คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 105
ขอบคุณสำหรับทุกcommentนะครับ
ผมและเมีย นั่งอ่านกันทุกคอมเม้นเลย
มีประโยชน์กับครอบครัวเรามากๆครับ
ก่อนหน้านี้มันซีเรียสจริงๆสำหรับผม
ซึ่งไม่ค่อยเห็นด้วยกับกฎดังกล่าว
หลายคอมเม้นทำให้ผมได้เห็นมุมมองและประโยชน์ของความสะอาดเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ
เนื่องจากผมโตมาแบบเด็กต่างจังหวัดครับ คลุกดินคลุกทรายมาตั้งแต่เด็ก เลยไม่ค่อยซีเรียสเรื่องนี้มาก
สุดท้ายแล้วเรื่องนี้เคลียร์จบแล้วครับผม
เมียผมยอมถอยให้ เรื่องการลงลิฟท์
ต่อไปนี้ ในกรณีที่ผมอาบน้ำแล้ว
และเสื้อผ้าเป็นเสื้อผ้าใหม่
ผมสามารถลงไปเอาของ แล้วขึ้นมาโดยไม่ต้องเปลี่ยนชุดครับ
แต่ต้องล้างมือล้างเท้าให้สะอาด
และเช็ดเสื้อผ้าด้วยกระดาษแอลกอฮอล์ 2แผ่น
เท่านั้นจบครับ
ถือเป็นความก้าวหน้ามากในชีวิตของผม
ขอบคุณครับเมีย ขอบคุณครับทุกท่านที่ comment
ขอบคุณครับท่านแม่ท่านพ่อที่มาช่วยเคลียร์
🥰🥰
ผมและเมีย นั่งอ่านกันทุกคอมเม้นเลย
มีประโยชน์กับครอบครัวเรามากๆครับ
ก่อนหน้านี้มันซีเรียสจริงๆสำหรับผม
ซึ่งไม่ค่อยเห็นด้วยกับกฎดังกล่าว
หลายคอมเม้นทำให้ผมได้เห็นมุมมองและประโยชน์ของความสะอาดเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ
เนื่องจากผมโตมาแบบเด็กต่างจังหวัดครับ คลุกดินคลุกทรายมาตั้งแต่เด็ก เลยไม่ค่อยซีเรียสเรื่องนี้มาก
สุดท้ายแล้วเรื่องนี้เคลียร์จบแล้วครับผม
เมียผมยอมถอยให้ เรื่องการลงลิฟท์
ต่อไปนี้ ในกรณีที่ผมอาบน้ำแล้ว
และเสื้อผ้าเป็นเสื้อผ้าใหม่
ผมสามารถลงไปเอาของ แล้วขึ้นมาโดยไม่ต้องเปลี่ยนชุดครับ
แต่ต้องล้างมือล้างเท้าให้สะอาด
และเช็ดเสื้อผ้าด้วยกระดาษแอลกอฮอล์ 2แผ่น
เท่านั้นจบครับ
ถือเป็นความก้าวหน้ามากในชีวิตของผม
ขอบคุณครับเมีย ขอบคุณครับทุกท่านที่ comment
ขอบคุณครับท่านแม่ท่านพ่อที่มาช่วยเคลียร์
🥰🥰
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
คุณ จขกท. เอาคำถามนี้ไปถาม chatgpt ดู แล้วจะรู้ว่า
1. สิ่งที่ภรรยาคุณเป็น ถ้ามันมากเกินพอดี จนกระทบกับการใช้ชีวิต มันคือโรคจิตประเภทนึงครับ แนวทางการแก้ไขอาจต้องใช้จิตแพทย์
2. ส่วนการกลัวเชื้อโรคมากเกินพอดีโดยเลี้ยงเด็กในสถานที่ปลอดเชื้อมากเกินควร จะทำให้เด็กโตขึ้นมามีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ เพราะร่างกายไม่ค่อยได้รับเชื้อเพื่อเข้าไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดบนโลกใบนี้ มันมีความพอดีของมัน ถ้ามากเกินไปหรือเกินพอดี ก็จะทำให้เกิดทุกข์ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาทางจิต บางครั้งมันแก้ยากมาก เพราะคนที่เป็นโรคจิต ไม่มีใครยอมรับหรอกครับว่าเขาเป็นโรคจิต เขาจะเชื่อว่าสิ่งที่เขาคิดมันถูกต้องเสมอถึงแม้ว่าสิ่งที่เขาทำมันจะมีคนทำแค่ไม่กี่คนบนโลกเจาก็ยังเชื่อว่ามันถูกต้อง วิธีการที่ดีที่สุดคือการเอาเหตุผลเข้าต่อสู้ เมื่อสู้ด้วยเหตุผล ถ้า จขกท.แพ้ ก็ควรยอมรับ เช่นเดียวกันถ้าภรรยา จขกท. แพ้ เขาก็ควรยอมรับเช่นเดียวกัน สมัยนี้โชคดีนะที่มี AI เข้ามาช่วย บอกว่าอะไรถูก ผิด เพราะ AI มันไม่มี จิตใจ มันใช้ลอจิกในการตอบคำถามเท่านั้น ถ้าเถียงกันไม่จบ ก็ไปหาคนกลางอย่างจิตแพทย์ จะได้จบ ๆ แต่มันมีค่าใช้จ่าย
ขอให้โชคดี เคลียร์ปัญหาชีวิตให้จบครับ ส่วนคนใน Pantip ก็อย่าไปเชื่อมาก เพราะคนส่วนมากใช้ ใจในการคิด มากกว่าใช้สมองในการคิดครับ คุ๊จะได้ความเห็นที่มันมาจาก ทัศรคติ ไม่ใช่ Fact หรือข้อเท็จจริง
และท้ายที่สุด บางทีการที่อีกฝ่ายไม่ยอมปรับอะไรเลยถึงแม้ว่าเขาจะผิด ถ้ามันมากจนเกินพอดีจนทำให้ชีวิต จขกท. เป็นทุกข์ การเลือกเดินออกมา หรือยอม ๆ มันไป มันก็อาจเป็นทางแก้ปัญหา เหตุเพราะ จขกท. มีลูกและไม่อยากมีปัญหาครอบครัว เลือกทางชีวิตดูครับ ใช้เหตุผลในการมีชีวิตเยอะ ๆ
1. สิ่งที่ภรรยาคุณเป็น ถ้ามันมากเกินพอดี จนกระทบกับการใช้ชีวิต มันคือโรคจิตประเภทนึงครับ แนวทางการแก้ไขอาจต้องใช้จิตแพทย์
2. ส่วนการกลัวเชื้อโรคมากเกินพอดีโดยเลี้ยงเด็กในสถานที่ปลอดเชื้อมากเกินควร จะทำให้เด็กโตขึ้นมามีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ เพราะร่างกายไม่ค่อยได้รับเชื้อเพื่อเข้าไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดบนโลกใบนี้ มันมีความพอดีของมัน ถ้ามากเกินไปหรือเกินพอดี ก็จะทำให้เกิดทุกข์ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาทางจิต บางครั้งมันแก้ยากมาก เพราะคนที่เป็นโรคจิต ไม่มีใครยอมรับหรอกครับว่าเขาเป็นโรคจิต เขาจะเชื่อว่าสิ่งที่เขาคิดมันถูกต้องเสมอถึงแม้ว่าสิ่งที่เขาทำมันจะมีคนทำแค่ไม่กี่คนบนโลกเจาก็ยังเชื่อว่ามันถูกต้อง วิธีการที่ดีที่สุดคือการเอาเหตุผลเข้าต่อสู้ เมื่อสู้ด้วยเหตุผล ถ้า จขกท.แพ้ ก็ควรยอมรับ เช่นเดียวกันถ้าภรรยา จขกท. แพ้ เขาก็ควรยอมรับเช่นเดียวกัน สมัยนี้โชคดีนะที่มี AI เข้ามาช่วย บอกว่าอะไรถูก ผิด เพราะ AI มันไม่มี จิตใจ มันใช้ลอจิกในการตอบคำถามเท่านั้น ถ้าเถียงกันไม่จบ ก็ไปหาคนกลางอย่างจิตแพทย์ จะได้จบ ๆ แต่มันมีค่าใช้จ่าย
ขอให้โชคดี เคลียร์ปัญหาชีวิตให้จบครับ ส่วนคนใน Pantip ก็อย่าไปเชื่อมาก เพราะคนส่วนมากใช้ ใจในการคิด มากกว่าใช้สมองในการคิดครับ คุ๊จะได้ความเห็นที่มันมาจาก ทัศรคติ ไม่ใช่ Fact หรือข้อเท็จจริง
และท้ายที่สุด บางทีการที่อีกฝ่ายไม่ยอมปรับอะไรเลยถึงแม้ว่าเขาจะผิด ถ้ามันมากจนเกินพอดีจนทำให้ชีวิต จขกท. เป็นทุกข์ การเลือกเดินออกมา หรือยอม ๆ มันไป มันก็อาจเป็นทางแก้ปัญหา เหตุเพราะ จขกท. มีลูกและไม่อยากมีปัญหาครอบครัว เลือกทางชีวิตดูครับ ใช้เหตุผลในการมีชีวิตเยอะ ๆ
ความคิดเห็นที่ 2
อยากจะขอเสนอ ไม่สั่งอะไรให้มาส่งหลังอาบน้ำแล้ว.. ตัดปัญหา
ล้างมือ หลังเข้ามาในบ้าน ควรทำ เข้าใจได้
ล้างเท้าก่อนขึ้นเตียง ควรทำ ก็รองเท้ามันสกปรกได้ แต่แค่เดินในบ้าน หยวนๆบ้างก็ได้ แบบ เปลี่ยนใช้รองเท้าเฉพาะในบ้านไหม?
ตอนนี้ โควิดความแรงก็เหมือนไข้หวัด ไม่ได้สาหัสเท่าเดิมสมัยแรกๆ และเอาจริงๆก็ใช่ มีได้ในอากาศ อยู่ได้นานเป็นชั่วโมง
ถ้าอยากจะลงไป หาเสื้อมาคลุมใส่เลย ถอดแต่เสื้อคลุม แจ็คเก็ต หาที่แขวนข้างประตู รับได้ไหม
แต่ทางที่ดี หยุดการซื้อและต้องมาลงหลังอาบน้ำ และคิดจะไปนอน แค่จัดการเวลาให้ดีเท่านั้น
ล้างมือ หลังเข้ามาในบ้าน ควรทำ เข้าใจได้
ล้างเท้าก่อนขึ้นเตียง ควรทำ ก็รองเท้ามันสกปรกได้ แต่แค่เดินในบ้าน หยวนๆบ้างก็ได้ แบบ เปลี่ยนใช้รองเท้าเฉพาะในบ้านไหม?
ตอนนี้ โควิดความแรงก็เหมือนไข้หวัด ไม่ได้สาหัสเท่าเดิมสมัยแรกๆ และเอาจริงๆก็ใช่ มีได้ในอากาศ อยู่ได้นานเป็นชั่วโมง
ถ้าอยากจะลงไป หาเสื้อมาคลุมใส่เลย ถอดแต่เสื้อคลุม แจ็คเก็ต หาที่แขวนข้างประตู รับได้ไหม
แต่ทางที่ดี หยุดการซื้อและต้องมาลงหลังอาบน้ำ และคิดจะไปนอน แค่จัดการเวลาให้ดีเท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
เมียผมเป็นโรคสะอาด
เพราะต่อไปนี้ เวลาผมกับเมียมีปัญหาขัดแย้งกัน ผมจะมาปรึกษาในนี้ โดยเราทั้งคู่จะเขียนกระทู้นี้ร่วมกัน
เนื่องจากผมทั้งคู่ไม่มีเพื่อนที่ไหน เลี้ยงลูกกัน 2 คน พ่อแม่ก็แก่แล้ว และอยู่ต่างจังหวัด รบกวนเพื่อนๆออกความเห็นกันด้วยนะครับ
ต่อจากนี้จะเริ่มเกริ่นยาวแล้วนะครับเพื่อให้เข้าใจภาพรวม
1)ผมกับเมียผมรักกันดีไม่มีความคิดจะเลิกกันนะครับ
2)account นี้ตั้งขึ้นเนื่องจากความขัดแย้งของเราทั้งคู่ที่ไม่ลงตัว ด้านความสะอาด
3)เราไม่มีปัญหากับเรื่องอื่นเลยครับ แต่เรื่องความสะอาด มันเป็นความขัดแย้งที่หนักจริงๆสำหรับคู่ผม
4)เราแต่งงานอยู่กินกันมา 10 ปี ใช้ชีวิตปกติครับ
มีความสุขกันดี ทะเลาะกันบ้าง ทั่วไป
5)เหตุการณ์ปัญหาทั้งหลาย
มันเริ่มขึ้นตั้งแต่ 3 ปีก่อนครับ
ตอนเมียผมคลอดลูกแฝดชาย
6)เมียผมรับผิดชอบการดูแลลูกและงานบ้านประมาณ 80% ผมช่วยประมาณ 20% เพราะต้องทำงานไปด้วย
7)หน้าที่ของเมียผมคือ ตื่นมาแปรงฟัน เปลี่ยนเพิส ทำกับข้าวให้ลูก และป้อนข้าวลูก ทั้ง 3 มื้อ
8)ส่วนผมมีหน้าที่ล้างจาน ช่วยอาบน้ำ และก็ดูแลลูกตอนเมียไม่ว่าง
9)เวลาที่เหลือก็ทำงานฟรีแลนซ์อยู่ที่บ้าน เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านผมเป็นคนออกทั้งหมด
10)เรื่องเงินที่บ้านเราไม่ค่อยมีปัญหาครับพออยู่ได้
11)ลูกแฝดชายทั้งคู่เติบโตมาพร้อมกับความซนครับ ภรรยาผมก็รับบทหนักขึ้นตามลำดับ
12)ผมก็ช่วยบ้าง แต่ต้องทำงานไปด้วย
13)ผมมีแวะเล่น rov บ้างประมาณวันละ 5-6 เกม
แต่ไม่ได้เล่นเกมติดกันนะครับ เล่นตามเวลาว่าง
14)ผมและภรรยาอยู่บ้านกันเกือบ 100% ครับ ไม่มีใครออกไปทำงานข้างนอก ถ้าออกเที่ยวข้างนอกก็คือไปด้วยกันทั้งครอบครัวทุกครั้ง
15)ผมมีไปกินเหล้ากับเพื่อนบ้างประมาณปีละ1ครั้ง
16)เราอยู่กันในห้องคอนโดครับ
ต่อไปนี้จะเป็นรายละเอียดเรื่องความขัดแย้ง
การลงลิฟท์
1)เมื่อผมสั่ง LINE man
2)ผมจะต้องเดินเปิดประตูออกจากห้อง แล้วลงลิฟท์ไปชั้น 1 เพื่อรับของจาก LINE man
3)ผมก็ขึ้นลิฟท์กลับขึ้นมา
4)เมื่อเข้ามาในห้อง ผมจะเดินไปล้างเท้าล้างมือก่อน แล้วจึงจะสามารถเข้ามาแตะต้องลูกได้
5)คอนโดของเรามีลักษณะ เมื่อเปิดประตูเข้ามา
จะเจอห้องนั่งเล่นก่อน แล้วค่อยเปิดประตูเข้าห้องนอนอีกที
ซึ่งห้องนอนนี้ไม่ใช่ห้องเดียวกับที่ลูกนอนนะครับ
ปัญหาก็คือ
1)แม้ผมจะพึ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่
2)ถ้าต้องลงไปเอาของ
3)เมื่อผมขึ้นลิฟท์กับขึ้นมา
4)ก่อนจะขึ้นเตียงนอน
5)แม้ว่าผมจะล้างเท้าอย่างดีแล้วก็ตาม
6)ผมต้องถอดเสื้อผ้าชุดเมื่อกี้ออกทั้งหมด
แล้วเปลี่ยนชุดใหม่เพื่อขึ้นเตียงนอนอีกที
7)ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมยอมรับไม่ได้
แต่ก็ต้องทำมาตลอด3ปี
เหตุผลทางเมียผม คือ
1)ถึงผมจะลงไปเอาของที่ LINE man โดยที่เสื้อผ้าที่ผมใส่ออกไปไม่ได้สัมผัสอะไรเลย
2)แต่เนื่องจากการที่ผม ยืนอยู่ในลิฟท์ ซึ่งเป็นลิฟท์ที่ใช้ส่วนรวมโดยคนหลายสิบคน หลายเชื้อชาติ
อาจจะมีใครเป็นโรคอะไรอยู่ในลิฟท์ก็ได้
3)เมียผมสรุปว่า มันอาจจะมีเชื้อโรคจากช่องลมลิฟท์ เชื้อโรคในอากาศรอบๆในตัวลิฟต์ และก็ยังมีโควิดด้วย
4)เมียผมก็ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า ผมจะรู้ได้ยังไงว่าเสื้อผ้าผมไม่ได้ปัดไปโดนขอบลิฟท์ เพราะผมเป็นคนไม่ระวัง มันอาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ระหว่างที่ลงไปเอาข้าวกับ line man
5)ทั้งหมดเพราะเธอกลัวจะเอาเชื้อโรคมาติดลูก
ผมไม่สามารถอธิบายให้เธอเข้าใจได้จริงๆไม่ว่าจะยกเหตุผลอะไรมาก็แล้วแต่
ผมทำโดยไม่เต็มใจมา 3 ปี ทะเลาะกันหลายรอบมากๆ
นอกจากนี้มันยังมีข้ออื่นอีก
แต่ขอเรื่องลงลิฟท์ก่อนครับ
สรุป ผมต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนขึ้นเตียงนอนไหมครับ??
ถ้าเสื้อผ้าก่อนลงลิฟท์เป็นเสื้อผ้าใหม่สะอาดนี่แหละเพิ่งอาบน้ำมาเลย
ในลิฟท์มันมีไอระเหยของเชื้อโรคจริงไหมครับ
ผมรู้ว่าคำถามมันอาจจะไร้สาระสำหรับบางคน รบกวน comment อย่างสุภาพนะครับ อยากทราบมุมมองจริงๆ