มาแชร์ประสบการณ์ ครอบครัว Toxic กันค่ะ

เรื่องของเราอาจจะยาวหน่อยนะคะ บ้านเรามีทั้งหมด 8 คน
พ่อ  71 ปี   แม่ 62 ปี
มีพี่สาวคนโต 1 คน เรียนไม่จบ แต่งงาน 1 ครั้งท้องก่อนแต่งมีลูก 1 คนเป็นลูกชาย หย่าสามีแล้ว หลังจากนั้นก็อีก 1 คน แต่ก็โดนฝ่ายชายไม่รับเลี้ยง
มีลูกสาว 1 คน เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวลูก 2 คน
พี่ชายคนกลาง 1 คน (โสด ไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน เรียนจบ ปวส.)
และเราคนเล็ก ท้องก่อนแต่ง สามีมีเมียน้อย เลิกเด็ดขาดเลี้ยงคนเดียว เรียนจบปริญญาตรี

ฐานะบ้านเราไม่ได้ร่ำรวย สมัยก่อนพอมีพอกิน มีมรดกจากปู่ ย่า ตายายบ้าง
พ่อ : ตอนที่ย่าเสีย ติดพนัน สมบัติที่ย่าให้เอาไปแปลเป็นเงินเล่น ไพ่ ไฮโล จน 0 ไปหมด เอาบ้านไปจำนองธนาคารจนเป็นหนี้  ทำให้แม่เกลียดพ่อ และ ไม่ถูกกันจนถึงทุกวันนี้ ตอนนี้พ่อเราเป็นโรคไต และวัณโรค เหมือนชดใช้กรรมของเขา  ฟอกไตอาทิตย์ละ 3-4วัน เรากับพี่สาวต้อง คอยรับส่ง บางทีเขาไม่อยากใช้ลูก เขาก็ขับรถไปเอง บางครั้งก็ไปเฝ้ายาม เพื่อเอาเงินมาใช้มากิน

แม่: เป็นคนเก่งมาก ทำเป็นทุกอย่างทำนา ทำสวน  อาหาร ขนมไทย  บางอย่างที่ผู้ชายก็ทำได้ แม่เราก็ทำได้ เพราะสมัยก่อน ตาเลี้ยงแม่เรามาแบบอดทน  ไถนา เกี่ยวข้าว ทำขนม คือแม่เราเก่งมาก แต่แม่เราปากจัด ทำบุญกับคนไม่ขึ้น รักลูกชายมาก

พี่สาว : สมัยตอนเรียนมหาลัย ที่บ้านส่งเงินให้ และเราเองก็ร้องเพลงมาตั้งแต่ 10 ขวบ ตามงานบวช งานแต่งทั่วไป ส่งเงินไปให้พี่เรียน อันนี้จริงแต่ก็เรียนไม่จบ จนแม่ไม่โอเคกับพี่สาว

พี่ชาย : เรียนต่อจนจบ ปวส. ตอนนี้เปิดร้านขายอาหารที่บ้านตอนเย็น รับงานร้องเพลงบ้างเป็นครั้งคราว ทำงานประจำกลางวัน

เรา: เป็นน้องคนสุดท้อง ร้องเพลงตั้งแต่เด็ก อยู่วงดนตรีดังในจังหวัด ร้องมาเท่าไหร่  เอาเงินให้พ่อแม่หมด  เวลาไปโรงเรียนค่อยขอ จนตอนเรียนปวส. ย้ายออกไปอยู่หอ  ห่างจากบ้านมาก็ตอนน้นแหละค่ะ พอจบปวส. หัวอ่อนโดนเพื่อนหลอกไปทำลูกโซ่ ติดหนี้มา 50,000 แต่ใช้หมดแล้ว ตอนอยู่กทม.ก็มีแฟน แล้วก็มีลูก กลับมาก็ไม่ได้แต่ง เพราะพ่อของลูกทำผญ คนอื่นท้อง ตอนเราท้องได้ 7-8 เดือน ถ้าจำไม่ผิด และโดนทำร้ายตอนออกจากรพ.2-3 วันเพราะเราโพสด่าเมียน้อยสามีมาตีเรา ก็เลยเลิกขาด เพราะตอนที่โพสด่าพ่อของลูกเราออกมาจากห้องมาทำร้ายเราตอนที่เราอุ้มลูกกินนมอยู่โดยการ ต่อย และตบที่หัว จนเราโทรหาให้ที่บ้านมารับ และพี่ชายเราก็เลยซัดไป เราเลยตัดการติดต่อของบ้านฝั่งนั้นถาวรและเป็นซิงเกิ้ลมัมเต็มตัว พอคลอดเราก็รับงานร้องเพลง หาเงินเลี้ยงลูก ด้วยความที่เราเองก็เห็นแม่คาดหวังกับลูกทั้ง3 ไว้เยอะ ไม่มีใครเรียนจบสักคน  ช่วงนั้น เราทำงานประจำเช้า-เย็น จันทร์-เสาร์  ร้องเพลงกลางคืนทุกวัน วันอาทิตย์เราสมัครเรียนที่กทม. พยายามจะเรียนต่อให้จบ เพื่อให้แม่ภูมิใจ  ทำงานเช้าเย็น ร้องเพลงกลางคืน  อาทิตย์เรียน มา2ปีกว่า เราก็เรียนจบปริญญา ณ ปัจจุบันก็ทำงานประจำร้องเพลงกลางคืนเหมือนเดิมแต่ทำทุกวัน

ก่อนหน้านี้ ที่บ้านมีกัน 8 คน  พ่อ แม่ พี่สาว พี่ชาย หลาน 2 คน ลูกเรา และเรา  บ้านเรามีแค่ 2 ห้อง ผช.นอนในห้อง แม่นอนกลางบ้านกับเรา พี่สาวทำห้องเพิ่มข้างหน้าอยู่กับ ลูกเขา 3 คน  แต่ด้วยความที่พี่สาวเรา ไม่ทำงานประจำ แต่ทุกคนงงมั้ยว่า พี่สาวโดนให้รับผิดชอบเรื่องค่าไฟที่บ้าน ทั้งๆที่เค้าไม่มีรายได้ พี่สาวได้แต่ระบายกับพ่อ ทั้งบ้านมีแต่พ่อที่เห็นใจ และพูดดีที่สุด แม่กับพี่ชาย ต่างก็ด่าเขา ว่าเขา สารพัด แม่เราเป็นประเภทด่าไปเรื่อย ด่าไม่หยุด เห็นอะไรไม่ถูกใจก็บ่น เข้าขากับพี่ชาย แม่เราจะฟังพี่ชายมากๆ  ตอนนั้นเหมือนพี่สาวเราดวงตก  รายได้ไม่มี รถถูกยึด โดนน้องชายไล่ออกจากบ้านอย่างกับหมูหมา

ตอนนั้นพี่ชายกับพี่สาวทะเลาะกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ที่พี่ชายด่าพี่สาวเรา  พี่สาวเราเงียบมาตลอด มาวันนั้นแหละ พี่ชายด่าพี่สาวเราหยาบมาก ไล่ให้พี่สาวเราไปขอทาน โดยใช้คำว่าที่ว่า ถ้าไม่มีปัญญาก็ไปนั่งขอทาน ขอคนอื่นเขาแด-ก นู่น หลังจากนั้นพี่สาวเราไปหาที่อยู่ใหม่ กระเตงลูกไปอีก 2 คน จนไปเจอห้องแถวเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่เค้าเป็นเจ้าของ และถูกกับเจ้าที่ ที่นั่น ทำให้พี่เราได้ถูกหวยทุกวัน (หวยลาว ฮานอย) จนฟื้นตัวเองขึ้นมา หลังจากที่โดนไล่ออกจากบ้านไป แม่และเราก็แวะไปเยี่ยมเยียน จนพี่สาวได้ออกรถมือสองมา 1 คัน  ห้องที่บ้านของพี่สาว  เขาเลยให้เรามาอยู่

ส่วนเรา เราเป็นคนที่ ใช้เงินเกินตัวมากๆจนติดหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ ครั้งก่อนใช้หนี้หมดไปแล้ว แต่นี่มีมาเพิ่มอีก เรื่องมาจากว่า
สมัยก่อนหลังจากที่พ่อเอาบ้านไปจำนอง ก็ทำเรื่องเปลี่ยนชื่อเจ้าของบ้านเป็นชื่อพี่ชาย ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้ว่า ทำไมต้องเป็นพี่ชายแล้วก็มาตกลงกันว่า ค่าบ้านต้องช่วยกันผ่อนเป็นเงินกองกลาง เราก็ช่วยหาร แต่ก่อนหน้านี้หาร 3 คน พ่อ เรา พี่ชาย แล้วก็มีตอนนั้นแม่เราจะเปิดร้านโชห่วยขายของทั่วไป ก็เอารถกระบะไปเข้าแนนซ์ เราก็เลยได้เงินก้อนมาใช้หนี้บ้างบางส่วน แล้วก็ช่วยผ่อนค่ารถ หาร 3  ทีนี้ พอพ่อเราไม่สบายเดินไม่ไหว ทำงานไม่ได้ไม่มีรายได้ พี่ชายเราก็เริ่มแล้ว ด่าพ่อ ว่าพ่อ พูดจาได้แย่มากๆกับพ่อ เช่น ทุกวันนี้ใครทำให้แด-ก /ปากดี/บางครั้งพ่อเอาของเขามาใช้ เขาก็ว่าเอาไปทำเฮียอะไร
คือทุกคนใช้ของของเขาไม่ได้เลย แต่เขาใช้ของคนอื่นได้ ใช้แล้วไม่เก็บด้วย เสื้อผ้า พาดทุกที่ในบ้านนอกบ้านที่พาดได้ เสื้อผ้าสกปรก ไม่เก็บไม่กวาด เปิดลิ้นชัก ยังไม่ปิด ไม้แขวนเสื้อตก ยังไม่เก็บ หลายๆอย่างที่พี่ชายเราทำ มันแย่มาก และเสียสุขภาพจิตมากๆ  ตู้เสื้อผ้าที่อยู่หน้าห้องน้ำ เราใส่เสื้อผ้าของเราไว้เต็มตู้ พอกลับมาวันนึง เสื้อผ้าของเราถูกกองไว้ แต่ตู้หาย และพบว่า พี่ชายเราเอาตู้เข้าห้องของตัวเอง แต่ทิ้งเสื้อผ้าเราไว้แบบนั้น ทุกคนลองคิดว่า ถ้าเราทำแบบนั้นกับของของเขา เราไม่โดนตบหรอ(ซึ่งจากหสภาพแวดล้อมที่บ้าน ปัญหาคนที่บ. วงดนตรี และส่วนตัว ตอนนี้เราเป็นซึมเศร้าเบื้องต้นและวิกตกกังวล กินยารักษามาปีกว่าๆ แต่ตอนนี้ไม่ได้กินแล้วค่ะ)

ซึ่งช่วงที่พ่อเราต้องไปฟอกไตเราต้องตื่นไปส่งพ่อประมาณ 03.30 หรือไม่ก็ 04.00 บางครั้งเรากลับมาตี02.00 แล้วพ่อปลุกไปส่ง ระยะทางประมาณ 20-30 นาที จากบ้านไปรพ. เราแย่เพราะเช้าต้องทำงาน เราเลยบอกให้พี่ชายเวียนกันไปส่ง  แต่ทุกครั้งที่ไป ก็ว่าพ่อ เพราะก่อนพ่อจะฟอกไต พ่อจะแวะซื้อน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋เจ้าประจำของเขาทุกรอบแต่พี่ชายไม่แวะให้และทำอารมณ์ฉุนเฉียวใส่

ทุกคนเชื่อมั้ยบางครั้งพ่อเขาสงสารเราที่เราต้องนอนไม่พอแล้วต้องไปส่งเขาที่รพ. พ่อเราขี่มอเตอร์ไซค์ไปเอง เพราะสงสารลูก และสิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ พ่อเรารถล้มหลังจากกลับจากรพ. คาดว่าเป็นจากอาการเพลียและไม่มีแรง พอเราถามว่าทำไมไม่ให้ไปส่ง พ่อบอกว่า พ่อสงสารหนู หนูนอนไม่พอ ถ้าพ่อไปไหวพ่อก็ไป พ่อไม่อยากใช้ใครเลย เพราะรู้ว่าไม่มีใครอยากไป เราเลยบอกว่าหนูไปได้ ครั้งหน้าปลุกด้วยเดี๋ยวสลับกับพี่สาวไป

นั่นแหละค่ะ หลายๆอย่างที่เกิดขึ้น พอพ่อไม่มีรายได้ส่วนกลาง ในส่วนของพ่อก็เป็นเราและพี่ชายที่ออก ก่อนหน้านี้แม่ทำสวนแม่ก็ช่วย
ทั้งค่ารถ ค่าไฟ แต่ช่วงหลังแม่ไม่ได้ทำ แม่ไม่มีรายได้ ก็มาหนักที่เรา ถ้าเราจำไม่ผิด ค่าบ้าน 2,200 ค่ารถ 3,000 ทั้งหมด 5,000  หาร 2 ก็ 2500 แต่พี่ชายบอกว่า กุออกในส่วนของแม่ไป ต้องให้กูอีก500 เท่ากับต่อเดือนเราต้องให้พี่ชาย 3000
ค่าไฟหารกัน 3คน แม่ เรา พี่ชาย แต่ตอนนี้ แม่ไม่มี  พี่ชายบอกว่า กูออกค่ารถให้แม่ จ่ายค่าไฟในส่วนของแม่มันจะเป็นอะไร ภาระเราเลยเยอะขึ้น ตอนนี้เหมือนเราอยู่แทนที่พี่สาวที่โดนตอนนั้น  แม่บางครั้งก็ไม่คุยกับเรา  น่าจะเป็นเพราะงานบ้านเราไม่ได้ทำ

เราอยากทำนะ แต่ เราทำงาน 08.00-17.00 หลังจากเลิกงานประจำ เราก็อาบน้ำแต่งตัวไปร้องเพลง กลับมาก็ 02.00  เช้าก็ไปทำงาน วนลูปแบบนี้ทุกวัน แต่อย่างว่า ในสายตาของแม่ เราคงเป็นแค่ลูกคนหนึ่งที่ไม่เอาไหน เอาแต่ตัวเอง
ตอนนี้เราโคตรไม่โอเค กับสภาพแวดล้อมที่บ้าน มากๆ พี่ชายที่เอาแต่ด่า ไม่มองตัวเอง ด่าแม้กระทั่งพ่อ ไม่เคยมองเห็นข้อผิดพลาดของตัวเอง ดีแต่กับเพื่อน เห็นเวลาเพื่อนๆจะมาหา ทำโน่นนี่นั่นให้กิน แต่กับพ่อ ทำมั่งไม่ทำมั่ง เราเคยถามพ่อว่า เวลาจะกินข้าว เขาบอกให้รอก่อน  ขนาดร้านเขา เราซื้ออะ เราเสียเงิน แต่ก็เลือกที่จะทำให้คนอื่นก่อน ทุกวันนี้เค้าไม่ได้มองเราเป็นน้องด้วยซ้ำ อย่างเช่นคืนก่อน  เราไปร้องเพลงต่างจังหวัด เรากลับมาถึงบ้าน 02.00 ได้นอนเกือบ03.00เราบอกให้พ่อไปปลุกเขาไปส่ง เขาก็ว่าเราว่า ร้องเพลง เฮียไร กลับมา ตี 2 ตี3 นั่งแด-กเหล้าอะดิ  เราโคตรจุก นี่ซินะ คนที่คิดลบกับคนอื่น เขาไม่เอาใครเลย ไม่เอาพ่อ ไม่เอาพี่น้อง  เอาแต่ตัวเอง

ครั้งก่อนเราโอนเงินให้เขา ค่าไฟ ค่ารถ ค่าบ้าน เราก็หักค่าไฟปกติ เขาโทรมาหาเราว่า โอนมาแค่นี้ได้ไง เราบอกว่าก็ค่าไฟเดือนนี้ 2000 เค้าเลยบอก 2000 เฮียไร 1700 เราเลยบอก ก็ดูในระบบอยู่เนี่ยมัน 2000  ไม่เชื่อก็โทรไปถามเพราะหนูโทรเช็คกับการไฟฟ้ามาแล้ว หนูไม่ได้มาโกงหรอก ก็หักตามจริงตลอด เขาเลยบอก ค่าไฟมันขึ้นเพราะนอนตื่นสายรึเปล่า  

คำนี้ ทำให้เราโมโหมาก ทุกคน เรามีเวลานอนตื่นสายได้แค่วันเดียวคือวันอาทิตย์ เพราะทุกคืน เรานอนไม่ถึง 4ชม.ด้วยซ้ำ  เราเลยบอก เห้ย พูดแบบนี้ได้ไง ตัวเองเปิดร้าน เปิดไฟตั้งแต่ 18.00 ยันตี2-3 ไม่คิดบ้างเราะ เค้าบอกว่า ไฟของกู ดวงละแค่ไม่กี่วัต ห้องมีแอร์ มันจะแพงอะไร
เราเลยบอกว่า แอร์อะ หนูเปิดแค่ให้มันเย็นแล้วแล้วปิด ถามแม่ก็ได้ เพราะแม่นอนกับหนู ไม่เคยเปิดข้ามคืน  เขาก็วกกลับมา เรื่องบิลค่าไฟ เขาก็หาว่าเราโกหกซึ่งตอนนั้น เรากล่องเสียงอักเสบ เสียงแหบแบบ ไม่มีเสียงพูดเลยเขาโทรมาด่าเรา บอกตรงๆว่าตั้งแต่เกิดมา สาบานเราไม่เคยขึ้นกู กับพี่คนไหนเลย แต่วันนั้น เราหลุด ด่าเขาไป เฮียก็มี  เราพูดว่า แม่-ง ดีแต่กับคนอื่น กับพ่อกับน้องเฮีย ก็ด่าๆๆ จนเขากลับมาบ้าน กะจะมาตบเราละมั้ง แต่แม่อยู่ แม่ก็ไม่อะไร ด่าว่า จะทะเลาะกันทำเฮียไรเนี่ย พวกๆๆๆๆ เราก็ร้อง เขาก็ร้อง หลังจากนั้นเราก็ไม่คุยกับเขาเลย

ตอนช่วงที่เราเป็นหนี้ ไม่มีใครช่วยเรานะ แต่เป็นผู้ใหญ่คนอื่นที่ช่วยเรา  แต่พอพี่ชายเราเป็นหนี้แม่เราเอาที่ดินไปจำนองให้เขามาใช้หนี้ 160000 แม่ให้เรากับพี่สาวคนละ10000 ที่เหลือก็พี่ชาย กับแม่ วันที่แม่กับพี่ชายจะเอาที่ไปจำนองเขาไม่ได้บอกเรานะ เราถามว่า ไปไหนกัน แม่ตอบเราว่า จะทำไม เราก็เลยเงียบจนเรามารู้ทีหลังว่าแม่เอาที่ไปจำนองช่วยพี่ชาย ในช่วงที่พี่ชายไม่มีเงิน แต่สั่งของออนไลน์มาส่งที่บ้านทุกวัน ย้ำ!!ว่าทุกวัน
แต่เราตะโกนเรียนเบาๆ ว่า ....(ชื่อพี่ชาย) มีของมาส่ง
แต่ถ้าเป็นของของเรา เพียงแค่ชิ้นเดียว แม่พูดว่า รวยเนอะ!บางครั้งก็มองค้อน วันไหนไม่พอใจทั้งๆที่นอนกับเรา แต่ก็ไม่คุยกับเรา มาสั่งลูกเราแทน  เสื้อผ้า จริงอยู่ที่โตๆกันแล้วแม่ไม่ต้องซักให้  แต่แม่ซักให้พี่ชายเรานะ ทั้งๆที่วันหยุดเขาจะซักก็มี จานที่ร้าน ของที่ร้าน ก็ไปเก็บ กวาด ล้าง ถูให้ เรียบร้อย  ลูกเราเห็นลูกเราพูดว่า แม่ครับ ทำไมยายเขาไม่ซักผ้าให้แม่บ้าง แม่ทำงานเยอะกว่าลุงอีก เราเลยบอกลูกไป แม่โตแล้วครับ ยายไม่จำเป็นต้องซักผ้าให้ แต่ที่ยายซักให้ลุง อาจจะเพราะลุงซักผ้าไม่สะอาดครับ ไม่รู้จะตอบยังไง บางครั้งลูกเราไปช่วยเสิร์ฟช่วยขาย ก็โดนว่ามั่ง ด่ามั่ง แม่เราใช้ให้ไปเอาของ ถ้าลูกเราหาไม่เจอก็โดนว่าว่า ทำไมโง่ขนาดนี้ และอีกเยอะแยะมากมาย ลูกเราเข้าห้องมาแล้วพูดว่า แม่ครับหนูไม่อยากช่วยแล้ว หนูทำอะไรไป ก็โดนลุงกับยายว่า ทำอะไรก็ไม่ถูกใจเขาสักอย่าง
ตอนนั้นเราค้างค่ารถ 2 งวด เราโทรหาแม่ บอกแม่ช่วยพูดกับคนนั้นหน่อยได้มั้ย ขอเพิ่มได้มั้ยจะเอามาจ่ายค่ารถ แม่เราบอกว่า
กูช่วยลูกทุกคนไม่ได้หรอก!! เราก็ จบ ไม่พูดต่อ
ตอนนี้ เรากกำลังจะย้ายออกมาอยู่ห้องพักบริษัท ซึ่งบ.อยู่ตรงข้ามบ้าน เจ้านายเราช่วย
ทุกคนคิดว่าถ้าเราออกมา เพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายตัวเองเช่น ค่าไฟที่ต้องหาร เราต้องมีระเบิดลูกใหญ่กับพี่ชายแน่ๆ  พี่ชายเราต้องไปเล่นงานพ่อแน่ๆ เรายังรับส่งพ่อเหมือนเดิมเพียงจะไม่เอาชีวิตไปคลุกอยู่กับตรงนั้น แค่นั้นเอง

ถ้าทุกคนเป็นเราทุกคนจะทำไงต่อคะจะออกจากบ้านมั้ย แต่ไม่ได้ทิ้งพ่อนะ ไปหาพ่อ รับส่งพ่อแบบเดิม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่