึ่งพลัส มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดแรกของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ภายใต้แนวคิด Quick Big Win วงเงินงบประมาณ 44,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจฐานราก และช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมากและใช้สิทธิลงทะเบียนจนเต็มจำนวน 20 ล้านสิทธิในเวลาอันรวดเร็วในวันแรกที่เปิดลงทะเบียน
สำหรับขั้นตอนหลังจากลงทะเบียนคนละครึ่งพลัสผ่านแอปเป๋าตัง และได้รับสิทธิเรียบร้อยแล้ว ก่อนใช้สิทธิคนละครึ่งพลัส ประชาชนผู้ได้รับสิทธิจะต้องเติมเงินเข้า G Wallet ในแอปเป๋าตัง เพื่อใช้จ่ายเงินร่วมกับรัฐบาล
และสามารถเริ่มซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง 2568 ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.
สิทธิที่ได้รับ คนละครึ่งพลัส
– กลุ่มประชาชนผู้เสียภาษี ได้รับ 2,400 บาทต่อคน ตลอดโครงการ
– กลุ่มประชาชนทั่วไป ได้รับ 2,000 บาทต่อคน ตลอดโครงการ
– ใช้สิทธิไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน
ซื้ออะไรได้บ้าง
สำหรับสินค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการ ประชาชนสามารถใช้สิทธิจ่ายผ่านแอป “เป๋าตัง” ได้กับร้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วไป ร้านขายของใช้จำเป็น สินค้าทั่วไป รวมถึงบริการนวด สปา ทำเล็บ และทำผม
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้สิทธิกับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ อาทิ รถไฟฟ้า รถไฟ รถโดยสารประจำทาง และเรือโดยสาร รวมถึงขนส่งสาธารณะที่ไม่ใช่นิติบุคคล เช่น แท็กซี่ รถตู้ รถสองแถว รถจักรยานยนต์รับจ้าง และรถสามล้อถีบ
อย่างไรก็ตาม สินค้าบางประเภทไม่สามารถใช้สิทธิในโครงการได้ เช่น สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (เหล้า-เบียร์) ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล หรือบัตรเงินสด รวมถึงบริการที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า ซึ่งถูกจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าต้องห้ามตามเงื่อนไขของโครงการ
โดยกระทรวงการคลังแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการผ่านแอป “เป๋าตัง” ก่อนการใช้สิทธิทุกครั้ง เพื่อป้องกันการใช้สิทธิผิดประเภท ซึ่งอาจส่งผลให้ถูกระงับสิทธิได้
เงื่อนไขการใช้สิทธิ
ประชาชนที่ได้รับสิทธิ ต้องมีการใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. 68 ภายในเวลา 23.00 น. เพื่อมิให้ถูกยกเลิกสิทธิ คนละครึ่งพลัส
สามารถใช้สิทธิ ณ ร้านค้าที่ร่วมโครงการได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ของทุกวัน โดยชำระเงินผ่าน G WALLET ในแอป เป๋าตัง
เริ่มใช้สิทธิ ฟู้ดดีลิเวอรี่ ในแอป เป๋าตัง วันที่ 7 พ.ย. 68-31 ธ.ค. 68 (เวลา 06.00-21.00 น. ของทุกวัน)
กรณีซื้ออาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่
การใช้สิทธิผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่จะต้องเป็นการซื้อขายสินค้าเฉพาะประเภทอาหาร/เครื่องดื่มโดยประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการเท่านั้น
รัฐจะสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหาร/เครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่น
ใช้สิทธิตามโครงการเพื่อสั่งอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่ได้ตั้งแต่ 06.00-21.00 น. ของทุกวัน
ห้ามมีการรับหรือเรียกเงินทอนเป็นเงินสด หรือประโยชน์รูปแบบอื่นนอกจากการสั่งอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่ ไม่ว่ากรณีใด
การซื้อ-ขายอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี่จะต้องเป็นการซื้อ-ขายกันจริง โดยผู้ซื้อและผู้ขายไม่ได้อยู่สถานที่เดียวกันหรือเป็นบุคคลเดียวกัน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/general/news-1906597