เรามาธนาคารตั้งแต่เช้าเลยค่ะ มากับแม่ เป็นช่วงที่มีปัญหาเรื่องคนละครึ่ง ธนาคารสีฟ้า
ปัญหาคือเปลี่ยนเบอร์ใหม่ แล้วแอปแจ้งว่าต้องมาธนาคารเท่านั้น
ประเด็นคือ ที่ๆเราไป มันไม่ใช่เขตในตัวเมืองค่ะ หรือเป็นสาขาหลัก แต่เป็นพวกสาขาย่อย
ซึ่งเราไปค่อนข้างเช้าเลยค่ะ ช่วง 6 โมงเช้ากว่าๆ เพราะคิดว่าอาจจะคิวยาวแน่ๆ
แต่พอไปถึงธนาคารไม่มีใครเลยค่ะ มีคนมารออยู่ประมาณสิบกว่าคน นั่งล้อมโต๊ะกินข้าวกัน กลุ่มใครกลุ่มมัน
เราก็เลยยืนรอที่หน้าธนาคารค่ะ ธนาคารมันเปิด 10 โมง เพราะงั้นเราอยู่ตรงนั้นนานมากๆ ไม่มีที่นั่งด้วย
จนกระทั่งใกล้ถึงเวลาค่ะ จู่ๆมีลุงเดินมาจากไหนไม่รู้ ไปแง้มประตูกระจกเพื่อถามว่าเขารับคิววันนึงเท่าไหร่ คำตอบคือ 40 คิวค่ะ
จากนั้นก็เกิดชลมุนขึ้นมาค่ะ จู่ๆก็มีคนมากมายมาเบียดแถวกัน โหมมาจากทิศทางไหนก็ไม่รู้ค่ะ จากที่ไม่มีคนเลยโล่งๆ
เจ้าหน้าที่ธนาคารก็เลยออกมาแจ้งว่า ใครที่มีบัญชี ต้องการลงทะเบียนร้านค้า ไปสาขาอื่นที่เขารองรับจะไวกว่าค่ะ
จะได้ไม่ต้องมาแออัดกันแบบนี้ แล้วก็ให้เข้าแถวเดียว จากนั้นก็ปิดประตูกลับไป
แล้วอยู่ๆก็มีป้าคนนึงตะโกนขึ้นว่า ก็เอาตามคิวที่เราถือสิ!! (ป้าคนนี้เราไม่เห็นหน้าเขาเลยค่ะ พึ่งจะเห็นมา)
ตอนนั้นช็อคเลยค่ะ เรายืนอยู่ข้างหน้าแถวคนที่ 2 ตอนแรก แต่โดนดันไปข้างหลัง คนที่เหมือนจะพึ่งมาก็วิ่งมาแทรก แล้วบอกว่าตัวเองมีบัตรคิว
เราเลยสงสัยว่า อ้าว เขามีบัตรคิวกันด้วยหรอ ธนาคารทำไมไม่เห็นแจ้งอะไรเลย จองออนไลน์ก็ไม่มี
"เอาบัตรคิวมากจากไหนหรอคะ" คนที่พึ่งมาถึงอีกคนถาม
"จากโต๊ะข้างหลังเลยค่ะ ฝั่งนู้น" คนที่มีบัตรคิวอีกคนตอบ
เราก็เลยรีบเดินหาเลยค่ะ ตรงไหนที่เป็นโต๊ะบัตรคิว สรุปคือ มันคือโต๊ะที่เขาล้อมวงกันกินข้าวเมื่อกี้เป็นวงกลม
เป็นคิวที่เขียนกันเอง โดยใช้กระดาษที่เขาเตรียมกันมา บางคนเขียนใส่ใบเสร็จซื้อของจากห้างที่ไหนก็ไม่รู้ วิ่งแจ้นมาได้คิวก่อน
แม่เราเขาก็เลยพูดไปค่ะ "อ้าว แต่พวกเรามาแต่เช้าเลยนะคะ ไม่เห็นจะมีคิวเลย มารอนานหลายชั่วโมงแล้ว ทำแบบนี้ได้หรอ"
เรายืนอยู่หน้าธนาคาร ทั้งนั่ง ทั้งยืน ทั้งเฝ้าตู้ ธนาคารไม่ได้กว้างขนาดที่คนที่ยืนแถวนั้นเขาจะไม่เห็นว่าเรามาก่อน
แต่ว่า "ก็ตามคิวค่ะ นี่มาตั้งแต่ตี 5"
แม่เราเลยของขึ้นค่ะ เขาก็ป่วย มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับข้อและกระดูก แต่ก็ต้องมาทนลำบากเจ็บปวดร่างกายรอ
มายืนรอจนขาลาก เราก็ไม่ได้ทำงาน มายืนรอค่ะ นอนแค่ชั่วโมงเดียว ทำงานของเมื่อวานเสร็จ ก็รีบมาต่อแถวธนาคารเลยค่ะ
แถมยังต้องมีงานต่อ แต่ต้องขอเขาเลื่อนทำ เพราะมาทำธุระก่อน
"แบบนี้เราก็เสียเปรียบสิคะ ไม่เห็นจะมีใครมาบอกเลยว่าเขาเขียนคิวกัน มารอนานแล้ว แบบนี้เราก็ซวยสิ" แม่เราพูดค่ะ
แล้วป้าเขาก็ทำเป็นพูดกันกับอีกคนเสียงดังเชิงประชดใส่แม่เราค่ะว่า
"ก็ต้องตามคิวอ่ะ เขาทำแบบนี้กันมานานละ ทำถูกต้องแล้ว ไม่งั้นไอ้พวกมาทีหลัง แล้วมาบอกว่ามาก่อน ก็จะมาเอาเปรียบคนอื่น ใครก็พูดได้อ่ะ มาก่อน"
หมดคำจะพูดเลยค่ะ พวกเรากลายเป็นคนที่เหมือนมาเอาเปรียบคนอื่นซะแล้ว
คือที่เขาพูดก็ไม่ผิดหรอกค่ะ แต่เรามาก่อนจริงๆ แล้วเราควรจะทำยังไง?
เราจำได้หลายคนเลยค่ะ ป้าที่มาทีหลังเรา มาขอให้เรากางร่มให้ เพราะแสกนหน้าไม่เห็นเพราะมันย้อนแสง
คนที่เดินมาสะกิดว่าตู้ยืนยันตัวได้หรอ เพราะเรายืนยันบัตรให้แม่อยู่ค่ะ
หลายๆคนที่มาทีหลัง พึ่งขี่รถกันมาจอดก็มี ยังมาถามเราอยู่เลยว่าธนาคารเปิดให้เอาบัตรคิวกันรึยัง
คือบางคนเขาก็พูดนะคะ "สุดท้ายธนาคารก็จัดเรียงคิวเองอยู่ดี เขามีระบบของเขา" แม่เราก็จะไม่ยอมค่ะ จะยืนต่อแถวต่อ
แต่เขาก็ดึงคนที่มีบัตรคิวมาดันแทรกแม่เราอยู่ดี แถมพูดเสียงดัง เหมือนว่าตัวเองคือความยุติธรรมที่สุดแล้ว
สุดท้ายพวกเราเลยกลับบ้านค่ะ เพราะที่ยืนรอมาหลายชั่วโมง ธนาคารรับแค่ 40 คิว แต่ในวินาทีนั้น มีคนต่อแถวยาวไป 70 คิวกว่า
คำถามคือคนพวกนี้มาจากไหนคะ จากเมื่อวานก็คงไม่ใช่ เพราะเราไปเห็นกระดาษหวย ที่เขาเอามาเขียนคิวกัน ถูกฉีกจนหมดเล่มวางทิ้งอยู่
บางคนคือมาเป็นใบเสร็จเลยค่ะ ใบเสร็จซื้อของ คือมั่วมาก กระดาษ ไม่รู้ว่าหัวท้ายมาจากตรงไหนและสิ้นสุดที่ใคร
ถ้าเขาต้องการจะใช้ระบบนี้ เราไม่ติดเลยค่ะ ถ้าเขาเขียนป้าย หรือทำจุดที่ชัดเจนกว่านี้
ไม่ก็ต้องมีคนที่เริ่มเขียนคิวคอยยืนแล้วตะโกนบอกหรือถามทุกคนว่า "ใครพึ่งมา มาเอาบัตรคิวได้นะคะ" เราจะได้ไปเอาแต่แรกค่ะ
แต่นี่เห็นเขาตั้งวงกินข้าวกัน พูดกัน รู้จักกันทั้งวง ใครจะไปกล้าขัด แถมธนาคารดูโล่งมากๆ แทบไม่มีคนเลย เราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่ต้องถามคนอื่น
ธนาคารก็ไม่มีบัตรคิว ไม่มีป้าย ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าเขามีการรับคิวกันแต่อย่างใด
บางคนเป็นญาติกันค่ะ ญาติวงใหญ่เลย มาทีหลังเลยค่ะ แต่แบบมาเบียดเข้าแถวหน้า ตอนแรกก็งงมาไง แล้วก็ยืนคุยกับคนหน้าแถวเฉย
แถมมีบัตรคิวด้วยค่ะ
มันถูกต้องแล้วจริงหรอคะ เราอาจจะเป็นคนส่วนน้อยที่อยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่ามีคิว ตามหลักประชาธิปไตยก็คงถูกปัดตก แทบไม่มีใครจะฟัง
หรือเห็นใจใดๆเพราะมันไม่ใช่เรื่องของเขา แล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องออกหน้าให้ว่าเขาเห็นเรามายืนต่อแถวนานแล้ว
แต่ก็เจ็บใจค่ะ ที่เหมือนโดนเอาเปรียบแล้วก็ดูถูกกันซึ่งหน้า
ว่าเราเป็นพวกโกหก เอาเปรียบคนอื่น โดยที่เราทำอะไรกันไม่ได้เลย ได้แต่ยอมรับว่าพวกเราซวยเองค่ะ
เราเหนื่อยกันมากๆ มันไม่มีที่นั่งดีๆ ที่นั่งดีๆก็มีคนนั่งกินข้าวกันหมดแล้ว เรายืนเฝ้าประตูธนาคาร ตากแดดนานจนผิวไหม้เปลี่ยนสี
ยุงแถวนั้นตัวใหญ่มาก โดนกัดจนแดงทั้งขาเลยค่ะ เรายิ่งเป็นคนแพ้ง่าย ก็ต้องยอมยืนต่อ เพราะจะให้เดินไปทางอื่น เดี๋ยวคนอื่นมาแซงคิวตอนประตูเปิด
ทั้งเสียเงินค่ารถ ค่าเดินทาง ค่ากิน แต่ก็ต้องกลับบ้านมือเปล่า พร้อมกับความรู้สึกผิดหวังมากๆ แล้วก็ต้องหาวันลางานอีก เพื่อไปใหม่อีกรอบ
บัตรคิวธนาคารเขียนกันเองได้ด้วยหรอคะ มันถูกต้องแล้วหรือเป็นแค่ความเห็นแก่ตัวของคนกลุ่มเดียวที่หาความชอบธรรมเอง?