KEY POINTS
ประกันสังคมเตรียมปรับเพิ่มเพดานเงินสมทบเป็นขั้นบันได เริ่มปี 2569 คิดฐานเงินเดือนสูงสุด 17,500 บาท และจะเพิ่มขึ้นไปจนถึง 23,000 บาท ในปี 2575
กองทุนประกันสังคมมีพอร์ตลงทุนมูลค่ารวมกว่า 2.8 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็นการลงทุนในหลักทรัพย์มั่นคงสูง (68.59%) และหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเพื่อเพิ่มผลตอบแทน (31.41%)
พอร์ตลงทุนในหุ้นไทย 72 หลักทรัพย์ มีมูลค่ากว่า 2.1 แสนล้านบาท โดย 10 อันดับแรกที่ถือครองมูลค่าสูงสุดคือ PTT, SCB, KBANK, CPALL, SCC, ADVANC, BBL, BDMS, AOT และ CPN
สำนักงานประกันสังคมจะมีการปรับโครงสร้างเงินสมทบใหม่ โดยแผนเดิมจะคิดฐานเงินเดือนสูงสุด อยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน หรือเราจะต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด อยู่ที่ 750 บาทต่อเดือน
แต่ในปี 2569 สำนักงานประกันสังคมจะคิดฐานเงินเดือนสูงสุด อยู่ที่ 17,500 บาทต่อเดือน หรือเราจะต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด อยู่ที่ 875 บาทต่อเดือน
จากนั้นปี 2572 จะคิดฐานเงินเดือนสูงสุด อยู่ที่ 20,000 บาทต่อเดือน หรือเราจะต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด อยู่ที่ 1,000 บาทต่อเดือน
และในปี 2575 จะคิดฐานเงินเดือนสูงสุด อยู่ที่ 23,000 บาทต่อเดือน หรือเราจะต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด อยู่ที่ 1,150 บาทต่อเดือน
ถึงแม้เราจะต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่มขึ้น แต่สำนักงานประกันสังคมก็ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นด้วย เช่น เงินบำนาญรายเดือนเพิ่มขึ้น, สิทธิค่ารักษาพยาบาลและทดแทนรายได้ชัดเจนขึ้น, เงินสงเคราะห์การคลอดบุตร, เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต และเงินบำนาญชราภาพ เป็นต้น
เงินสมทบประกันสังคมนำไปทำอะไรบ้าง?
เงินสมทบประกันสังคมนำไปใช้เพื่อจ่ายสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 7 กรณี คือ เจ็บป่วย, คลอดบุตร, ทุพพลภาพ, เสียชีวิต, สงเคราะห์บุตร, ชราภาพ และว่างงาน นอกจากนี้ ยังนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง และหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง
ทั้งนี้ เงินลงทุนของกองทุนประกันสังคม ณ วันที่ 30 ก.ย.2568 มีมูลค่าทั้งสิ้น 2,826,197 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง เพื่อความยั่งยืนของกองทุนในระยะยาว และการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน
การลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง จำนวน 1,938,601 ล้านบาท คิดเป็น 68.59% ได้แก่
พันธบัตรรัฐบาล ธปท. รัฐวิสาหกิจ ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน 1,381,129 ล้านบาท คิดเป็น 48.87%
หน่วยลงทุนตราสารหนี้ ตปท. ที่ได้อันดับความน่าเชื่อถือ จำนวน 400,420 ล้านบาท คิดเป็น 15.17%
เงินฝาก จำนวน 79,993 ล้านบาท คิดเป็น 2.83%
หุ้นกู้เอกชนหรือ securitized debt ที่ได้รับอันดับความน่าเชื่อถือ จำนวน 77,059 ล้านบาท คิดเป็น 2.73%
การลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง จำนวน 887,596 ล้านบาท คิดเป็น 31.41% ได้แก่
หน่วยลงทุนตราสารทุน ตปท. จำนวน 478,115 ล้านบาท คิดเป็น 16.92%
ตราสารทุนไทย จำนวน 216,774 ล้านบาท คิดเป็น 7.67%
หน่วยลงทุนอสังหา, โครงสร้างพื้นฐาน, ทองคำ จำนวน 118,161 ล้านบาท คิดเป็น 4.18%
หน่วยลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ จำนวน 72,576 ล้านบาท คิดเป็น 2.57%
พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ที่ กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน จำนวน 1,970 ล้านบาท คิดเป็น 0.07%
โดยมีการกระจายการลงทุนในประเทศ จำนวน 1,772,433 ล้านบาท คิดเป็น 62.71% และต่างประเทศ จำนวน 1,053,764 ล้านบาท คิดเป็น 37.29%
ดังนั้น “โพสต์ทูเดย์” พามาสำรวจเฉพาะพอร์ตการลงทุนตราสารทุนไทย ของ “สำนักงานประกันสังคม” ซึ่งจากข้อมูล StockRadars พบว่า มีการลงทุน จำนวน 72 หลักทรัพย์ มูลค่ารวม 212,335.33 ล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคาร คิดเป็นสัดส่วน 19.25% หุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค คิดเป็นสัดส่วน 18.44% หุ้นกลุ่มพาณิชย์ 11.79% และหุ้นกลุ่มอื่นๆ อีก 50.55%
สำหรับบริษัทที่ “สำนักงานประกันสังคม” ถือหุ้นอยู่ในปัจจุบัน มูลค่าสูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย
1.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT
ถือหุ้นอันดับ 5 จำนวน 523.70 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.83% มูลค่าประมาณ 15,841.93 ล้านบาท
2.บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB
ถือหุ้นอันดับ 5 จำนวน 107.76 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.20% มูลค่าประมาณ 14,008.80 ล้านบาท
3.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK
ถือหุ้นอันดับ 6 จำนวน 78.43 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.31% มูลค่าประมาณ 13,450.75 ล้านบาท
4.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL
ถือหุ้นอันดับ 3 จำนวน 283.32 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.15% มูลค่าประมาณ 13,386.87 ล้านบาท
5.บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC
ถือหุ้นอันดับ 3 จำนวน 66.43 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.54% มูลค่าประมาณ 13,352.43 ล้านบาท
6.บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC
ถือหุ้นอันดับ 9 จำนวน 44.94 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.51% มูลค่าประมาณ 13,347.18 ล้านบาท
7.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL
ถือหุ้นอันดับ 3 จำนวน 82.15 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.30% มูลค่าประมาณ 12,527.88 ล้านบาท
8.บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS
ถือหุ้นอันดับ 6 จำนวน 563.17 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.54% มูลค่าประมาณ 11,150.77 ล้านบาท
9.บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT
ถือหุ้นอันดับ 4 จำนวน 196.12 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.37% มูลค่าประมาณ 7,893.83 ล้านบาท
10.บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN
ถือหุ้นอันดับ 3 จำนวน 121.73 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.71% มูลค่าประมาณ 6,542.99 ล้านบาท
เจาะพอร์ตลงทุนประกันสังคม ก่อนเพิ่มเงินสมทบเป็นขั้นบันได เริ่มปี 69