JJNY : 5in1 ไทยดันวาระเข้าIPU│เชิญ‘โรม’ให้ข้อมูล│กันยันไม่ได้ลงสมัครสส.│ทหารเขมรป่วน!ยิงหนังสติ๊ก│ฮามาสมอบศพตัวประกันไทย

ไทยดันวาระต้าน "อาชญากรรมไซเบอร์" เร่งด่วน เข้าที่ประชุมใหญ่ IPU
.
.
เวที IPU ระอุ! ไทยเสนอ "วาระเร่งด่วน" ต้านอาชญากรรมไซเบอร์ ด้าน "ออสเตรเลีย-มาเลเซีย" ไฟเขียวหนุน ส่วน "จีน-กัมพูชา" รุมเบรก
.
การประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (IPU) ครั้งที่ 151 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดฉากขึ้นแล้วเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2568 ตามเวลาท้องถิ่น ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติเจนีวา (CiCG)
.
โดยคณะผู้แทนรัฐสภาไทยใช้เวทีแรก เสนอ "ระเบียบวาระเร่งด่วน" เพื่อต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดน ท่ามกลางท่าทีท้วงติงจากจีนและกัมพูชา
การประชุมวาระแรกเริ่มต้นด้วยการประชุมอาเซียนบวก 3 ก่อนการประชุมกลุ่มเอเชียแปซิฟิก ซึ่งคณะผู้แทนรัฐสภาไทย
.
นำโดยประธานวันนอร์ และคณะผู้แทนรัฐสภากัมพูชา ได้เข้าร่วมประชุมพร้อมกัน ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยังคุกรุ่นของทั้งสองประเทศ
.
ไทยชูประเด็น "อาชญากรรมไซเบอร์" ขอเป็นวาระเร่งด่วน
.
ในที่ประชุมอาเซียนบวก 3 นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า คณะผู้แทนรัฐสภาไทยจะเสนอ "ระเบียบวาระเร่งด่วน" (Emergency Item)
.
เรื่อง "การเสริมสร้างบทบาทของรัฐสภาในการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดน"
.
ฝ่ายไทยชี้ให้เห็นว่า ปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะการหลอกลวงทางออนไลน์ หรือ "สแกม" (Scam) ได้กลายเป็นปัญหาสำคัญที่นำไปสู่อาชญากรรมข้ามพรมแดนร้ายแรงอื่นๆ ตามมา
.
ทั้งการค้ามนุษย์, การบังคับใช้แรงงาน (Forced Labor) และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในรูปแบบต่างๆ
.
นายรังสิมันต์ ได้ขอการสนับสนุนจากชาติสมาชิกอาเซียน และกลุ่มประเทศบวก 3 (จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย) เพื่อสนับสนุนร่างข้อมติของไทยให้ได้รับการบรรจุเป็นวาระเร่งด่วนในการประชุมใหญ่ IPU ซึ่งจะมีการเสนออย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 21 ตุลาคมนี้
.
ภายหลังการเสนอของไทย ผู้แทนจากจีนได้แสดงข้อสังเกต โดยขอให้ไทยพิจารณาทบทวนการใช้ "ถ้อยคำบางคำ" ในร่างข้อมติ และจะขอแสดงความคิดเห็นในรายละเอียดอีกครั้งในที่ประชุมใหญ่
.
ขณะที่ผู้แทนกัมพูชา ได้กล่าวสนับสนุนท่าทีของจีน โดยขอให้ไทยทบทวนร่างข้อมติดังกล่าวเช่นกัน พร้อมขยายความเพิ่มเติมว่า
.
ขอให้ไทยเน้นย้ำและให้น้ำหนักในประเด็น "การพิทักษ์รักษามนุษยธรรมในภาวะวิกฤต" ซึ่งเป็นหัวข้อหลัก (Theme) ของการประชุม IPU ครั้งนี้ มากกว่าการเจาะจงในเรื่องอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดน
.
มีรายงานเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่จีนมีความกังวลในถ้อยคำบางคำที่ไทยใช้ในร่างข้อมติ (ซึ่งถูกส่งเวียนเพื่อขอการสนับสนุนจาก 6 ภูมิภาค)
เนื่องจากถ้อยคำเหล่านั้น สอดคล้องหรือเป็นคำเดียวกับที่ปรากฏในรายงานของสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกเกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์
โดยเฉพาะคำว่า "แรงงานบังคับ" หรือ Forced labor ซึ่งจีนมองว่าเป็นคำที่เฉพาะเจาะจงเกินไป และอาจถูกเชื่อมโยงให้ส่งผลกระทบต่อจีนได้
.
บรรยากาศคุกรุ่น "ไทย-กัมพูชา" จับตาการเลือกที่นั่ง
.
การประชุมครั้งนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตถึงบรรยากาศตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะการเลือกที่นั่งในห้องประชุม
คณะผู้แทนรัฐสภาไทย นำโดยประธานวันนอร์ ซึ่งเดินทางมาถึงก่อน ได้เลือกนั่งแถวที่ 2 เพื่อให้มองเห็นเวทีได้ชัดเจน
.
แต่เมื่อคณะผู้แทนรัฐสภากัมพูชามาถึง ได้เลือกนั่งแถวหน้าสุด ซึ่งอยู่ด้านหน้าของคณะผู้แทนไทยทันที โดยไม่แน่ชัดว่าเป็นการจงใจเลือกที่นั่งในลักษณะ "ปาดหน้า" หรือไม่
.
"ทีมไทยแลนด์" เดินหน้าล็อบบี้ - ออสเตรเลีย, มาเลเซีย หนุน
.
อย่างไรก็ดี หลังจบการประชุมรอบอาเซียนบวก 3 และในช่วงพักก่อนเริ่มประชุมกลุ่มเอเชียแปซิฟิก (ซึ่งจีนเป็นประธาน) คณะผู้แทนไทยได้เริ่มเดินหน้าล็อบบี้ขอเสียงสนับสนุนร่างข้อมติดังกล่าวทันที
.
โดย "ทีมไทยแลนด์" จากรัฐสภาไทย และ สส. กัณวีร์ สืบแสง ได้แยกย้ายกันทำหน้าที่ล็อบบี้ ซึ่งมีรายงานว่า เบื้องต้นได้รับการตอบรับและเสียงสนับสนุนจากผู้แทนประเทศออสเตรเลียและมาเลเซียแล้ว
.

.
นายกฯ เชิญ ‘โรม’ให้ข้อมูล ย้ำต้องมีหลักฐาน ไม่ใช่พูดลอยๆ
.
เมื่อเวลา 14.05 น. วันที่ 19 ต.ค. ที่สนามฟุตบอลโปโลฟุตบอลพาร์ค เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีรายงานข่าวว่า นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่ต้องการลงนามสันติภาพและเจรจาหยุดยิง ว่า ตนยังไม่ทราบข่าวเรื่องนี้ เพราะขณะนี้ข้อตกลงดังกล่าวก็ยังเดินหน้า ประเทศไทยมีจุดยืน 4 ข้อ ส่วนเรื่องการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC)  ถือเป็นคนละเรื่องไม่ส่งผลอะไร เพราะเป็นเรื่องของการปักเขตแดน ซึ่งขณะนี้ดำเนินการมาได้เกินครึ่งแล้ว ก็ยังคงเดินหน้าเจรจา แต่ต้องใช้เวลา ส่วนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ก็ยังคงเดือนหน้า เช่นเดียวกันกับการเจรจาระหว่างกระทรวงการต่างประเทศระหว่างสองประเทศ 
.
เมื่อถามถึงกรณีที่ล่าสุดสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ประจำประเทศไทย ออกมายืนยันว่าไม่ได้มีการให้ข่าว 7 นักการเมืองไทย เชื่อมโยงเครือข่ายสแกมเมอร์ นายกฯ ย้อนถามว่า ก็ถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว ซึ่งเกาหลีใต้ก็ออกมาแถลงแล้วว่าไม่เป็นความจริง ก่อนที่นายอนุทิน จะรีบส่ายหัวว่า ไม่ๆ ไม่ใช่ความจริงต้องไม่ถาม และกล่าวต่อว่า ถามไม่ได้ ถามไม่ได้ เราปราบจริงจังอยู่แล้ว สัปดาห์ที่แล้วก็จับกุมวงเงินหลายหมื่นล้านบาท ขอให้ไปถามผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพราะได้รายงานตนมาเป็นชุดเลย และจะให้ ผบ.ตร.เป็นผู้แถลง เพราะจะได้ให้ตัวเลขที่แม่นยำ 
.
นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่อง 7 นักการเมือง ทางสถานทูตฯ เกาหลีใต้ก็ได้ออกมายืนยันชัดเจนแล้ว ก็แสดงว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้น แต่ถ้าหากเกิดขึ้นก็ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลนี้ไม่มีละเว้น ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือใครก็ตาม เพราะสแกมเมอร์ ถือว่าเป็นศัตรูสำคัญของประเทศและของโลก มีผู้เสียหายจากเรื่องนี้จำนวนมาก 
.
เมื่อถามต่อว่ามั่นใจได้ใช่หรือไม่ว่าไม่มีคนในรัฐบาลนี้เข้าไปเกี่ยวข้อง นายกฯ กล่าวว่า ต่อให้มีหรือไม่มี ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า ใครที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เมื่อถามอีกว่าหากนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) นำข้อมูลเรื่องสแกมเมอร์มาให้ก็ยินดีรับฟังใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยินดี แต่ต้องมีหลักฐาน เพื่อนำไปขยายผล พูดกันลอยๆ ไม่ได้ ต้องมีหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถนำไปดำเนินคดีต่อได้ ส่วนตัวก็อยากเชิญนายรังสิมันต์ มาหารือเป็นการส่วนตัว เพราะเป็นคนที่ให้ข้อมูล ตั้งแต่เรื่องที่แม่สอดแล้ว 
.
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ตนเข้าใจถึงความคาดหวังและความเดือดร้อนของประชาชนดี วันนี้ภัยคุกคามต่างๆ เกิดขึ้นแล้ว การจับสแกมเมอร์ก็เกิดขึ้นตลอดเวลา ย้ำว่ารายละเอียดนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ก็กำลังออกมาแถลง และตนได้มีการตั้งคณะกรรมการปราบปรามสแกมเมอร์ในวันที่ 20 ต.ค.จะมีการประชุมชุดใหญ่ เพื่อแบ่งงานให้ดำเนินการ เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นภัยความมั่นคงของชาติ  และหากตนไปพูดก่อนก็อาจจะถูกตำหนิ จะทำให้คนร้ายไหวตัวสามารถแก้เกมได้ อย่างเช่นเรื่องยาเสพติด ตอนนี้ก็อ้อมไปทางเมียนมา แสดงว่าเส้นทางเดิมใช้ไม่ได้ จึงต้องมีการเปลี่ยนวิธีการ.
.

.
กัน จอมพลัง ยืนยันไม่ได้ลงสมัคร สส. ขออย่าแชร์ข่าวปลอม
.
กัน จอมพลัง ยืนยันไม่ได้ลงสมัคร สส. ขออย่าแชร์ข่าวปลอม ลั่นไม่ยุ่งและไม่เล่นการเมือง ไม่มีสังกัดพรรคไหน กล้าเดิมพันมือออกคนละข้าง
เรียกได้ว่าเป็นดรามาที่ต่อเนื่อง หลังจาก ไอซ์ รักชนก สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความแท็กหา กัน จอมพลัง ให้ช่วยแก้ปัญหาสแกมเมอร์ที่กัมพูชา
.
ซึ่งฝั่ง กัน จอมพลัง ก็ตอบโต้ว่า ไอซ์ เปลี่ยนประเด็นจากการให้ช่วยแก้ปัญหาให้ประเทศ แต่มาโจมตีตน จนทำให้ตนสูญเสียรายได้ กว่า 600,000 บาท
ต่อมาไอซ์ ตอบโต้พร้อมยอมรับว่าสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันสกปรก ตั้งคำถามถึงคนที่ กัน จอมพลังสนิทสนมว่าอาจเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ พร้อมถามถึงรายรับ-รายจ่ายของมูลนิกัน จอมพลัง
.
ก่อนที่ กัน จอมพลัง จะโพสต์เอกสาร หลักฐานยันความบริสุทธิ์และข้อกังขา อย่างต่อเนื่อง
.
จากนั้นไอซ์ ได้โพสต์อีก ตั้มข้อสงสัยว่า กัน จอมพลังไม่ยุ่งการเมือง แต่ทำไม ได้งานโครงการใหญ่ๆของกระทรวงเกษตรฯหลายโครงการ แถมได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวง ไปปฏิบัติภารกิจฮีโร่ช่วยเหลือคนด้วย
.
ล่าสุดมีเหล่าเพจดัง ได้โพสต์ข้อความ กัน จอมพลัง ประกาศลงสมัคร สส.เขตบางบอน สู้ไอซ์ รักชนก โดย กัน จอมพลัง ได้แชร์โพสต์ดังกล่าว พร้อมระบุข้อความว่า
.
"ถึงกับต้องปล่อยข่าวปลอมกันแล้ว คือจะเอาให้ผมดูแย่ให้ได้แล้วก็มีคนเชื่อจริงๆนะ ยืนยันนี่ไม่ใช่ข่าวจริง เป็นข่าวปลอมผมไม่ยุ่งและไม่เล่นไม่การเมือง ไม่มีสังกัดพรรคไหน ยังยืนยันเหมือนเดิม เอางี้ไหมครับใครที่ยืนยันว่าจะผมจะลงสมัคร สส. เดิมพันมือออกคนละข้างกับผมได้เลยครับ เริ่มตั้งแต่เลือกตั้งรอบนี้ ช่วยกันส่งต่อแก้ข่าวด้วยครับ"
.
.

.
ทหารเขมรป่วน ! ยิงหนังสติ๊กเข้ามาฝ่ายไทย ตะโกนด่ายั่วยุ พบโดรนบินตรวจการณ์ ไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจ
.
สถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารเขมรป่วน ! ยิงหนังสติ๊กเข้ามาฝ่ายไทย ตะโกนด่ายั่วยุ บริเวณปราสาทตาควาย พบโดรนบินตรวจการณ์ 12 ลำ ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์
.
(19 ต.ค. 68) ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สถานการณ์โดยรวม พบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา โดยตรวจพบโดรนบินตรวจการณ์ ที่ ภูมะเขือ 3 ลำ, พลาญยาว 4 ลำ, ปราสาทตาควาย 1 ลำ, ช่องโอบก 3 ลำ, ช่องสายตะกู 1 ลำ อีกทั้งทหารกัมพูชาได้ทำการก่อกวนใช้หนังสติ๊กยิงเข้ามาฝ่ายเรา ตะโกนด่ายั่วยุ บริเวณทิศตะวันออกของปราสาทตาควาย และยังพบทหารกัมพูชา 10 นาย พร้อมอาวุธประจำกาย กำลังมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ชายแดน คาดว่าเป็นการเดินลาดตระเวนในพื้นที่
.
ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่