"เมื่อการเมืองในสมาคม ชนะศรัทธาแฟนบอล"
บางครั้ง “ทีมชาติไทย” ไม่ได้แพ้ในสนาม แต่แพ้ในห้องประชุม
กรณีการปลด มาซาทาดะ อิชิอิ ครั้งนี้ ยิ่งขุดลึกยิ่งเหมือนดูซีรีส์เรื่อง “House of Football”
ที่บทพูดแทบจะมาจากสคริปต์ของคนในสมาคมเอง — ไม่ใช่เกมกีฬา แต่คือเกมอำนาจ
ปลดยังไงให้แฟนบอลไม่เข้าใจ?
คำตอบคือ “ปลดตอนชนะ”
ใช่… ไทยเพิ่งชนะไต้หวัน 6-1 ด้วยฟอร์มดีที่สุดในรอบปี ทีมดูสด นักเตะหน้าใหม่เริ่มเข้าที่ ความมั่นใจกลับมา แฟนบอลกลับมามีหวัง
แต่สมาคมกลับ “ปลดหัวหน้าทีม” แล้วประกาศอย่างเป็นทางการภายในไม่ถึงสัปดาห์
นี่ไม่ใช่การบริหารปกติ แต่มันคือ “การตัดหัวก่อนคนจะปรบมือ”
เมื่อข้อมูลวงในเริ่มรั่ว
จากคำบอกเล่าของคนในสมาคมที่พูดกับอินฟลูฟุตบอลไทย — เบื้องหลังทั้งหมดมันชัดมาก
“จริง ๆ จะปลดตั้งแต่พลาดคิงส์คัพแล้ว แต่อดใจรอให้ผ่านเกมไต้หวันก่อน เพราะกลัวโดนกระแสแรง ถ้ารอไปอีกหน่อย แล้วอิชิอิฟอร์มดี จะปลดไม่ได้แล้ว”
คำพูดนี้คือ หัวใจของเรื่องทั้งหมด
มันแปลว่า การปลดนี้ “ไม่ใช่เรื่องผลงาน” แต่เป็นเรื่อง “จังหวะและผลประโยชน์ทางการบริหาร”
ถ้าเขาทำผลงานดี สมาคมจะเสียหน้า
ดังนั้นจึงต้องรีบปลดก่อนที่จะสายเกินไป
ปมที่แท้จริง : ศึกในสมาคม
เมื่อมีข่าวลือว่า อดีตโค้ชชื่อดัง ที่เคยสร้างความอับอายกับการ"วอล์กเอาต์" เพียงเพราะกรรมการตัดสินไม่ถูกใจ เมื่อ 18 ปีก่อน และอดีตนักเตะระดับ “ดาราเอเชีย” ที่ปัจจุบันเป็นอินฟลูชื่อดัง ไม่พอใจที่อิชิอิเสนอให้ไปดูแลชุด U23 – U19
ความขัดแย้งนี้อาจสะท้อนสิ่งที่ใหญ่กว่านั้น
มันไม่ใช่เรื่องตำแหน่ง
แต่มันคือ “ศักดิ์ศรีในวงการ”
ในแวดวงฟุตบอลไทย ใครเคยคุมทีมชาติ แม้แค่ชั่วคราว ก็จะมีอีโก้ในระดับหนึ่ง
และเมื่อโค้ชต่างชาติหน้าเฉยจากญี่ปุ่นมาชี้นิ้วเสนอให้ไปคุมทีมเยาวชน — นั่นอาจถูกมองว่า “เสียหน้า”
แม้อิชิอิจะพูดด้วยเจตนาดี แต่ในวงใน นั่นคือ “ไฟเริ่มปะทุ”
ศรัทธาที่กำลังร้าว
สิ่งที่แฟนบอลไม่พอใจไม่ใช่แค่การปลด
แต่คือ “วิธีปลด” และ “เหตุผลที่ไม่ซื่อตรง”
อิชิอิเป็นโค้ชที่ไม่เคยสร้างปัญหา ไม่เคยโยนความผิดให้ใคร ไม่เล่นเกมสื่อ แต่กลับถูกปลดหลังชนะ 6-1
แฟนบอลรู้สึกว่า นี่คือการไม่ให้เกียรติคนทำงาน
มันคือการทำลายศรัทธาในสมาคมที่พยายามสร้างภาพ “มืออาชีพ” มาตลอด
สมาคมอาจจะ “คำนวณพลาด”
ฝ่ายเทคนิคเชื่อว่าการเจอศรีลังกาและสิงคโปร์คือเกมง่าย
“ใครคุมก็ชนะได้”
แต่นั่นคือการมองฟุตบอลด้วยแผ่นกระดาษ ไม่ใช่ด้วยหัวใจทีมชาติ
เพราะฟุตบอลทีมชาติ ไม่ใช่แค่เรื่องแท็กติก
แต่มันคือเรื่อง “แรงศรัทธา” และ “ความรู้สึกของชาติ”
และตอนนี้ สมาคมเพิ่งจุดไฟที่อาจย้อนกลับมาเผาตัวเอง
เพราะแม้ทีมจะชนะในสนาม แต่ถ้าแพ้ในใจแฟนบอล — ก็เท่ากับแพ้ทั้งระบบ
บทสรุป : เมื่อศรัทธาถูกซื้อขายด้วยการเมือง
อิชิอิอาจจากไปอย่างเงียบ ๆ
แต่เสียงสะท้อนของแฟนบอลกำลังดังกว่าทุกครั้งในรอบหลายปี
เขาไม่ได้ถูกปลดเพราะแพ้
แต่ถูกปลดเพราะ “ชนะในเวลาที่บางคนไม่อยากให้ชนะ”
นามปากกา: “ขุนศึกลูกหนัง”
บทวิเคราะห์น่าสนใจ สาเหตุที่ต้องปลดอิชิอิ คือศึกการเมืองในสมาคม